หลังจากทนทรมานกับการเรียนออนไลน์ที่ไทยได้เกือบสองเดือนสุดท้ายก็ได้บินแล้ว
บนเครื่องบินก็คือโล่งมากก เผลอแปปๆก็ถึงญี่ปุ่นละ พอลงจากเครื่องบินก็มีการเช็คเอกสารเล็กน้อยเพราะเป็นช่วงโควิดแต่ก็เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง แล้วตรงตม.ก็ผ่านมาได้ฉลุย พอเรามีวีซ่าที่เขียนหมายเหตุว่า GOV. SCHOLAR จนท.ก็ไม่ถามไรอีกเลย พอผ่านจุดนั้นก็จะมีรถตู้มารับไปโรงแรมที่เรากักตัว พร้อมกับนักศึกษาทุนมงคนอื่นที่พักอยู่โรงแรมเดียวกัน คือเรามีความตั้งใจตั้งแต่ก่อนมาญี่ปุ่นแล้วว่าจะหาเพื่อนให้ได้เยอะๆตอนที่กำลังรอจะขึ้นรถตู้เราก็เลยลองทักคนนึงดู ก็ได้รู้ว่าเป็นคนอินโด มาเรียนต่อป.โทที่มอเดียวกันด้วย แต่ว่าพูดญี่ปุ่นไม่ได้ เราที่เตรียมตัวมาพูดภาษาญี่ปุ่นเต็มที่นั้นก็เลยต้องคุยด้วยภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆไปจนถึงโรงแรม555 แล้วคนนี้ก็กลายมาเป็นเพื่อนกันจนถึงวันนี้เลย
เรื่องโรงแรมที่กักตัวเราได้พักที่ Mystays Premire Narita อยู่ในจังหวัดจิบะ ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบินเรื่องโรงแรมคือทุนจัดการให้หมดเลยเราไม่ต้องทำไรสักอย่าง และโรงแรมที่ได้ก็ดีมากๆ พอถึงโรงแรมก็ได้คีการ์ดแล้วก็ฟังจนท.อธิบาย ยอมรับเลยว่าตอนนั้นฟังไม่ออกเลย มาอ่านเอาเองทีหลัง555 เราได้ห้องพักอยู่ชั้นที่ 7 มั้งนะถ้าจำไม่ผิดวิวจากห้องสวยมากๆ อยู่ฝั่งที่พระอาทิตย์ขึ้นด้วย ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเกือบทุกวัน มองลงไปก็เห็นสวนในโรงแรมด้วยเรามาถึงญี่ปุ่นตอนต้นธันวาแต่อากาศยังไม่หนาวมาก แถมยังมีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นด้วยสวยแล้วก็บรรยากาศดีมาก แต่มองไปรอบๆโรงแรมไม่มีอะไรเลยนะ มีแต่ป่า กับถนน
และสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับการกักตัวก็มีแค่หนึ่ง อาหารต้องลงมาซื้อเองที่คมบินิ(ร้านสะดวกซื้อ) มีอยู่ในโรงแรม สอง ต้องลงมาวัดไข้ที่ชั้นหนึ่งทุกวันในช่วงเวลาที่กำหนดแล้วก็สามจะมีคนเข้าไปทำความสะอาดห้องทุกๆสี่วัน เอาจริงๆเลยนะแค่รู้ว่าต้องลงมาซื้อข้าวกินเอง ต้องลงมาวัดไข้ก็เริ่มคิดละนะว่านี่มันกักตัวจริงๆหรอ555 ละช่วงลงมาซื้อข้าวหรือวัดไข้ก็จะเป็นช่วงที่ได้เจอเพื่อนๆ บังเอิญเจอบ้างนัดกันบ้าง แล้วโรงแรมที่เราอยู่เนี่ยก็ไม่ใช่โรงแรมสำหรับกักตัวโดยเฉพาะ ก็เลยมีแขกคนอื่นๆอยู่ด้วย แล้วก็ไม่มีใครแยกออก และที่สำคัญคือตั้งแต่เรามาอยู่ก็ไม่เคยได้ยินกฎอย่างเช่นห้ามออกจากห้องหรือห้ามออกจากโรงแรมหรือไรงี้เลย มีแต่แค่บอกว่าห้ามใช้รถสาธารณะ เราก็เลยลองออกไปเดินเล่นที่สวนในโรงแรมบ้าง ออกไปเดินเล่นรอบๆโรงแรมบ้าง สรุปก็คือไม่เป็นไร แต่ก็ไปไม่ไกลหรอกนะเพราะมันไม่มีอะไรเลย 555
ตอนแรกที่คิดไว้ว่าการกักตัวมันจะต้องเหงามากๆอยู่ห้องคนเดียวตลอด 24 ชม ไม่ได้เจอเพื่อน ละวันเกิดเราดันอยู่ในช่วงนี้ด้วย ตอนแรกที่รู้ว่าต้องกักตัวก็คือเศร้า แต่สรุปก็คือได้เจอเพื่อนเกือบทุกวัน ได้ไปเดินเล่นถ่ายรูป ตอนวันเกิดเพื่อนก็ยังซื้อเค้กมาเซอไพรส์ด้วย เป็นการกักตัวที่อิสระแล้วก็สนุกเฉยเลย555
เอาเป็นว่าเราก็ผ่านช่วงกักตัวสองอาทิตย์ไปแบบสบายๆ และยังไม่ติดโควิด แถมยังออกจะสบายเกินไป จนวันที่ต้องออกจากโรงแรมยังอดเสียดายไม่ได้ทั้งเตียงนุ่มๆ ห้องน้ำกว้างๆ มีคนมาทำความสะอาดให้อีก ความสะดวกสบายแบบนี้จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มันทำให้เราอาลัยอาวรณ์มาก โดยเฉพาะสายฉีดชำระ เพราะว่าที่หอเรามันไม่มี แง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in