เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
NOLA. NOLA.Samanthachiew
2
  • 2

    เจสันส่ายหน้า “ไม่” เขาปฏิเสธ “คุณจะไปจากผมอย่างนี้ไม่ได้”


    “ฉันยอมแพ้” โนร่ายกมือขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “คุณจะด่าว่าฉันเป็นผู้หญิงเลวร้ายแบบไหนก็ได้ แต่มันจะไม่มีวันเลวร้ายไปกว่านั้นแล้ว เจสัน คุณทำให้ฉันตกต่ำไปกว่านี้ไม่ได้ ในเมื่อฉันผ่านจุดต่ำสุดนั้นมาแล้ว” ฝ่ามือบางวางบนหน้าท้องของตนเองแน่น


    ดวงตาสีดำของเจสันมองตรงมายังเธอนิ่ง ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมา “ไม่ --” เขาพูดช้าๆ “ไม่นะ โนร่า”


    แต่อีกฝ่ายพยักหน้า “ใช่ เจสัน ฉันทำลงไปแล้ว” เธอกระซิบตอบ “ฉันปล่อยเขาไป--” ฝ่ามือกดแน่นลงบนท้องตัวเอง “ฉันยอมปล่อยเขาไป -- ลูกของเราจากโลกนี้ไปแล้ว -- นั่นคือเหตุผลที่ฉันหายไปจากชีวิตคุณเป็นเดือน”


    ใบหน้าของเจสันซีดสนิท คล้ายสติหลุดออกจากร่างไปแล้ว “ทำไม --” เขาถามเสียงแหบพร่า


    “ฉันกลัว” โนร่าพูดเสียงสั่น “คุณรู้ว่าเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน แต่คุณก็ยังไม่กล้าเปิดเผยฉันต่อหน้าใครๆ เจสัน”


    “คุณพรากเขาไปจากผมเพราะเรื่องนี้หรือ” เจสันย้อนอย่างไม่เชื่อหูตนเอง “เพราะกลัวว่าคุณจะไม่ได้รับการเชิดหน้าชูตาอย่างงั้นหรือ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม --”


    “เจสัน คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ” โนร่าพูดเสียงเบาหวิว “ฉันไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะโดนใครดูถูกเหยียดหยาม ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่สนใจมันเลยสักนิด -- แต่ที่ฉันกลัว... ฉันกลัวลูกของฉันจะเกิดมาโดยไม่ได้รับการยอมรับ--”


    “ลูกของเรา” เจสันแก้ “เขาคือลูกของผม --”


    “ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของฉัน ฉันมีแต่แม่คนเดียว ไม่เคยมีพ่อ ฉันถูกทุกคนในหมู่บ้านตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ เป็นลูกนอกสมรส  และไม่ว่าแม่จะบอกกับฉันตลอดเวลา ว่าฉันเกิดขึ้นมาจากความรักของแม่และพ่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่ลึกๆในใจแล้ว ฉันกลับรู้สึกผิดตลอดเวลา ว่าฉันไม่สมควรเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ -- และนี่คือวังวนชีวิตที่ลูกของฉันต้องไม่เจอ” โนร่าพูดต่อไป ราวกับไม่ได้ยินเสียงของเจสัน “โลกนี้มันโหดร้ายเกินไปสำหรับเขา ตราบใดที่ชีวิตลับของเรายังคงเปิดเผยไม่ได้ และไม่ได้รับการยอมรับ -- คุณรู้ไหมว่ามันเลวร้ายแค่ไหน --”


    เจสันส่ายหน้า ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำและคลอไปด้วยน้ำตา “คุณควรจะปรึกษากับผมก่อน --” เขาว่า “คุณก็รู้ว่าผมอยากมีลูกมากแค่ไหน -- คุณก็รู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมกับภรรยาพยายามกันมากแค่ไหน เพื่อที่จะได้มีโอกาสสักนิด --”


    แต่โนร่าไม่ฟังเสียงนั่น


    “มันจะจบลงวันนี้” โนร่ากระซิบ “ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันเหนื่อยเหลือเกิน”  


    ราวกับรู้ตัว เจสันขยับตัว เดินเข้ามาใกล้เธออย่างรวดเร็ว “โนร่า ฟังนะ ผมขอโทษที่พูดไม่ดีกับคุณ --”


    “เจสัน” โนร่าเอ่ยเสียงเบาหวิว “บอกฉันตามตรงเถอะนะ อย่าโกหกฉัน -- สมมติว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น -- และอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ ลูกของเราเกิดมาบนโลกใบนี้ -- ถึงตอนนั้น คุณจะกล้าเรียกเขาต่อหน้าใครต่อใครว่าเป็นลูกของคุณหรือเปล่า”


    คำถามของเธอไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา -- ทั้งหมดที่เขาแสดงออกมาคือจ้องมองเธอด้วยน้ำตา


    โนร่าพยักหน้า เธอรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว  “มันไม่ใช่เพราะคำพูดที่คุณเพิ่งพูดออกมาหรอก เจสัน แต่มันเป็นเพราะสิ่งที่คุณทำในตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ต่างหากล่ะ” โนร่าพูดอย่างอ่อนแรง ราวกับเรี่ยวแรงในร่างกายได้หายไปหมดสิ้น “คุณปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นเพียงเศษขนมหวานชิ้นหนึ่งจริงๆ แล้วนั่นจะทำให้ลูกของฉันกลายเป็นอะไร เจสัน -- เศษเสี้ยวของเศษขนมหรือ”


    “ลูกของเรา” เจสันแก้อีกครั้งด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว เขาหลับตาแน่นราวกับพยายามควบคุมไม่ให้อารมณ์ระเบิดออกมา


    โนร่ามองเขาด้วยน้ำตาเต็มตา ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างหมดแรง


    ร่างหนาเสยผมสีดำเข้มของตนไปให้พ้นหน้า “ตกลง โนร่า ผมผิดเอง” เขาพูดขึ้นในที่สุด “แต่เราเริ่มต้นกันใหม่ได้นี่ ที่รัก เราสามารถทำให้เรื่องทั้งหมดนี่เป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น --”


    “กาย” โนร่าโพล่งออกมา “นั่นคือชื่อของเขา -- กาย -- และเขาเคยมีอยู่จริง -- ข้างในนี้ ในตัวฉันนี่ ฉันจะลืมเขาไปได้ยังไง ในเมื่อฉันคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา” โนร่าสะอื้น “เขาไม่ได้เป็นแค่เพียงฝันร้ายหรอกนะ เจสัน คุณพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง”


    เจสันเงียบไปนาน ก่อนจะถามเธออย่างแผ่วเบาว่า “คุณจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับสื่อไหม”


    โนร่าหันขวับมาทางอีกฝ่าย “ฉันไม่ได้ต่ำช้าขนาดนั้น เจสัน” เธอพูดเสียงเย็น “คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน”


    “อย่ามองผมแบบนั้น” เจสันพูดเสียงดุดันขึ้นมา หญิงสาวจึงเบือนหน้าหนี


    ในที่สุดเจสันก็ส่ายหน้า พูดออกมาอีกครั้งว่า “คุณแน่ใจหรือ ว่าคุณจะอยู่ได้โดยไม่มีผม ที่รัก”


    ดวงตาสีฟ้าของหญิงสาวยังคงรื้นไปด้วยน้ำตา “ฉันอาจจะมีคุณอยู่ด้วยมานาน -- แต่ครั้งหนึ่งฉันก็เคยอยู่ได้ โดยไม่มีคุณมาก่อนเช่นกัน -- ฉันเคยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้มแข็งมาก -- และเธอคือคนที่ทำให้ฉันเชื่อว่า ฉันจะอยู่ได้โดยไม่มีคุณ เจสัน --”


    คำตอบนั่นทำให้ใบหน้าเขาแดงก่ำขึ้น ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม โนร่าถอยหนีทันที “คุณไปเสียเถอะ เจสัน” เธอพูดเสียงสั่นเทา “ได้โปรด --”


    เขาพยักหน้าช้าๆ สูดลมหายใจลึก ราวกับพยายามปรับอารมณ์ให้คงที่ -- เขาขยับตัวเข้ามาใกล้เธอ ใบหน้าอันคมสันยื่นเข้ามาใกล้ แต่โนร่าถอยหนีอีกครั้ง --


    กิริยาที่เธอแสดงออกมานั้น ทำให้อีกฝ่ายนิ่งไป เจสันจ้องเธออยู่นาน ในที่สุดเขาก็ยินยอมถอยออกมา แล้วเดินจากไป 


    โนร่าเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอแทบกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่ในตอนที่ร่างสูงของเขาเดินผ่านร่างของเธอไป หญิงสาวมองผ่านผ้าม่านออกไปนอกหน้าต่าง จ้องมองแสงสว่างเพียงเล็กน้อยจากเสาไฟริมถนนยามเช้ามืด “ลาก่อนค่ะ เจสัน” เธอกระซิบ


    “ลาก่อน” เสียงของเจสันดังมาจากทางด้านหลัง “ลาก่อน โนร่า” 


    สิ้นเสียงนั้น ร่างของเธอก็ถูกกอดรัดมาจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็วและรุนแรง โนร่ากรีดร้องออกมา เมื่อถูกท่อนแขนของเจสันรัดแน่นจนเจ็บสะท้าน ราวกับถูกรัดด้วยงูเหลือมตัวใหญ่


    “เจสัน!” เธอร้อง แต่แล้วเสียงก็หายไป เมื่อถูกมือหนาบีบเข้าที่ลำคอแน่น 


    โนร่าตกใจสุดขีด มือทั้งสองข้างทุบตีร่างหนา และพยายามสะบัดตัวหนีอย่างสุดแรง หากแต่เจสันแข็งแรงกว่าเธอมากนัก ร่างทั้งสองเซถลาไปมาตามแรงปะทะของกันและกัน โต๊ะข้างๆถูกชนจนล้ม กระเป๋าเดินทางถูกกระแทกไปอีกทาง


    โนร่ามองใบหน้าของชายที่รักจากทางหางตา มองดูใบหน้าของเขาที่โน้มมาฝังแนบกับลำคอของเธอ มันแดงก่ำและสั่นไหวอย่างรุนแรง หยาดน้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม จนทำให้บ่าเธอเปียก -- โนร่าสั่นสะท้าน เธอรู้สึกเหมือนกำลังมองปิศาจรูปงามที่กำลังจะฆาตรกรรมเธอด้วยความเศร้า และความโกรธแค้นสุดหัวใจ


    หญิงสาวพยายามไขว่คว้าอิสรภาพ มือข้างหนึ่งจิกเข้าไปในมือหนาที่กำลังบีบคอของเธอ มืออีกข้างดึงทึ้งศีรษะของอีกฝ่าย ภาพตรงหน้าเริ่มพล่าเลือน และลมหายใจของเธอก็แทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในร่างอีกต่อไป


    “ลาก่อน โนร่า” เสียงเจสันดังแว่วเข้ามา “ลาก่อน ขนมหวานสีแดงที่รัก--”


    ร่างของโนร่าขยับขึ้นอีกครั้ง เฮือกสุดท้ายของชีวิตกระตุ้นให้เธอคว้าสิ่งแรกที่สัมผัสได้ในกระเป๋าเสื้อคลุม เธอคว้ามันมากำไว้แน่น แล้วโถมซัดมันเข้าใส่กลางหน้าของอีกฝ่ายอย่างสุดแรง


    มือหนาของเจสันปล่อยออกจากลำคอของเธอ แล้วเซถลาไปทางด้านหลัง 


    โนร่าสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ พร้อมกับไอออกมาอย่างรุนแรง น้ำตาไหลทะลักออกจากเบ้าตาของเธอ และใบหน้าแดงก่ำจนน่ากลัว


    หญิงสาวหมุนตัวกลับไปมองอีกฝ่าย สลับกับมองสิ่งของในมือตนเอง มันคือโทรศัพท์ที่เปื้อนไปด้วยเลือด -- และจมูกของเจสันก็มีเลือดไหลทะลักออกมา


    เจสันมองเลือดที่มือตนเอง และมองมาที่เธออย่างโกรธแค้น “นังผู้หญิงใจง่ายสารเลว!!!” เขาสบถดังลั่นห้อง วิ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็ว 


    โนร่าหลบได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะสะดุดกระเป๋าเดินทาง ล้มลงบนพื้นห้อง


    เจสันไม่รอช้า คว้าขาข้างหนึ่งของเธอแล้วลากเข้ามาอย่างรุนแรง เขาไม่สนใจสภาพอันน่าสงสาร หรือเสียงกรีดร้องของเธอ ร่างหนาโถมทับกดเธอแนบไปกับพื้น เขาชกไปที่ใบหน้าของเธอเต็มแรง


    “เธอฆ่าลูกของฉัน เธอกล้าดียังไง นังผู้หญิงสารเลว!” เจสันตะโกนลั่นอย่างบ้าคลั่งเหนือร่างของเธอ เขาชกเธออีกครั้งอย่างรุนแรง 


    ในตอนนี้สันดานดิบของเจสันได้เผยออกมา เขาป่าเถื่อน ดุร้าย และคลุ้มคลั่งราวกับสัตว์ป่าเดรัจฉานก็ไม่ปาน เจสันไม่สนใจว่าร่างที่อยู่เบื้องล่างของตนนั้นคือผู้หญิงที่ไร้ซึ่งหนทางต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น แววตาสีดำคู่นั้นปราศจากความเมตตาใดๆ เขาไม่สนใจใบหน้าที่แตกยับเยิน เต็มไปด้วยเลือด และหยาดน้ำตาของอีกฝ่าย มือหนากดลงที่หน้าท้องของหญิงสาวอย่างรุนแรง ขณะตะโกนลั่นทั้งน้ำตาว่า “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้าเอาลูกไปจากฉัน คิดว่าตัวเองเก่งแค่ไหนกัน ถึงจะกล้าเดินทิ้งฉันไปแบบนี้ เธอมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าแม่ของเธอ ที่เป็นแค่ผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่ง นังหมูสกปรก!”


    โนร่าดิ้นพล่านอย่างสุดชีวิต เธอได้กลิ่นคาวเลือดไปทั่วทั้งใบหน้าของตนเอง ริมฝีปากที่เคยพูดเพียงประโยคอันแผ่วเบา บัดนี้กลับคำรามลั่นอย่างน่ากลัว ราวกับเหยื่อที่กำลังดิ้นรนไขว่คว้า เพื่อหาโอกาสเอาชีวิตรอด มือบางอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอข่วนลึกเข้าที่นัยน์ตา จนเขาร้องโหยหวนออกมาลั่นห้อง


    โนร่าผละหนีออกมาจากใต้ร่างหนา กลิ้งตัวหลบอีกครั้งเมื่อเห็นเขาพยายามจะลากขาของเธอกลับไป


    ร่างบางลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ซวนเซออกแรงวิ่งหนีเจสัน ที่กำลังคลุ้มคลั่ง เธอหลบร่างหนาที่วิ่งโถมใส่เข้ามา จนกระแทกเข้ากับหน้าต่างจนกระจกแตกกระจาย โนร่ากรีดร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อเท้าเหยียบลงบนเศษกระจกที่ร่วงหล่นลงมา เธอรีบเบี่ยงตัวหลบอีกรอบ เมื่อเห็นร่างหนากระชากผ้าม่านตรงหน้าต่างออก แล้วตามไล่ล่าเธอมาติดๆ


    “เจสัน!” โนร่าร้องทั้งน้ำตา แทบไม่มีเสียงหลุดรอดออกมาจากลำคอที่มีรอยช้ำน่ากลัว


    “ว่าไง ที่รัก ยังจำชื่อกันได้อยู่หรือ” เขาตะคอก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลดูน่ากลัวยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ “ทำไมไม่นึกให้ได้ก่อนจะทำอะไรโง่ๆล่ะ!!”


    “หยุดทำร้ายฉัน เจสัน!” โนร่ากรีดร้องดังลั่น “หยุดทำร้ายฉันเสียที! ฉันในตอนนี้ยังไม่น่าสมเพชพอให้คุณปล่อยฉันไปหรือ ฉันในตอนนี้ยังไม่น่าสงสารพอให้คุณเมตตาอีกหรือ!” 


    คำวิงวอนอย่างเจ็บปวดรวดร้าวนั่นทำให้เจสันหัวเราะเสียงดังลั่น


    “ที่รัก ฉันพูดผิดตรงไหนหรือ” เขาหัวเราะขำขัน น้ำเสียงดูถูกเหยียดหยามหญิงสาวอย่างไม่ปิดบัง  “เธอมันโง่ดักดาน โนร่า และต่อให้ฉันจะทำร้ายเธออีกสักกี่ครั้ง เธอก็จะยอมให้มันมีครั้งต่อไปอยู่เสมอ -- แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอ!”


    จากนั้นเขาก็กระโจนเข้าใส่เธอราวกับปิศาจร้าย มือหนาจิกเข้ากับศีรษะของเธอ และออกแรงกระชากเรือนผมสีทองของเธอเต็มแรง รั้งให้ร่างเธอเซถลากลับมา เขาสะบัดผ้าม่านในมือคลุมร่างเธอ 


    “พูดสิ ว่าเธอเป็นของฉัน!” เจสันตะคอกกรอกหูของหญิงสาว มือหนาคว้าใบหน้าของเธอขณะที่ถูกคลุมด้วยผ้าม่านไว้แน่น “พูดสิ ว่าเธอจะไม่หนีไปไหน พูดออกมาว่าเธอจะไม่ทำร้ายฉันแบบนี้อีก พูดออกมาว่าเธอขอโทษ!”


    เสียงกรีดร้องของโนร่าดังตอบกลับมา ร่างบางดิ้นพล่านราวกับสัตว์ที่รู้ตัวว่ากำลังถูกไล่ต้อนให้มาถึงห้องเชือด แรงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


    แรงต่อต้านนั่นทำให้อีกฝ่ายตกตะลึง เจสันร้องคำรามกลบเสียงกรีดร้องของหญิงสาวราวกับคนเสียสติ “คราวนี้ความลับของเธอกับฉัน มันได้จบลงแล้วจริงๆ โนร่า!” เขาร้องอย่างบ้าคลั่ง


    เป็นตอนนั้นเองที่โนร่าทำในสิ่งที่สัญชาตญาณสั่งให้ทำ ในเสี้ยววินาทีก่อนที่เจสันจะลงมือทำร้ายเธอนั้น มือบางก็สะบัดผ้าม่านออกจากร่าง  เธอออกแรงผลักอีกฝ่ายอย่างสุดชีวิตด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เธอมี เธอได้ยินเสียงคำรามของเจสันดังลั่น จนกระทั่งมันเบาลง คล้ายกับกำลังหายไปในที่ๆไกลออกไป -- ไกลออกไป -- จนกระทั่งมีเสียงกระแทกดังขึ้น -- จากนั้นเสียงของเจสันก็เงียบลงฉับพลัน --


    หญิงสาวยืนตัวแข็ง เย็นไปทั้งร่าง เธอยืนนิ่งสนิทราวกับก้อนหิน -- ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากเผยอออกกว้าง -- เธอนิ่งค้างท่านั้นอยู่เนิ่นนาน จนในที่สุด ปลายเท้าอันเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยเลือดของเธอก็ค่อยๆเดินไปใกล้หน้าต่าง --


    เบื้องหลังผ้าม่านที่ถูกฉีกกระชากหายไปนั้น ปรากฏให้เห็นหน้าต่างบานเดียวกันกับที่อีกาชนกระแทกจนแตกร้าวเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน หากแต่ตอนนี้กลับแตกกระจายจนไม่มีชิ้นดี -- มันเป็นตำแหน่งที่เธอเห็นเจสันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความว่างเปล่า --


    โนร่าค่อยๆขยับตัวเข้าไปชิดขอบหน้าต่าง เธอชะเง้อดูถนนเบื้องล่างที่ยังคงมืดสลัว มีแสงสว่างจากเสาไฟริมถนนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  โนร่ามองภาพเบื้องล่าง ก่อนจะผงะถอยกลับเข้ามาในห้องแทบจะทันที


    หญิงสาวทรุดตัวลงบนพื้น ความเจ็บปวดจากรอยแผลแล่นปราดไปทั่ว ตามใบหน้าและส่วนอื่นๆของร่างกาย -- เธอยกมือขึ้นปิดหน้า แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลอาบแก้ม


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in