เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Midnight Thought (ทูคิมดง)myephemeralmind
OS: ดั่งดวงหฤทัย
  • Note: ดรัณภพ(ดงฮัน) ดารินทร์(fem!ดงฮยอน)





    ดรัณภพถูมือไปมา วาระสำคัญในครานี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าครั้งแรกที่ก้าวออกจากประเทศเสียอีก ใครจะคิดเล่าว่าเมื่อได้กลับมาเยือนอีกครั้ง มันจะทำให้เขาประหม่าถึงเพียงนี้



    ชายหนุ่มพลิกนาฬิกาข้อมือมาดูบ่อยครั้งเพื่อหวังจะลดอัตราความตื่นเต้นลง แต่คงทำให้ผู้เป็นใหญ่ในบ้านเข้าใจว่าเขากำลังร้อนใจกับการรอคอย เธอจึงได้เอ่ยปากออกมาด้วยเสียงตำหนิ



    “เอ... ยัยลูกคนนี้นี่โอ้เอ้จริงๆเลย ขอโทษด้วยนะจ๊ะโด่ง”



    “ไม่เป็นไรครับคุณน้า”



    ดรัณภพค้อมหัวลงเล็กน้อยให้กับคุณหญิงเดือนแข ภริยาท่านทูตไทยในกรุงออสเตรีย เพื่อนรักของคุณพ่อของเขา ทั้งสองตระกูลเกี่ยวดองกันมาเนิ่นนาน ทำให้คุณหญิงไม่เพียงแต่จะเป็นภริยาของเพื่อนรักพ่อของดรัณภพ แต่ยังมีศักดิ์เป็นแม่ของว่าที่ภริยาในอนาคตของเขาอีกด้วยด้วย



    จะใครกันล่ะ



    ก็คุณหนูดารินทร์ บุตรสาวคนเล็กของท่านทูตและคุณหญิงไงเล่า



    “คุณหนูลงมาแล้วค่ะ” เสียงของป้าน้อย คนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลดังขึ้นเรียกความสนใจของเขาให้ไปยังต้นทาง



    ดวงหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโตทอประกายสดใส รายล้อมด้วยแพขนตางอนหนา พวงแก้มนิ่มและริมฝีปากอิ่มถูกแต่งแต้มด้วยสีสัน วันนี้คุณหนูดารินทร์ดูแปลกตา คงเพราะวันนี้เจ้าหล่อนถูกจับแต่งในชุดกระโปรงฟูฟ่อง สวมรองเท้าส้นสูงสีชมพูหวานเข้ากับชุด ขัดกับภาพชินตาที่คุณเธอรักจะสวมกางเกงให้ทะมัดทะแมง





    คนที่กำลังรอคอยปรากฏตัวขึ้น



    ใจเจ้ากรรมก็พลันสั่นระรัว





    ไม่ทันจะขาดคำ หญิงสาวก็กลับมาเป็นดารินทร์คนเดิม ด้วยท่าทีบนส้นสูงให้ลุ้นว่าจะล้มแหล่ มิล้มแหล่ ไหนจะท่าทีบึ้งตึงยามที่เห็นหน้าเขาอีก



    ใบหน้าง้ำงอของหญิงสาวนี่แหละที่ดรัณภพแสนจะคุ้นตา



    คุณหนูดารินทร์ผู้แสนจะซุกซน ขยันแจกรอยยิ้มให้คนไปทั่ว แต่ปั้นปึ่งใส่เขาอยู่เสมอ



    “ยัยริน มัวทำอะไรอยู่ถึงได้ชักช้าขนาดนี้ พี่เขารอนานแล้วนะ”



    “ขี้คร้านจะรอนักก็ไปกับคนอื่นสิคะ โอ๊ย!”



    “ยัยลูกคนนี้หนิ พูดกับพี่เขาดีๆหน่อย” คนเป็นแม่หยิกเข้าที่ข้างเอวจนหญิงสาวร้องโอ๊ยออกมา ก่อนจะส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้ตัวต้นเหตุสำหรับเธอ



    “คุณน้าอย่าว่าน้องเลยครับ ผมไม่ถืออยู่แล้ว” พยายามที่จะส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจกลับไป แต่ได้รับตอบกลับมาแค่จากผู้เป็นแม่เท่านั้น ไม่อาจเปลี่ยนสีหน้าหญิงสาวได้เลย เจ้าตัวดื้อในวัยเด็กเคยเป็นอย่างไร โตจนสวยสะพรั่งเช่นนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด



    “งั้นคืนนี้น้าฝากด้วยนะคะ ถ้ายัยหนูไปซนที่ไหนก็ดุได้เลย”



    “ยินดีครับ”





    “ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะคุณแม่บังคับให้มา รินไม่มาหรอกนะคะงานนี้”



    “ทราบครับ”



    “ถ้าไม่ใช่เพราะพี่โด่งเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ คุณแม่ก็ไม่บังคับรินหรอกนะคะ”



    “อันนี้ก็ทราบครับ”



    ยัยตัวเล็กขู่ฟ่อไม่ต่างกับลูกแมวตลอดทางที่ดรัณภพขับรถพาเธอออกจากบ้านมาและมุ่งตรงสู่งานการกุศลในค่ำคืนนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหญิงสาวจะเกลียดงานราตรีแค่ไหน ในเมื่อเธอต้องมาแต่งหน้าแต่งตา สวมชุดกระโปรงกับรองเท้าส้นสูงเช่นนี้





    เพราะทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมาเนิ่นนาน และเพราะถูกหมั้นหมายแต่เล็กแต่น้อย ในวัยเด็กเขาจึงได้ไปมาหาสู่ที่บ้านของดารินทร์บ่อยครั้ง



    เด็กสาวแสดงท่าทีไม่ชอบเขาเสมอมาตั้งแต่เริ่มรู้ความว่าหมั้นหมายที่ผู้ใหญ่หมายถึงคืออะไร แต่เพราะเขาเคยเห็น หญิงสาวที่ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขยามได้วิ่งเล่นซุกซนในสวน เพราะรอยยิ้มตอนนั้นกระมังที่ทำให้ไม่เคยรู้สึกยอมแพ้ แม้จะถูกแสดงท่าทีเหม็นเบื่อขนาดไหน





    “ตายแล้วตาโด่ง ไม่เจอกันนาน หล่อขึ้นเป็นกองเลยนะ”



    “หนูรินเป็นสาวซะแล้ว คุณหญิงไม่มาด้วยเหรอคะ”



    “เหมาะสมกันจังเลยนะทั้งคู่น่ะ”



    “คุณพ่อไม่มาด้วยเหรอโด่ง”





    ตลอดทางเข้างาน เต็มไปด้วยแขกเหรื่อที่คุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นบ้างทักทายเต็มไปหมด ทางดรัณภพคุ้นชินดีแล้วกับอะไรเช่นนี้ แต่หญิงสาวที่ยิ้มจนฝืนเกร็งนี่สิ ไหนจะมือที่ควงแขนเขาแน่น ไม่ปล่อยไปไหน



    น่าเอ็นดู



    ตอนลงจากรถเถียงไม่ตกฟาก ให้ตายอย่างไรก็จะไม่ขายหน้าควงแขนเขาออกงาน แต่เพราะส้นสูงเลยจะล้มอยู่ร่ำไปเช่นนี้เลยยอมแต่โดยดี



    จบงานเมื่อไหร่ เธอคงได้กลับไปสวมกางเกง แล้ววิ่งเล่นให้หนำใจ





    “ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านออกมาร่วมเต้นรำที่กลางฟลอร์ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับงานในค่ำคืนนี้ครับ”



    สิ้นเสียงโฆษก ชายหญิงที่มากันเป็นคู่ล้วนไม่รอช้าที่จะควงกันออกไป มีเพียงสาวน้อยข้างกายเขาที่มีท่าทีอิดออดกว่าใครอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมลุกตามมาโดยดี



    ดรัณภพค่อยๆประคองหญิงสาวไปตามจังหวะเพลง หลายครั้งแล้วที่เธอเผลอเหยียบเท้าเขา แทนที่จะก้าวไปตามท่าเต้น เมื่อคราวยกแขนขึ้นให้เธอหมุนตัว ท่าทีที่ติดขัดทำให้ชายหนุ่มอดจะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างเอ็นดูไม่ได้



    แต่ดูท่าคู่เต้นของเขาจะตีความในแง่ร้ายไปหน่อย เพราะเมื่อหันกลับมาสบตากัน สาวเจ้ากับทำหน้าบึ้งตึงใส่ราวกับคิดว่าที่เขาหัวเราะไปคือการเย้ยหยัน



    “ถ้ารินเต้นแย่มากก็ไปเชิญคนอื่นเต้นแทนเถอะนะคะ รินไม่ถือ”



    “พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย”



    “หน้าพี่โด่งมันฟ้อง”



    “หน้าพี่มันยังไงคะ”



    ดารินทร์เม้มปากแน่น ใบหน้าน่ารักง้ำงอไม่เลิก เป็นมาตั้งแต่ก่อนเข้างานจนถึงตอนนี้



    เขาเข้าใจดี หญิงสาวไม่เคยโปรดปรานงานราตรีอยู่แล้ว ครั้งนี้เองก็ถูกพ่อบังคับให้มาร่วมงาน เนื่องด้วยเป็นการต้อนรับการกลับมาจากเมืองนอกของดรัณภพ



    และดรัณภพเองก็อยากประกาศให้ชายทั้งพระนครรู้จะแย่ ว่าคุณหนูดารินทร์ที่เป็นที่หมายปองอย่างเงียบๆของใครหลายคนนั้น เป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขาเพียงคนเดียว



    “น้องรินไม่อยากเต้นรำแล้วใช่ไหมคะ”



    “รินไม่อยากมางานนี้ค่ะ”



    “งั้นพี่พาออกไปนะ”



    “คะ?”



    “ตามพี่มาค่ะ”



    เพลงแรกดำเนินมาใกล้ตอนจบ เป็นสัญญาณให้หนุ่มสาวสลับคู่เต้นรำ แต่ดรัณภพไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่ ไม่รอช้าที่จะอธิบายคนตรงหน้า เขาค่อยๆดึงหญิงสาวออกมาข้างนอกงานทันทีที่เพลงจบลง





    จูงหญิงสาวออกมาที่สวนด้านหน้า พาเธอนั่งลงบนม้านั่งแถวนั้น สาวเจ้ากะพริบตาปริบๆ



    “พี่โด่งจะพารินไปไหน เราเพิ่งมางานไม่นานนะคะ...” คำพูดดูขัดแย้งกับในตอนแรกที่ตั้งท่าไม่อยากมาเต็มเปี่ยม แต่ดรัณภพเข้าใจดี ไม่ใช่ว่าเธออยากอยู่ต่อนักหรอก แต่ทว่า



    “ยังไม่พากลับหรอกค่ะ แต่น้องรินมานั่งพักนอกงานดีกว่า...เต้นนานๆเดี๋ยวเมื่อยเท้าแย่”



    “ใจดีจริงๆนะคะ”



    “กับน้องรินก็ต้องใจดีสิคะ” ดารินทร์เบ้ปาก ดรัณภพนั่งลงข้างๆม้านั่งนั่น มองดูหญิงสาวที่ค่อยๆถอดรองเท้าออกแล้วก้มลงนวดเท้าตัวเองเบาๆ “ให้พี่นวดให้มั้ย”



    “รินทำเองได้ค่ะ”



    ยังคงเหมือนเดิม เหมือนเด็กน้อยวันนั้นที่วิ่งเล่นซนจนหกล้มแล้วปฏิเสธการทำแผลของเขา ในวันนี้แค่เติบโตขึ้น งดงามมากขึ้น



    “ถ้าเราแต่งงานกันไป...น้องรินจะไม่ต้องมางานสังคมแบบนี้บ่อยๆหรอกนะ”



    เธอชะงักไป หันขวับมามองเขา ปากอิ่มเม้มเชิดขึ้นอีกแล้ว



    “ฝันเถอะค่ะ ใครจะแต่งงานกับพี่โด่ง”



    “มีใครคนอื่นในใจแล้วเหรอคะ”



    แล้วดารินทร์ก็ลุกพรวดพราดขึ้น แม้จะยังใส่รองเท้าไม่เต็มเท้าด้วยซ้ำ นั่นทำให้การทรงตัวเสียศูนย์ เธอล้มลงไปแน่ ถ้าดรัณภพไม่ไวพอที่จะเข้าประคองไว้ก่อน



    ท่วงท่าคล้ายกำลังตระกองกอด แต่เป็นเขาเองที่ผละออกก่อนเมื่อช่วยให้หญิงสาวทรงตัวได้แล้ว



    ไม่ดีแน่ถ้าใครจะเห็นเข้า



    “เคยมีค่ะ แต่คนคนนั้นหายไปเมืองนอกตั้งนาน รินไม่รักเขาแล้ว” คล้ายจะตัดพ้อ แต่ถ้อยคำทำให้หัวใจชายหนุ่มสั่นระรัว เมื่อสบสายตาเข้า สาวเจ้าก็หลบหน้าหนี ไม่สู้สายตาเสียอย่างนั้น ไหนจะถดหนีไปข้างหลังอีกสองสามก้าว “พี่โด่งอย่าเข้ามานะคะ รินไม่คุยด้วย”



    “โกรธพี่เรื่องไปเมืองนอกเหรอคะ”



    “พี่โด่งไปไม่ลานี่คะ...” เธอกลับมาทำหน้าบึ้ง แต่แก้มใสระเรื่อด้วยเลือดฝาด “...คิดจะกลับมาก็กลับมา”



    “พี่กลับมาแล้วค่ะ พี่กลับมาแล้ว” เขาค่อยๆเดินเข้าไปหา ดึงหญิงสาวเข้ามาสู่อ้อมกอดอย่างแผ่วเบา ครั้งนี้เธอไม่ดื้อด้าน ไม่ขัดขืน



    เด็กน้อยโผเข้าสู่อ้อมกอดของพี่ชาย





    ไม่สนใจแล้วหากใครจะเห็น วินาทีนี้ดารินทร์น่ารักเกินกว่าเขาจะหักห้ามใจ ใครจะพบเห็นก็ช่างปะไร



    อย่างไรเสีย เธอคือเจ้าสาวของเขา











    #มนต101 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in