เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JamSung Short Storyicypumpkin
Jealous [JamSung]
  • Title: Jealous
    Theme: Fictober
    Author: icypumpkin





    "ทำไมช่วงนี้หงุดหงิดบ่อยจังอะ" จงเฉินเล่อที่นั่งข้างๆ ทักขึ้น

    "ตอนไหนกัน" เขาทำหน้าเหรอหราหันไปถาม

    "ตอนนี้ไง"

    "ห๊ะ..." ปาร์คจีซองถึงกับพูดเสียงดังและเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม เขาว่าตนเองไม่มีอารมณ์แบบนั้นในตอนนี้นะ

    "คิ้วนายผูกกันเป็นโบว์แล้ว หน้ามู่ทู่ไปหมด" เฉินเล่อกดนิ้วไประหว่างคิ้วคนที่ทำหน้าตกใจ มองไปตามสายตาของจีซองก่อนหน้าที่เขาจะทัก... นั่นมันรุ่นพี่เจโน่กับรุ่นพี่แจมินใช่ไหมนะ

    "หรอ"

    "ไม่รู้ตัวเลยหรือไง" คำตอบที่ได้คือเจ้าตัวส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมา


    "โอเค เย็นนี้ไปกินเหล้ากัน ป๋าเล่อเลี้ยงเอง" หมดหนทางไม่รู้จะทำยังไง ปาร์คจีซองน่ะ เหมือนมีอะไรก็พูดออกมาจนหมด แต่ความจริงแล้วยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เก็บไว้ในใจ คืนนี้เขาจะลองมอมเหล้าเพื่อนรักดูสักที เผื่อจะมีอะไรหลุดออกมาบ้าง

    "ไปกันสองคนเนี่ยนะ ไม่เอาอะ เดี๋ยวก็เมาหัวราน้ำกลับบ้านไม่ได้อีก" เพราะประสบการณ์เคยบอก เกือบจะต้องนอนหน้าผับกันมาแล้วด้วยความที่เมาไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ ต่างคนต่างดื่มแล้วเติมไม่พูดไม่จากันสักคำ

    "เดี๋ยวชวนดงฮยอกกับเหรินจวิ้นไปด้วยกันไง" เฉินเล่อตะล่อมจนคนฟังพยักหน้ายอมรับ 

    "ดีมาก งั้นเจอกันตอนเย็น เดี๋ยวไปรับที่หอ" จีซองพยักหน้ารับโบกมือลาเพื่อนที่รวบข้าวของลุกขึ้นยืน


    "เครียดมากก็ระบายออกมาบ้าง จะเก็บไว้จนมันระเบิดหรือไงกัน" เพื่อนรักกล่าวทิ้งท้ายไว้แต่เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินหายไป พอได้อยู่คนเดียว ปาร์คจีซองถอนหายใจยาวอีกครั้ง จ้องมองไปยังผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ม้านั่งไกลๆ ก่อนจะลุกขึ้นเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับหอไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารอเพื่อนมารับ




    "คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ! แก้วแรกใครกินไม่หมดเป็นหมา" หลังเสียงลั่นวาจา แก้วเบียร์สี่ใบชนกันกลางอากาศก่อนจะถูกกระกดดื่มหมดภายในครั้งเดียว

    "รีบให้เมาไปไหนวะ กลัวเสียค่าเบียร์เยอะหรือไง" ดงฮยอกกล่าวก่อนจะปาถั่วในจานใส่เฉินเล่อ

    "เออดิ ตัดกำลังไปก่อน"เฉินเล่อรีบบอกก่อนจะหัวเราะออกมา หลังจากนั้นวงสนทนาก็เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและเสียงหัวเราะสลับกับเสียงชนแก้ว


    "เฮ้ย... นั่นพี่มาร์คนี่หว่า" เหรินจวิ้นชี้นิ้วไปยังผู้มาใหม่ที่เดินเข้าร้านก่อนจะตะโกนเรียกจนอีกฝ่ายเห็นและเดินมาหา

    "ไม่เจอกันนานเลย เป็นไงกันมั่ง" มาร์ค อี พี่ชายใจดีที่พวกเขาทุกคนต่างรู้จักและสนิทด้วย

    "สบายดีครับ พี่มากับใครเนี่ย" เหรินจวิ้นตอบพลางขยับตัวให้รุ่นพี่นั่งลงข้างๆ กัน

    "นัดกับพวกเจโน่ไว้" แค่ได้ยินชื่อมือที่จับแก้วเบียร์กำลังจะยกดื่มของปาร์คจีซองก็ชะงักค้าง

    "เอ้า งั้นก็นั่งโต๊ะเดียวกันเลยสิพี่ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว" เสียงจิ๊ปากของเขาคงดังจนเฉินเล่อหันมามองหลังดงฮยอกกล่าวประโยคนั้นจบ

    "เป็นอะไรหรือเปล่า" คนที่นั่งใกล้หันมากระซิบถามเบาๆ

    "ไม่เป็นไร" เขาตอบรับ ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ยังไม่ทันจะได้วางแก้ว เจ้าของชื่อที่ถูกกล่าวถึงและใครอีกคนก็โผล่มากลางวง ทุกคนพากันเฮโลต้อนรับรุ่นพี่ที่สนิทกันมาหลายปี จีซองมองพี่เจโน่และทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะมาถึงคนข้างๆ เจ้าของเรือนผมสีชมพูที่ยิ้มรอเขาอยู่แล้ว... พี่แจมิน

    "จะมานั่งใกล้กันทำไมเล่า ไปนั่งกับน้องนู่น" เจโน่พูดก่อนจะดันตัวคนที่มาพร้อมกันให้ออกห่าง

    "เอ้า ทำไมอะ" แจมินถามกลับ

    "มันเบียดเนี่ยเห็นเปล่า น่ะ ไปนั่งข้างๆ จีซองเลย ที่นั่งน้องยังว่างอยู่" อีเจโน่ชี้นิ้วเหมือนไล่ แต่กลับเป็นมาร์คที่ขยับตัวไปนั่งใกล้จีซองแทน

    "รำคาญ นั่งข้างๆ กันไปเลยไป ฉันนั่งข้างจีซองเอง" คำพูดติดตลกนั้นทำเอาคนทั้งโต๊ะฮาครืน เว้นเสียก็แต่คนๆ เดียวที่ยังคงนั่งก้มหน้ามองแก้วเบียร์ของตนเอง


    "เป็นอะไรหรือเปล่าจีซอง" มาร์คเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าจีซองนิ่งไป ตอนแรกยังเฮฮาอยู่เลยนี่น่า

    "หืม ไม่เป็นไรครับพี่มาร์ค" เจ้าตัวเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มจนดวงตาเรียวยิบหยี

    "วันนี้เงียบเชียว มีอะไรบอกพี่ได้นะ เครียดอะไรหรือเปล่า" 

    "นิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นอะไรมาก ดื่มดีกว่าครับพี่ เอาให้เฉินเล่อหมดตัวเลยครับ พูดไว้ว่าจะเลี้ยง" จีซองเปลี่ยนเรื่องจนโดนเพื่อนโวยวายใส่

    "ย้า ปาร์คจีซอง จะจ่ายเองก็งานนี้แหละ ผมเลี้ยงแค่เพื่อนผมนะพี่ แต่ถ้ารอบนี้พวกพี่สามคนจะเลี้ยงพวกผมก็ไม่เกี่ยงครับ"

    "เฉินเล่อไม่สนใจเลี้ยงพวกพี่บ้างหรอ" เสียงทุ้มเจ้าของเรือนผมสีชมพูเอ่ยขึ้น

    "โอ้โห พี่แจมิน ผมนี่ไปไม่เป็นเลยครับ" เจ้าตัวพูดจบพร้อมหัวเราะร่าทำเอาทุกคนหัวเราะไปตามกันอีกครั้งก่อนบทสนทนาจะไหลไปเรื่องอื่นอีกครั้งและอีกครั้ง 



    "จีซองจะไปไหน" เขาว่าจะเดินออกไปเงียบๆ แล้วเชียว พี่มาร์คดันสังเกตเห็นอีก คิดว่าอีกฝ่ายเริ่มเมาแล้วแท้ๆ

    "ห้องน้ำครับ"

    "จีซอง พี่ไปด้วย" รุ่นพี่ผมชมพูเอ่ย ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะมากอดคอเขาและพากันเดินไปยังห้องน้ำหลังร้าน

    "เป็นอะไรหรือเปล่าเรา วันนี้ดูเงียบๆ" แจมินทักทายรุ่นน้องที่วันนี้ดูเงียบผิดปกติ

    "ไม่เป็นไรนะครับ พี่มาร์คก็ทัก ปกติผมก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วไหมอะ" จีซองตอบไปพลางหัวเราะพลาง หันมองด้านข้างของคนที่โอบไหล่อยู่ 


    ผมสีชมพูที่เพิ่งไปย้อมมาใหม่รับใบหน้าให้ดูดีขึ้นมากกว่าที่เคย
    ดวงตาคมกับแพขนตายาวนั่นก็ยังน่ามองเหมือนเดิม
    จมูกโด่งรับกับรูปหน้า
    ริมฝีปากบางที่มักจะคลี่ยิ้มอยู่เสมอ


    ดูดีจนไร้ที่ติ ทำเอาหัวใจของปาร์คจีซองเต้นผิดจังหวะ


    "หน้าพี่มีอะไรแปลกหรอ" ในจังหวะที่ใบหน้าคมนั้นหันมาถาม ปาร์คจีซองชะงักถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเพราะมือที่โอบอยู่ 

    "เอ้า ใจเย็นเรา เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก เมาแล้วใช่ไหมเนี่ย" นาแจมินหัวเราะให้กับท่าทางเหล่านั้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายสะดุดขาตนเองจนจะล้มลงไป

    "ขอโทษฮะ" 

    "ไม่เป็นไร" ตบไหล่น้องก่อนจะปล่อยออกเมื่อมาถึงห้องน้ำ ปาร์คจีซองลอบถอนหายใจเมื่อคล้อยหลังนาแจมิน ทางเข้าห้องน้ำวันนี้ไกลชะมัดในความรู้สึก


    "จีซองเสร็จยัง" แจมินตะโกนถามเมื่อตนเองเสร็จแล้วแต่น้องที่ขอเข้าห้องน้ำยังไม่ออกมา

    "ผมบอกแล้วว่าปวดหนัก พี่ไปก่อนเลยครับ"

    "โอเค งั้นเจอกันที่โต๊ะนะ รีบไปล่ะ"

    "ครับ" จีซองตอบรับ มองนาฬิกาผ่านไปเกือบนาทีจึงออกมาจากห้องน้ำ เขาไม่ได้ปวดหนักปวดเบาอะไรหรอก แค่ทนไม่ไหวแล้วก็เท่านั้นเอง


    "เฮ้อ..." 

    "เรื่องพี่แจมินจริงๆ ใช่ปะ" เสียงที่คุ้นเคยทำเอาสะดุ้งโหยง จนน้ำในอ่างล้างมือกระเด็นโดนกระจกเต็มไปหมดเพราะกำลังล้างมือ

    "จงเฉินเล่อ กะจะฆ่ากันหรือไง มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย" เขามองผ่านกระจกไปยังเพื่อนที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล

    "ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง


    ยังไม่เลิกชอบเขาอีกหรอจีซอง" 


    มือเรียวปิดก๊อกน้ำ หันกลับมามองเพื่อนที่ถามคำถามนั้นก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ



    "อื้อ พยายามแล้วนะ ทำไมมันยากจัง" 



    กว่าจะรู้ว่าตนเองร้องไห้ก็ตอนที่เพื่อนตัวขาวเดินมากอดและปาดน้ำตาให้นั่นแหละ


    "ไม่เอาไม่ร้องดิ" ปาร์คจีซองชอบนาแจมิน ชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วและจงเฉินเล่อดันเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ดงฮยอกหรือเหรินจวิ้นแม้จะสนิทกันมากแค่ไหนจีซองก็ไม่เคยบอกออกไป เพราะแบบนั้นอย่าหวังเลยว่านาแจมินจะรู้..... หรือบางทีรุ่นพี่คนนั้นอาจจะรู้ตัวก็ได้แต่ก็ทำเป็นเพิกเฉยและทำตัวปกติ เขาไม่อาจรู้

    "พยายามแล้วจริงๆ นะเฉินเล่อ แต่มันก็ยากขึ้นทุกที แล้วตอนนี้มันก็ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมด้วย" ปาร์คจีซองกล่าวกับไหล่บางที่คอยซับน้ำตาให้เขามาแล้วไม่รู้กี่ครั้งกับเรื่องนี้

    "แย่ยังไง ไหนลองบอกมาก่อน" จงเฉินเล่อมองไปทางประตูห้องน้ำ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีใครในกลุ่มมาเข้าห้องน้ำตอนนี้ ถ้าใครเห็นเข้า เขาจะไม่ได้รับรู้เนื้อความที่จีซองกำลังจะพูดอีกต่อไป เช่นเดียวกัน ถ้าพาอีกฝ่ายเดินไปหลังร้านตอนนี้ จีซองจะมีสติมากพอเก็บข้อความที่จะพูดไว้เพียงคนเดียว ถึงต้องมายืนลุ้นอยู่แบบนี้



    "ฉันอิจฉาพี่เจโน่"



    "อิจฉาที่เขาเป็นเพื่อนกัน อิจฉาที่เขาสนิทกัน อิจฉาที่พี่แจมินอยากอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา อิจฉาที่เขาได้ความรักจากพี่แจมินไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย อิจฉา.. ฮึก ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้ว" ปาร์คจีซองเป็นเด็กนิสัยไม่ดี... ไม่ต้องมีใครบอกหรอก ตัวเขารู้ดียิ่งกว่าใคร

    "ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่า" เฉินเล่อลูบหลังคนที่เริ่มสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด พอได้มารับฟัง บอกตรงๆ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจีซองจะเก็บอะไรไว้เยอะขนาดนี้ แถมไม่รู้จะเริ่มปลอบยังไงดี

    "แย่สิ แย่มากๆ ด้วย"

    "มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ห้ามกันไม่ได้หรอก นายไม่ผิดที่จะรู้สึกแบบนั้น พี่แจมินกับพี่เจโน่เองก็ไม่ผิดเหมือนกัน เรื่องนี้มันไม่มีใครผิดใครถูก แล้วนายก็ไม่ได้แย่ ไม่ได้นิสัยไม่ดี"

    "แต่มองหน้าพี่เขาไม่ติดแล้ว" จีซองค่อยๆ ถอยตัวออกห่างจากคนที่กอดและลูบผมไว้นาน ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาก่อนจะเงยหน้าและสูดลมหายใจเข้าลึก


    "ให้เวลาตัวเองหน่อยจีซอง นายรักเขามาตั้งนาน เอาเข้าจริงๆ พอมาเห็นเขาคบกับคนใกล้ตัวแบบนั้นก็คงไม่ง่ายหรอกที่จะทำใจ" 


    เป็นใครก็คงอิจฉาล่ะมั้ง ในเมื่อจีซองเองก็สนิทกับพี่แจมินไม่น้อยไปกว่าใครแถมอีกฝ่ายก็ใจดีด้วยตลอด แล้วจู่ๆ ก็ไปคบกับเพื่อนสนิทของตนเอง คงรู้สึกว่าสถานะไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก 


    แต่ใครเล่าจะรู้ว่าระยะห่างระหว่างเพื่อนสนิทกับน้องคนสนิทของพี่แจมินจะไกลกันขนาดนี้



    "อื้อ ขอบใจนะ นายอยู่ตรงนี้ด้วยตลอดเลย" จีซองพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างที่คนมองเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้

    "อื้ม ก็อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ" เฉินเล่อยกมือขึ้นลูบผมของอีกฝ่ายเบาๆ "ล้างหน้าล้างตาออกไปกินต่อได้แล้ว หายมานานจนคนอื่นคิดว่าท้องเสียแล้วมั้ง"



    และใครกันจะเข้าใจว่าระยะห่างระหว่างคำว่าเพื่อนสนิทกับพี่ชายคนสนิทของปาร์คจีซองจะห่างไกลกันมากจนจงเฉินเล่อมองไม่เห็นหนทางที่จะเข้าใกล้ได้เลยสักนิด




    END
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in