สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ ... Let's Review กลับมาเเล้ว กลับมาต่อในเรื่องราวของบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ค้างไว้เมื่อคราวก่อนกันนะคะ
ณ เวลาปัจจุบันที่ดิฉันได้เขียนบทความนี้อยู่นั้น เป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะครบรอบการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คิดเเล้วน่าใจหายนะ ว่าไหมคะ?
เรามาต่อกันในบทเพลงที่ ๘ เลยค่ะ
เพลง : ความฝันอันสูงสุด [เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๔๓]
บทเพลงพระราชนิพนธ์ อันทรงคุณค่าที่สุด
ตามพระราชนิพนธ์เดิมลิขสิทธิ์เพลงพระราชนิพนธ์เป็นของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
คำร้อง : ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค
เรียบเรียง : วิชัย ปุญญะยันต์
(Credited : GMM GRAMMY)
บทเพลงที่ ๙
เพลง : พรปีใหม่ (มักจะได้ยินบ่อยๆช่วงเทศกาลปีใหม่) [เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๓]
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
"สวัสดี วัน ปี ใหม่ พาให้บรรดา เรา ท่าน รื่น รมย์ฤกษ์ยามดี เปรม ปรีดิ์ ชื่น ชมต่างสุขสม นิ ยม ยิน ดี
ข้าวิงวอน ขอ พร จาก ฟ้าให้บรรดา ปวง ท่าน สุข ศรีโปรดประทาน พร โดย ปรา ณีให้ชาวไทย ล้วน มี โชค ชัย"
บทเพลงที่ ๑๐
เพลง : ภิรมย์รัก (A love Story) [เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๓๐]
#ขออนุญาตนำฉบับภาษาไทยมาให้ฟังกันนะคะ #ฉบับเดิมเป็นภาษาอังกฤษ
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
คำร้อง : พลเรือตรี ปรีชา ดิษยนันทน์
เรียบเรียง : วิชัย ปุญญะยันต์
"ไร้คนเคียงข้าง
โลกอ้างว้างหมางอารมณ์เศร้า
ทิวาราตรีตรมซบเซา
ส่งความอับเฉาสู่ดวงใจ
ไร้เธอหมายมั่น
สุดโศกศัลย์ทุกวันหมองไหม้
เสียงครวญมวลวิหคหายไป
ไม่มีแห่งไหนดอกไม้บาน"
บทเพลงที่ ๑๑
เพลง : เเสงเดือน
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
"นวล
แสงนวลผ่องงามตา
แสงจันทรา
ส่องเรืองฟากฟ้าไกล
งาม
แสงงามผ่องอำไพ
ย้อมดวงใจ
ให้คงคลั่งไคล้เดือน"
สองบทเพลงสุดท้ายอาจไม่ใช่เพลงพระราชนิพนธ์...เเต่เป็นบทเพลงที่ช่วงนี้ของปีที่เเล้วนั้นได้เปิดฟังบ่อยพอควร เพราะเป็นสองบทเพลงที่ทำให้เป็นที่มาของบทความฉบับนี้ค่ะ
บทเพลงที่ ๑๒
เพลงพลังเเสงอาทิตย์ (Feat.คิว Flure /Prod. by ธิติวัฒน์ รองทอง)
ศิลปิน : ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ..
#เพลงนี้เพื่อนส่งมาให้ฟังในเฟสบุ้คช่วงที่เกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ส่วนตัวชื่นชอบการใช้ภาษาในเพลงของพี่กอล์ฟอยู่เเล้ว เพลงนี้เลยเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ฉันชอบมากที่สุดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น
"เมื่อฉันเห็นแดดจ้า ฉันคิดถึงพระบารมี ที่ส่องนำทางชาวไทยมาตลอด 70 ปี
พ่ออยู่บนฟ้าแต่พ่อก็รักเราอยู่ดี เหมือนแสงแดดเช้านี้ที่ยังอบอุ่นอยู่ทุกนาที"
บทเพลงสุดท้าย
เพลง : Father King ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
"ความหมายของบทเพลงมีใจความว่าพระองค์ทรงมีทุกอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ แต่พระบรมฉายาลักษณ์ นับพันภาพที่มีให้เราเห็น จะเป็นภาพของพระมหากษัตริย์นักพัฒนาผู้เสียสละ ที่ทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอด 70 ปีเพื่อพสกนิกร พระองค์ทรงมีคทาของกษัตริย์ แต่สิ่งที่ถืออยู่ในพระหัตถ์คือดินสอ แผนที่ ข้อมูลเรื่องดินฟ้าอากาศและน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงการตั้งพระราชหฤทัยมั่นทรงงานเพื่อเรา นอกเหนือจากการรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่๙ แล้ว เพลงนี้ยังกล่าวถึงความรู้สึกจงรักภักดีของพวกเราทุกคน ต่อพระมหากษัตริย์ไทยทุกรัชกาล โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลที่๑๐ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน - โจนัส เเอนเดอร์สัน"
We are your children,
we will follow In the footsteps of your legacy
And we will treasure your example You will live on in our hearts eternally.
ท้ายนี้ฉันขอฝากบทความที่เกิดจากความตั้งใจ เกิดจากความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเเละเกิดจากการที่ฉันเองเป็นพสกนิกรคนหนึ่งที่เกิดในเเผ่นดินของพระองค์ท่าน จึงขอมอบสิ่งนี้ไว้เป็นบันทึกหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ เป็นความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น "ลูกที่เกิดในรัชกาลที่ ๙"
สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้านางสาวณิชา เดี่ยววาณิชย์ เจ้าของบล็อก Let's Review
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in