แป้งอเนกประสงค์ 4 ถ้วย
เนยจืดเย็นหั่นชิ้นเล็ก 140 กรัม
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
โชดา 1/2 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
ฉันจ้องเศษกระดาษใบเท่าฝ่ามือที่ดูติดอยู่กับผนังตู้เย็นหลังยักษ์ด้วยสายตาเลื่อนลอย
ฉันอบ 'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' มาเป็นรอบที่ล้านแล้ว ตัวเลขปริมาตรพวกนี้ฉันไม่เคยจำได้สักที ขั้นตอนอื่นๆ น่ะเหรอ ทำได้ตามกระดูกสันหลัง ไม่ต้องคิดเลยสักนิด สามารถปล่อยใจให้ลอยอิสระไปที่ไหนก็ได้
เมื่อเช้าฉันเพิ่งจะเห็นโปรโมชั่นของสายการบินชั้นประหยัดที่อาโกะส่งมาให้ มีหลายประเทศให้เลือกเยอะแยะละลานตาไปหมด ถ้ามีโอกาสได้ไป จะไปที่ไหนดีนะ ขอเป็นที่อากาศเย็นหน่อยก็แล้วกัน ไม่ต้องเย็นยะเยือกจนจามเป็นละอองน้ำแข็งหรอก เอาแค่พอใส่เสื้อโค๊ทสวยก็พอ สักเลขหนึ่งนำหน้างี้ ถ้าเป็นที่นั่นนะ บิสกิตสูตรพิเศษ คงจะทำง่ายขึ้นไปอีก จุดสำคัญที่สุดของการทำแป้งบิสกิต คือเนยการบี้ก้อนเนยที่ให้ผสมกับแป้งโดยที่ยังไม่ละลาย เมืองไทยทำง่ายซะที่ไหน ขนาดชั้นที่เป็นคนมือเย็นแล้ว (แฟนเก่าฉันชอบแซวว่าแม่สาวมือศพ) ถ้าไม่ได้นวดแป้งไปเปิดตู้เย็นอังไปนะ ไม่รอดแน่ๆ
ยุโรปแล้วประเทศไหนดี สวีเดนก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ฉันชอบที่ตัดคุ้กกี้ของอิเกีย สีน่ารักแถมราคาไม่เแพงด้วย โอย ชักจะอยากไปขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ
สวีเดนมีอะไรนอกจากอีเกียอีก ฉันคิดหนัก จินตนาการทึกทักไปเองว่ามันน่าจะ เต็มไปด้วยภูเขาและทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตาแซมไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวช่อเล็กตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าเจ็บๆ สวีเดนนี่ใช้ประเทศที่มีประอาทิตย์เที่ยงคืนรึเปล่านะ ถ้ามีก็คงดีไปเลย เพราะฉันชอบกลางวัน เดียจฉันท์กลางคืน จะได้มีเวลาได้ไปเที่ยวเล่นตอนที่พระอาทิตย์อยู่เหนือหัวบ้าง ดีไม่ดีอาจจะได้ป๊ะกับพ่อหนุ่มรูปหล่อ งานดี ที่เผอิญนิยมสาวเจ้าไซส์มินิอย่างฉัน อ๊ายยยยย
เสียงติ๊งดังขึ้นพอดิบพอดี อย่างกับท่อน "ต๊กใจ ตื่นตอนตีสี่" ของคุณพุ่มพวง นักร้องชาวไทยที่ฉันชื่นชอบ
เตาอบอบ 'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' อบจนสุกเหลืองได้ที่ พร้อมรับ 'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' ลอตใหม่ที่ฉันเพิ่งจะตัดเสร็จพอดี ฉันดึงถาดเก่าออกจากเตา ส่งถาดใหม่เข้าเตา ปิดเตาและจับเวลา
รู้ตัวอีกที ก็ได้ 'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' 16 ชิ้นมาอยู่ในถาดพักพร้อมวางขาย
เหอะ 'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' กะผีน่ะสิ ชั้นไม่เคยเห็นยัยป้านั่นทำขนมเองกับมือสักครั้ง เรียกว่า 'บิสกิตสูตรพิเศษของมิสเอริกับเตาอบรุ่น FR-V45 และที่ตัดอิเกีย' ยังจะดีซะกว่า
ชะตากรรมของลูกจ้างจนๆ มันก็อย่างนี้แหละน้า
ฉันลากเก้าอี้ไม่มีพนักมานั่ง เช้านี้ทั้งเช้าเพิ่งจะได้นั่งก็ตอนนี้ มือซ้ายเอี้ยวไปกดพัดลม มือขวคว้ามือถือมาเล่นให้สมกับสมัยหน่อย แต่ก็เหมือนกับทำขนม
ในเมื่อชีวิต ณปัจจุบันของชั้นซีดชืดเหมือนกับศพแช่แข็ง ได้แต่ไถหน้าจอไปมา ใจลอยไปถึงหนุ่มสวีเดนคนนั้นอีกจนได้
นังเก๋เจ้าเก่าส่งอะไรมาให้เยอะแยะเนี่ย ฉันคิดหงุดหงิดอยากจะปิดโนติให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่จะกล้าได้ไง ก็มันเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน
"นี่ๆ ฉันดูอันนี้แล้วนึกถึงแกเลย คืนนี้ไปฝึกเล่นกัน" อาโกะส่งคลิปเพลงอะไรสักอย่างมาให้
"เธอก็รู้ ฉันไม่ฟังเพลงอังกฤษ" ฉันบ่นพอเป็นประเพณีแล้วก็คลิกดูอย่างที่ฉันทำทุกครั้ง
Anna Kendrick - Cups (Pitch Perfect’s “When I’m Gone”)
สี่นาทีครึ่ง ผ่านไปเหมือนถูกสะกดจิต
ในใจฉันมีแต่คำอุทานพรุ่งพรูออกมา ทำไมมันลอกกันมายังกับแกะแบบนี้ แม่สาวก้นครัวนั่งทำบิสกิตโง่ๆ ไปพลาง ฝันเฟื่องเอาใจออกนอกกะลาไปพลาง ต่างกันก็แค่นางเอกเอมวีที่สวยกว่าหลายตลบ
ถึงหูจะไม่กระดิกเลย แต่ภาษากายก็ทำให้ฉันเข้าใจเรื่องราว
นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ จะทนทุกข์ทรมานไปทำไม ในเมื่อทางออกของความยากลำบากทั้งหมดอยู่ใกล้แค่ประตูเหล็กดัดข้างหลังนั้น ฉันต้องพึ่งร้าน หรือร้านต้องการฉัน
อีกไม่นานก็คงจะรู้ ลองทำอะไรบ้าๆ บ้างก็ดีเหมือนกัน ถึงจะเกินวัยไปหน่อย ก็ช่างแม่ง
'บิสกิตสูตรพิเศษของอานต์ธี่อากาธ่า' ใช้เวลาอบ 18 นาทีแล้วต้องเอาออกจากเตามาผึ่งทันที
แต่ยังไงก็คงไม่ใช่หน้าที่ฉันลุกขึ้นไปหยิบถาดเมื่อเสียงติ๊งดังขึ้นอีกแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยหรอก
ที่รู้ตอนนี้คือ ประตูเหล็กดัดแม่งฝืดชะมัด
โจทย์
Day 17 — Write a short scenario set in the kitchen of a fast-food restaurant.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in