เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Boy In The Striped PajamasNattapong Thunmina
The Boy in the Striped Pyjamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง
  •     



    • เป็นอีกภาพยนต์ที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว เป็นหนังดราม่า และเล่นกับจิตใจคนดูมากเลยครับ ที่สะท้อนมันสะท้อนถึงความโหดร้ายของ สงครามครับ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่แต่ความสูญเสีย ความเจ็บปวด ไม่เลือกฝ่าย ไม่เลือกเพศวัย เป็นหนังที่ดูจบแล้วสะท้อนใจ แต่ก็ชอบมากอีกเรื่องเลยครับ
    • เรื่องย่อ บรูโน เด็กชายวัย 9 ขวบกับครอบครัวต้องย้ายจากบ้านหลังใหญ่โตในกรุงเบอร์ลิน มาอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ นอกเมืองที่ถูกเรียกว่า "เอาท์วิธ"  ที่มีแต่ความเงียบเหงา เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอยู่ดี ๆ ต้องย้ายมาที่นี่ แม่ให้เหตุผลแต่เพียงว่าต้องย้ายตามงานของพ่อซึ่งเป็นนายทหารใหญ่ของกองทัพ ที่บ้านหลังใหม่นี้บรูโนไม่มีเพื่อนเลยเพราะละแวกนั้นไม่มีครอบครัวใดอาศัยอยู่ มีก็แต่ทหารที่เดินเข้าออกในบ้านบ่อยๆ แต่เมื่อบรูโนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน ก็สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดตั้งแต่เด็กจนแก่อาศัยอยู่นอกรั้วบ้านไกลออกไป คนเหล่านั้นสวมชุดนอนลายทางเหมือนกันหมด และต้องอาศัยอยู่แต่ภายในรั้ววันหนึ่งบรูโนตัดสินใจเดินไปสังเกตการณ์แถว ๆ รั้ว และพบกับ ชมูเอล ซึ่งนั่งอยู่ในรั้วอีกด้าน ทั้งคู่แตกต่างกันมาก บรูโนเป็นเด็กที่มีร่างกายสมบูรณ์ ช่างพูด ร่าเริง ขณะที่ชมูเอลเป็นเด็กเงียบขรึม หน้าตาเศร้าสร้อยและผ่ายผอม จากวันนั้นเป็นต้นมา บรูโนมักจะแอบไปพูดคุยกับชมูเอลพร้อมกับเอาอาหารและขนมไปให้ มิตรภาพริมรั้วของเด็กทั้งสองเริ่มงอกงามขึ้นเรื่อย ๆ ในสถานที่เหนือความคาดหมาย
    • วิเคราะห์และวิจารย์ ภาพยนต์เรื่องนี้กำกับโดย Mark Herman นำเสนอเรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวของนาซีมาก็หลายเรื่องหลายรูปแบบ  ทั้งแนวที่ยิวถูกกระทำฝ่ายเดียวก็มี  ที่ออกมาต่อสู้กันสุดฤทธิ์ก็มี  แล้วถ้าจำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องความเลวร้ายของนาซีในด้านนี้กับเด็กๆ และเยาวชน  หรือกระทั่งกับผู้ใหญ่ในแบบที่จะไม่ให้มีความรุนแรงหรือความสยดสยองบ้างล่ะ  จะถ่ายทอดอย่างไรดี  ภาพยนตร์เรื่อง The Boy in the Striped Pyjamas หรือในชื่อไทยว่า "เด็กชายในชุดนอนลายทาง" ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2008/พ.ศ.2551 เป็นความพยายามในลักษณะนี้  ที่จะประสบความสำเร็จแค่ไหน ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ John Boyne ซึ่งเป็นชาวไอร์แลนด์ เรื่องราวของหนูน้อย Bruno วัย 8 ขวบ ซึ่งชอบอ่านแต่หนังสือนิทานการผจญภัยเกินกว่าที่จะรับรู้เหตุการณ์บ้านเมืองในเวลานั้น  และมีคุณพ่อ (Ralf) เป็นนายทหารเอสเอสระดับนายพัน  ภาพยนตร์เปิดเรื่องที่กรุงเบอร์ลิน เราชอบเรื่องนี้ครับ หนังดำเนินเรื่องเรื่อยๆ ไม่หวือหวา แต่หยุดดูไม่ได้ มันมีความลุ้นอยู่ในตัว
      ให้อารมณ์เหมือน changeling ภาพสวยด้วย แล้วชอบมากที่สื่อความเลวร้ายของสงครามออกมาโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง ไม่ต้องมีเลือดสาด แต่ทำให้คนดูรู้สึกได้ ชอบตอนจบมาก จบดี โดนใจสุดๆ สำหรับเราหนังเรื่องนี้รู้สึกสึกจิตตกนิดหน่อย แต่ดูแล้วรู้สึกอิ่มดี 
    • ตัวละคร (Character)
    • เป็นตัวละครหลักของเรื่อง อายุเพียง 9 ขวบ ไร้เดียงสา จึงยังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรมลึกซึ้ง เช่น ความรัก, มิตรภาพ, การเมือง, การแบ่งชนชั้น ฯลฯ
    •         ครอบครัวของเขามีฐานะดี (บ้านหลังใหญ่ มีคนใช้ ซ่อมแซมบ้านให้ดูใหม่ตลอดเวลา พ่อเป็นทหารยศสูง) ทำให้เขามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง แต่ก็เป็นเด็กฉลาด ตรงไปตรงมา และเติบโตมาในครอบครัวที่อาจจะเคร่งครัดและไม่ได้อบอุ่นมากนัก แต่ไม่ใช่ครอบครัวที่ด่าทอต่อว่า หรือทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ ทำให้เขาเป็นเด็กที่แม้จะเอาแต่ใจตัวเอง แต่ไม่ได้เกเรหรือชอบใช้กำลัง
    • เกรเทล
    •         เกรเทลเป็นพี่สาวของบรูโน อายุ 12 ขวบ ในเรื่องนั้นช่วงแรกเกรเทลจะยังไม่ค่อยรู้เดียงสาเช่นเดียวกับบรูโน แต่การเรียนประวัติศาสตร์กับครูลิซท์ทำให้เกรเทลเปลี่ยนไป และเริ่มรู้ว่าอีกฝั่งของรั้วหนามเป็นคนกลุ่มไหน ทำไมเธอจึงไม่ควรเข้าใกล้
    •         ในฐานะคนอ่าน เราไม่ค่อยรู้ว่าเกรเทลมีทัศนคติยังไงต่อคนยิว เธอเกลียดจริง หรือแค่แสดงออกไปตามที่เธอถูกสอนมา แต่จากที่บรูโนเล่า เธอไม่ได้แสดงออกว่าเห็นใจหรือสงสารคนยิว
    • พ่อแม่ของบรูโน จากการเล่าของบรูโน เราจะรู้แค่ว่าพ่อของเขาน่าจะเป็นทหารหน่วยเอสเอส (ชื่อเรียกหน่วยทหารของฮิตเลอร์) และน่าจะมีตำแหน่งสำคัญพอสมควร เพราะฮิตเลอร์กับภรรยาถึงขั้นมาหาเขาถึงที่บ้านเพื่อแจ้งเรื่องการย้ายตำแหน่ง พ่อของบรูโนถูกย้ายไปประจำการที่ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ โดยที่ผู้ใหญ่ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในค่ายแห่งนั้น แต่เด็กๆ ไม่รู้
    •         เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าในใจลึกๆ พ่อของบรูโนชิงชังและหวาดกลัวคนยิวมากถึงขนาดอยากกำจัดให้สิ้นซากไปเหมือนนโยบายของฮิตเลอร์เองหรือเปล่า เขาชอบการเป็นทหาร และรักชาติมาก แต่จากคำพูดของมาเรีย สาวใช้ในบ้านที่รับใช้ครอบครัวของบรูโนมาหลายปี เธอบอกว่าพ่อของบรูโนเป็นคนมีเมตตามากจนเธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรับหน้าที่มาคุมค่ายแห่งนี้ และเราก็ไม่รู้ว่าหน้าที่ของเขามีอะไรบ้าง แค่ดูแลความสงบเรียบร้อยในค่าย หรือรวมไปถึงการออกคำสั่งรมแก๊สชาวยิวด้วยหรือไม่
              ส่วนแม่ของบรูโนนั้นในเรื่องแสดงออกว่าไม่ได้ชอบการมาอยู่ใกล้ค่ายกักกัน ไม่ใช่เพราะรู้สึกสงสารคนยิว แต่เพราะกลัวว่าสภาพแวดล้อมที่นี่จะไม่ดีกับลูกของเธอ
              แม่ของบรูโนนั้นยังมีอีกประเด็นที่น่าสนใจ นั่นคือเธออาจคบชู้กับผู้หมวดคอทเลอร์ นายทหารหนุ่มที่เข้าออกบ้านของบรูโนบ่อยๆ แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่ของบรูโนอาจไม่ดีนัก แต่ไม่ถึงขนาดทำให้แยกทางกัน
    • ชมูเอล
              ชมูเอลเป็นคนที่มีเชื้อสายยิว อาศัยอยู่ในโปแลนด์ อายุเท่ากับบรูโน เมื่อเทียบกับบรูโน ชมูเอลดูจะฉลาดกว่า และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้มากกว่า เนื่องจากว่าตอนที่เด็กทั้งสองเล่าชีวิตของตัวเองให้กันฟัง บรูโนมักจะพูดทำนองว่าชีวิตของบรูโนไม่เห็นมีอะไรต้องทุกข์หรืออีกฝั่งรั้วไม่ได้ดูน่ากลัว แต่ชมูเอลจะแค่พึมพำว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น
    • พาเวล
              พาเวลเป็นคนยิวที่มาเป็นคนรับใช้ในบ้านของบรูโนที่ค่ายกักกัน บรูโนไม่รู้ว่าเขาเป็นยิวเลยแม้แต่น้อย เขารู้แค่ว่าพาเวลเคยเป็นหมอมาก่อน แต่ตอนนี้เขาเป็นไม่ได้แล้ว เมื่อบรูโนเล่นชิงช้าจนได้รับบาดเจ็บ พาเวลก็เป็นคนมาช่วยปฐมพยาบาล บทบาทของพาเวลในเรื่องนี้เหมือนเป็นตัวแทนของคนยิวที่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร แต่กลับโดนปฏิบัติเหมือนเป็นสัตว์เดียรัจฉาน
    • ผู้หมวดคอทเลอร์
              ผู้หมวดคอทเลอร์เป็นทหารหนุ่มอายุเพียง 19 ปี และน่าจะได้รับการปลูกฝังเรื่องชาตินิยมและความแตกต่างระหว่างชาวอารยัน (ต้นกำเนิดของคนเยอรมัน) กับชาวยิว ทำให้เขาปฏิบัติต่อคนยิวอย่างโหดร้าย เช่น เรียกคนยิวด้วยคำหยาบคาย หรือตอนที่พาเวลทำไวน์หกใส่เขา เขาก็ทำร้ายพาเวล จึงเป็นเสมือนตัวแทนของทหารเอสเอสในขณะนั้นที่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกปลูกฝังให้เกลียดคนยิว                                                                                      บอกเลยเรื่องนี้ 9/10
    • ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ ....


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Phatsaraporn Punyaveerawat (@first39x_first3)
ชอบเรื่องนี้มากก อ่านแล้วนึกภาพตามเลย
Cheeze Olives (@amfine_101)
เป็นหนังทีชอบมากทีสุดเท่าทีดูมา หดหู่มากกตอนจบ เเง่เเอบร้องให้ด้วยยย
อยากดุเลยอ่า
Jirayus Intharasiri (@fb1021661004635)
ละเอียดดีครับ
Ballji (@Ballji)
สุดยอดมากครับ อ่านรีวิวจนอยากดูเลย
อ่านรีวิวจนอยากดูเลย ดีมากๆ
Connae Zhs (@thanpilcha)
ชอบเรื่องนี้มากกกก การดำเนินเรื่องในตอนแรกอาจดูไม่มีอะไรแต่ตอนจบทำเอาจิตตกไปหลายวัน เนื้อเรื่องสอนเเง่คิดอะไรได้มากมายเลย ชอบๆๆๆๆ ?
Somkiat Pimhame (@fb1399483003451)
ตอนจบทำร้ายจิตใจมาก
Sorawit Juntaragul (@bill_volume)
ดีมากครับ
Nut ChillChill (@fb1290643067638)
หนังดีจรุงงง
A38 (@fb1000003814022)
ว้าวๅๅๅ
Keitchai Aonnoy (@deerwasborn)
น่าดูมาก
Alisa Katpach (@fb1364975786858)
ดูแล้ว เป็นเรื่องที่ตอนจบมันโครตหดหู่ มีแง่คิดมากมายอยู่ในเรื่อง เจ้าของบทความเขียนได้ดีมาก
IAMie (@amchns)
เป็นหนังที่หดหู่มาก โดยเฉพาะตอนจบ มันช่วยสอนสอนในหลายๆอย่าง แต่ก็เป็นหนังที่ดีที่ชอบ
Fah Kachana (@Furby)
ดูแล้วคือโคตรหดหู่อ่ะ
สุดยอดไปเลยครัช