เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
life of phi | 2021กีอัลลาร์
2021 new year's resolution
  • สำหรับปี 2021 เราตั้งเป้าหมายใหญ่ๆ เอาไว้ 3 หัวข้อด้วยกัน


    พัฒนาสกิลที่มีอยู่แล้ว

    ปีนี้จะพยายามไม่เรียนสกิลใหม่ (แม้จะมีสิ่งที่อยากเรียนอีกมากก็ตาม) แต่จะเลือกบางสกิลที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ดีขึ้น

    - ภาษาจีน: ตั้งเป้าไว้ว่าจะสอบให้ได้ HSK4
    - ภาษาญี่ปุ่น: กลับมาฝึกชาโดอิ้งให้ปากคุ้นกับการพูดภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น
    - เพลง: ฝึกเทคนิคการร้องใหม่ๆ throat singing และการแต่งเพลง
    - วาดรูป: อันนี้ไม่อยากตั้งเป้าหมาย เอาเป็นว่าอยากฝึกวาดให้สม่ำเสมอ

    ส่วนสกิลอื่นๆ จะทำเป็นงานอดิเรกแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ตั้งเป้าอะไรจริงจัง เพราะปีนี้คงเป็นอีกปีที่หนักมากๆ สำหรับเรา ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องสุขภาพ


    เขียนให้มากขึ้น

    เราได้รับคำชมบ่อยๆ ว่าเป็นคนเก่ง มีสกิลเยอะ แต่เอาเข้าจริงเราก็ไม่ได้เอาสกิลที่มีมาสร้างประโยชน์ให้มันคุ้มค่าสักเท่าไร พอมาลองพิจารณาตัวเองดูก็พบว่าสาเหตุคือการที่เรานิยมความสมบูรณ์แบบจนเกินไป มีหลายครั้งที่เราอ่านบทความแล้วหงุดหงิดเพราะรู้สึกว่าคนเขียนไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องที่ตัวเองเขียน ประมาณว่าถ้าเป็นเรารู้แค่นี้ก็คงไม่เขียนหรอก ซึ่งความเป็น perfectionism ของเรามันลามไปถึงการเขียนแบบอื่นๆ ทั้งการจดเลคเชอร์และการทำ schedule คือมีความรู้สึกว่าถ้าจดไม่สวยก็ไม่อยากจด

    แต่ความคิดของเราเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ output ของจิตแพทย์คาบาซาวะ ชิอง (จะรีวิวในโอกาสถัดไป) มีข้อความหนึ่งในหนังสือบอกว่า 'ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกระดับผู้เชี่ยวชาญ แค่รู้มากกว่าคนอื่นในห้องเรียนก็เพียงพอแล้วที่จะเขียนบทความให้คนสนใจ' พร้อมนำเสนอข้อดีของการ 'ปล่อยของ' ยาวเป็นพรวน

    คิดๆ ดูแล้วสมัยเขียนบล็อก exteen เราก็ไม่ได้กลัวความไม่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ถึงขนาดเขียน june write ได้ติดต่อกันทุกวันแบบไม่มีวันไหนอัพเลวเลย แค่เขียนเรื่องที่อยากเขียนและคิดว่าน่าสนใจ เพราะฉะนั้นปีนี้จะพยายามเอาความรู้สึกในตอนนั้นกลับมาแล้วเขียนให้ได้เยอะๆ อีก หลักๆ ก็คงเป็นการทำบูโจให้รอด เขียน journal ลงเพจ แล้วก็เขียนนิยายที่วางพล็อทไว้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนให้จบ


    มีความสุขให้มากขึ้น

    เราเป็นคนเครียดง่าย ดาวน์ง่าย และมีความสุขยาก ตั้งแต่ม.ปลายก็พบทั้งจิตแพทย์และนักจิตวิทยาไปหลายครั้ง รักษา MD ไปก็หลายรอบ ทุกวันนี้ก็ยังเป็น panic attack อยู่บ่อยๆ กว่าจะเจอจิตแพทย์ที่เรารู้สึกโอเคด้วยก็เสียเวลาไปเป็นสิบปี

    ที่ผ่านมาเรามักจะได้รับคำแนะนำให้ปรับความคิด โทษตัวเองให้น้อยลง ฯลฯ ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ปีนี้เลยจะพยายามปรับที่ output ด้วยการพูดเรื่องในแง่บวกให้มากขึ้น appreciate ตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น มี empathy ให้มากขึ้น

    อีกอย่างที่เราทำได้ในปีที่ผ่านมาและคิดว่าจะทำต่อไปคือการเลิกคิดว่าตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น เราเป็นคนที่ถูกประเมินด้วยคำว่า 'แปลก' มาตลอดตั้งแต่จำความได้ ครอบครัวเราก็บอกว่าเราแปลก สมัยเด็กๆ เพื่อนก็ไม่ค่อยอยากจะคบเราเพราะเรานิสัยแปลก (ขนาดหมอทำคลอดยังชื่อนพ.แปลก) โตมาทำแบบทดสอบ MBTI ก็เป็น INTJ ที่มีแค่ 2% บนโลก

    แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในช่วงหลายปีมานี้ก็คือ ทุกคนบนโลกก็คิดว่าตัวเองแปลกกันทั้งนั้นแหละ!

    ถ้าทุกคนแปลก ก็หมายความว่าโลกนี้ไม่มีใครแปลก ซึ่งมันก็ควรเป็นแบบนั้น เพราะคนเราไม่มีทางที่จะมีใครเหมือนใครอยู่แล้ว พอคิดได้แบบนี้เราก็รู้สึก secure ในการเข้าสังคมมากขึ้นนิดหน่อย แต่โดยรวมก็ยังเป็นคนเก็บตัวสุดๆ อยู่เหมือนเดิม


    เขียนมาซะยาว สรุปว่าปีนี้ของเราก็จะพยายามโฟกัสกับเรื่องพวกนี้ (+เป้าหมายลับอีกข้อคือลดความอ้วน) หวังว่าเรื่องต่างๆ ที่ต้องพบเจอจะไม่สาหัสเกินไปนักสำหรับเรา

    รักทุกคน♡
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in