เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
a step i can't take backkoalamay
10 centimeters per stations
  • Playing song ? : everybody wants to rule the world - tears for tears 


    ทุก ๆ เช้ากับการตื่นมาทำงาน ได้เห็นภาพผู้คน ต่างคนต่างเดินทางไปทำงาน ไปเรียน ไปทำธุระต่าง ๆ ของตัวเอง ทุกคนล้วนเป็นตัวละครหลักในเรื่องราวชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้น 

    บรรยากาศในตอนสายบนรถไฟฟ้าใต้ดินmrt มันช่างต่างไปจากวันธรรมดา เราต้องออกไปทำงานในวันอาทิตย์ มองดูแล้วก็อดคิดอิจฉาไม่ได้เลยที่ผู้คนเหล่านี้ได้หยุดไปเที่ยวพักผ่อนกัน ไปช็อปปิ้ง ไปพบปะเพื่อนฝูง แต่เราก็มีหน้าที่ที่ต้องไปทำเหมือนกัน…ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยคงมีอีกหลายคนที่วันนี้ต้องไปทำงานเหมือนกันแหละ

    :
    .

    จากชีวิตนักศึกษาธรรมดาคนนึงที่ใช้ชีวิตอยู่แต่บ้านและหอมาเกือบ 3 ปี ทั้งที่เรียนเกี่ยวกับเด็กมาแท้ ๆ แต่เราได้เจอเด็กน้อยมาก จนมันทำให้ประหม่าไปหมด ไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองสักนิด เรามาฝึกงานอาทิตย์แรกก็เจองานหนักเลย คือวันแรกพี่เลี้ยงก็พาเราชมห้องสมุดและอธิบายหน้าที่ต่าง ๆ ที่เราต้องทำ ตอนบ่ายเค้าก็เรียกเราให้ไปลองเล่านิทานดู แล้วก็จะแนะนำเทคนิคหรือว่าควรปรับอะไรบ้าง เพื่อให้เราเล่าได้อย่างเป็นธรรมชาติและเอนเตอร์เทนเด็ก ๆ ได้ เพราะ(พรุ่งนี้)ซึ่งเป็นวันเสาร์เราจะต้องเล่านิทานให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองฟังค่ะ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ทางห้องสมุดจะมีกิจกรรมนิทานในลานหญ้า ทุกคนสามารถเข้ามาฟังได้ในช่วงเวลา 11:00 - 11:30 น.ค่ะ ส่วนวันอาทิตย์จะจัดกิจกรรมเสริมทักษะตามธีมในแต่ละอาทิตย์ มีทั้ง cooking class และart workshop ซึ่งจะมีค่าอุปกรณ์และสำรองที่นั่งค่ะ ส่วนงานหนักที่ว่าคือเราได้ช่วยเพื่อนต่างมหาลัยจัดกิจกรรมและแสดงโปรเจ็คจบฝึกงานในวันอาทิตย์ ซึ่งมีเวลาซ้อมรันคิวต่าง ๆ แค่ 2 วัน เราที่พึ่งรู้จักกับเพื่อนต่างมหาลัยทั้งสองคนนี้ก็ต้องมาทำงานด้วยกันแล้ว แต่เรารู้สึกว่ามันทำให้สนิทกันไวขึ้น ถึงเป็นเวลาสั้น ๆ ที่ได้รู้จักกันแต่ช่วงเวลานั้นมันสนุกมาก เป็นความทรงจำดี ๆ ที่เราจะไม่ลืมเลยค่ะ 

    …หลังจากจบงานในอาทิตย์นั้น เรากลับหอมานอนหลับตั้งแต่สองทุ่ม ปวดแขนปวดขาไปหมด 
    เหมือนคนที่เริ่มกลับมาออกกำลังกายใหม่ ตอนนั้นคิดว่านี่ขนาดเรามาทำได้แค่สามวันเองนะ ยังขนาดนี้ 
    ต่อไปล่ะที่ต้องทำทั้งห้าวันจะขนาดไหนหนอ…

    แต่มันรู้สึกดีมากจริง ๆ การที่เด็กตั้งใจฟังนิทานที่เราเล่า การคุณพ่อคุณแม่และน้อง ๆ เรียกเราว่าคุณครู มันทำให้ใจเราฟูเหลือเกิน ไม่รู้ทำไม แต่เราไม่เคยคิดอยากจะเป็นครูด้วยซ้ำ 
    เพราะคิดว่าคนอย่างเราเนี่ยนะจะไปสอนใครได้

    :
    .

    การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินถึงสิบสถานีเพื่อไปทำงานทุกวัน 
    มันทำให้เราอยากใช้เวลาอยู่บนนี้นาน ๆ นั่งไปเรื่อย ๆ ฟังเพลงที่ชอบ ตากแอร์เย็นฉ่ำ 
    แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ไม่มีวิวสวย ๆ ให้ดูเหมือนตอนขึ้นรถไฟฟ้าbts 
    ตลอดการเดินทางแน่นอนว่าเพื่อนสนิทที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือ 
    และเพื่อนที่รู้ใจเราดีที่สุดก็คือ เพลง
    บางช่วงที่รู้สึกเหงา สับสน เพลงบางเพลงก็บอกว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี 
     และเสริมพลังใจเพื่อไปสู้กับมันต่อ …แล้วการทำงานในชีวิตจริงคงเป็นแบบนี้สินะ…
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in