บางทีก็รู้สึกอิจฉาพี่กับน้องอยู่ลึกๆ ได้เรียนสิ่งที่อยากเรียน ได้ทำสิ่งที่อยากทำ และได้ในสิ่งที่อยากได้เสมอ
พ่อแม่มักบอกว่าพวกเขารักลูกเท่าๆ กัน แม่งก็แค่คำลวง
เอ่ยปากขอในเรื่องเดียวกัน คนที่ได้ก่อนมักเป็นน้องเสมอ พี่ชายคนโตลูกรักของพ่อกับแม่ก็พอกัน ได้ทุกอย่างเพียงแค่เอ่ยปากขอ ในขณะที่เราต้องนั่งเก็บเงินเองบ้าง เอาเกรดมาแลกบ้าง แม่กระทั่งของขวัญวันเกิดยังไม่เคยได้เลย
พ่อแม่บอกทุกอย่างให้เรารู้เสมอ แต่บางทีเราก็อยากเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่ต้องมารับรู้ปัญหาต่างๆ ภายในบ้าง เรื่องเงินบ้างล่ะ เรื่องความเจ็บป่วยของแม่ ปัญหาการมีกิ๊กของพ่อ
เราไม่ใช่ลูกคนโต แต่มักเป็นเราเสมอที่ต้องมารับรู้ในสิ่งที่ไม่อยากรู้ และเจ็บปวดกับความรู้มากที่ถูกพ่อกับแม่ยัดเยียด
คราวนี้เราลองเอ่ยปากขอเป็นครั้งแรก เราแค่อยากย้ายไปอยู่หอคนเดียว
การเรียนแม่งก็หนักจนแทบจะล้มทับตัวเราตาย เราอึดอัด กับรูมเมทที่อยู่ด้วยกันมาสามปี มันเคยมีแต่เรื่องราวดีๆ เพราะเรามีพื้นที่ที่เว้นไว้ให้กันเสมอ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เวลานอนก็ไม่ตรงกัน เราจะนอนเพื่อนไม่นอน บอกให้ปิดไฟเพื่อนก็ต้องใช้อีก เวลาส่วนตัวแทบไม่มี เราอยากจะออกไปอยู่คนเดียว ไปอยู่ในที่ที่มีพื้นที่ให้หายใจ เวลาส่วนตัว และช่องว่างความสัมพันธ์แบบพอดีๆ ที่เราเคยได้
เหมือนลูกโป่งที่ถูกเติมลมจนเต็มได้ล่องลอยไปดูความสวยงามบนท้องฟ้ากว้าง
เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ยอมเรา
ความหวังเราเต็มปรี่ เราดีใจ เริงร่าออกตามหาหอที่ใช่ และราคาที่ไม่เป็นภาาระของพวกท่านมากเกินไป
แต่พ่อแม่ก็ปาเข็มใส่ลูกโป่งของเราแต่มันล่วงลงสู่พื้น เหมือนความหวังของเราที่ถูกเหยียบย่ำซ้ำๆ ด้วยคำว่าเข้าใจพ่อกับแม่ใช่ไหม
เรามึนงง สับสน และสงสัย
เป็นเพราะพี่ชายเราอีกแล้ว บางครั้งเราก็นึกน้อยใจ ไม่สิต้องบอกว่าบ่อยครั้ง
ทำไมเราที่ยอมเรียนตามเส้นทางที่พ่อแม่อยากให้เรียน ทิ้งความฝันของตัวเองไว้ข้างหลัง แล้วเดินไปทางที่ถูกกำหนดไว้ แม่แม่งจะโคตรยาก โคตรทรมาณใจเราก็ทำ เราไม่เคยมีความสุขกับมันเลย แล้วทำไมกับการขอพื้นที่ความสุขเล็กๆ แค่นี้ถึงให้เราไม่ได้
ทนหน่อยได้ไหมลูก
แค่ได้ยินคำนี้เราก็จุกแล้ว เราอยากโวยวายอยากถามออกไปว่า แล้วเราตอบว่าไม่ได้ พ่อแม่จะให้เราทำตามที่ต้องการหรือ
เข้าใจแม่กับพ่อใช่ไหม
เราได้แต่เงียบ ถ้าเราตอบว่าไม่เข้าใจมันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไหม
ช่วยพ่อแม่หน่อยได้หรือเปล่า
เราอยากจะร้องไห้ ไม่ดิใจเราร้องให้ไปตั้งแต่แม่บอกว่าสิ่งที่คุยกันไว้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้ว
เหมือนมีก้อนบางอย่างแล่นมาจุกอยู่ตรงลำคอ เราอยากพูดอยากตะโกน อยากเถียงออกไปใจจะขาด แต่ทำได้แค่กลั้นน้ำตาไว้เงียบๆ รูมเมทก็อยู่เต็มห้องเราไม่อยากร้องไห้ และเราก็ไม่อยากจะร้องให้แม่ได้ยินด้วย
สรุปก็ต้องทนใช่ไหมละ
เราถามออกไปในที่สุดเสียงเราไม่สู้ดีนัก แต่เสียงเร่งเร้าว่าฟังอยู่หรือเปล่าจากปลายสายทำให้ต้องกลั้นใจตอบออกไป ระหว่างนั้นก็มีแต่ความเงียบ พวกท่านเริ่มพูดวนเหตุผลเดิมๆ อีกครั้งๆ
ความคิิดเราไม่มีเสียง เราคิดไปเป็นล้าน แต่เราตอบออกไปแค่หนึ่ง และเป็นเสียงของความคิดที่ดีที่สุดที่คนฟังอยากจะได้ยิน แต่เหมือนมีดเสียดใจคนพูดอย่างเรา
เราแพ้
และเราก็ต้องนั่งจมอยู่กับความคิดนับล้านของเราต่อไป
และก็จมอยู่กับน้ำตาที่มีเพียงสองมือที่กอดปลอบตัวเองอยู่ในห้องน้ำของหอพักเพียงลำพัง
สมเพชตัวเองชะมัด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in