เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
1 สัปดาห์ มี 7 วันเจ้าดอกไม้❀
การเดินทางแสนพิเศษ
  • FRI 05.01.18
    นึกถึงความประทับใจ


    เขาแหลมหญ้า จ. ระยอง


      ต้นปีที่ผ่านมา 5-6 มกราคม 2018 เรากับเตี้ย (เพื่อนไม่ได้ชื่อเตี้ยนะ แค่มันตัวเตี้ย) ฮ่า  

    เรานัดกันไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้า จังหวัดระยอง ไปพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนเปิดเทอมสักหน่อย 

    จะว่าไปแล้วทริปนี้รอด หรือเปล่า ไม่รู้ !?  


               ระหว่างการเดินทางของเราเต็มไปด้วยอุปสรรคนานา นับว่าทั้งโชคดี - โชคร้ายในเวลาเดียวกัน

    ทริปนี้เปรียบเหมือนอาหารรสชาติที่แสนอร่อยกลมกล่อมครบรสจริง ๆ แต่ไม่สามารถกินให้หมดได้ 

    อะไรทำนองนั้น . . .


    เราเริ่มออกเดินทางไปหาเตี้ย จากกรุงเทพ-บางแสน เพื่อนั่งรถตู้ไปด้วยกัน และต่อด้วย

    บางแสน-ระยอง ไม่นานเราสองคนถึงท่ารถบขส. จังหวัดระยอง

    ต่อด้วยรถสองแถวไปถึงเขาแหลมหญ้า

    สายตาที่เก็บภาพนั้น เต็มไปด้วยทะเล ภูเขา รอยยิ้ม คนไทย คนไม่ไทย ฮ่า ๆ (ได้เหร๋อ)


    หา หา หา . . . หากระเป๋าตังค์ไม่เจอ!! 

    ขี้ลืมแบบนี้มีไอเตี้ยคนเดียวแหละ เราทั้งคู่ก็ใจหายไปแวบนึง แต่เราก็ยังพอมีสติกัน 

    เราก็ช่วย ๆ กันหาเบอร์ โทรหาบขส. นานพอสมควร 

    จนติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้เขาเก็บไว้ให้ 

    เฮ้อ โล่งอกไปหนึ่งเปราะ 

    โชคดีที่เจอคนดีมีน้ำใจ และโชคดีที่เรามีตังค์ติดตัวพอสำหรับเราสองคน 


    นี่แค่เร่ิ่มต้น

    . . .


    กระทั่ง ลงรถ-เดินขึ้นเขาต่อไปอีกนิด แบกสัมภาระกัน กระเตง ๆ 

    เดินไป คุยไป ขำไป หอบไป มองต้นไม้สองข้างทางไป เอ่อ สองคนมันก็สนุกดี 

    ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะถึงว้า เดินมาเรื่อย ๆ เจอคุณลุงทหารที่เป็นเจ้าหน้าที่อุทยานที่นี่ 

    คุณลุงทักทายพวกเราสองคน ด้วยความเป็นกันเองมาก 

    คุณลุงเรียกให้เด็กหนุ่มวัยรุ่นสองคน ขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งสาวหน่อยซิ 

    เดี๋ยวจะเป็นลมไปสะก่อน คุณลุงมีแอบแซวขำ ๆ


    ถึงแล้ว ปลายทางที่รอคอย

    อดใจไม่ไหว วางกระเป๋าลง ขอชมวิวทิวทัศน์ให้ชื่นใจหน่อย

    ลองนึกภาพตามนะ 

    กวาดสายตามองไปข้างหน้า สูดกาอาศเข้าลึก ๆ 

    เรามองเห็นภูเขาลูกใหญ่เรียงกันไกล ๆ ทะเลแสนกว้าง  

    ท้องฟ้าสีสด เสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้ากระทบโขดหิน กางเต็นท์นอนริมทะเล 

    ลมพัด กิ่งไม้ ใบไม้ ปลิวว่อน มีแสงแดดอ่อน ๆ แค่นี้ก็ฟินแล้วอ่ะ 


    อ่ะ เพลิน เพลิน

    ตอนนั้นประมาณ 4 โมงได้

    ลืมกางเต็นท์สะแล้ว เรากับเตี้ยก็ช่วยกัน แต่ก็มีหนุ่มวัยรุ่นที่มาส่งนั่น

    คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ เรากับเตี้ยก็ไปหาอะไรกินกัน 

    ก่อนขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกบนเขาแหลมหญ้า ระหว่างที่เรานั่งกินข้าวกันอยู่ 

    มีเจ้าฝูงลิงลงมาจากเขาเยอะมาก เราสองคนก็กลัว นั่งลุ้น นั่งมอง กินแบบระแวงไปหมด ฮ่า ๆ 

    เจ้าลิงพวกนั้นแอบสุ่มมองอยู่ จะมาขโมยของกินเราสองคน 

    ขวับ ขวับ!! พูดไม่ทันขาดคำ

    มือแสนชำนาญจกส้มตำต่อหน้าต่อตา เอาเข้าปากเรียบร้อย 

    เรากับเตี้ยมองหน้ากัน ทั้งขำและสงสารตัวเองกัน

    ฮือ พึ่งกินไปนิดเดียวเอง

    หนุ่มวัยรุ่นเดินมาไล่ลิงให้พวกเรา เจ้าลิงหนีไปด้วยความไว 

    เจ้าหน้าที่อุทยานน่ารักทุกคน คอยเดินดูความปลอดภัยให้ตลอดเวลา 

    รู้สึกอบอุ่น ตลอดการเดินทางเจอแต่คนใจดีมีน้ำใจ

    (นึกในใจจะเจออะไรอีกเนี่ย)

     

    อะไรเอ่ย ? ตกก่อนพระอาทิตย์


    ไป๊ ลุยต่อ . . . 

    เรากับเตี้ยกำลังเดินลัดเลาะริมทะเลที่เต็มไปด้วยโขดหิน เล็ก-ใหญ่สลับกันไป

    เจ้าหน้าที่คอยประกาศ ช่วงตอนเย็นน้ำกำลังลดลง ต้องเดินอย่างระมัดระวัง 

    เตี้ยเดินนำหน้าเราไปไกลมาก ขาสั้นแต่ทำไมเดินไววะ (นึกในใจ) ฮ่า 

    เราก็ค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ ตามเตี้ยไป 

    โอ๊ย โอ๊ย เจ็บ...ร้องลั่นออกมา 

    (เราเอง) ตกก่อนพระอาทิตย์ 

    โขดหินมันอยู่เฉย ๆ แท้ ๆ ไปลื่นล่มทับมันซะงั้น

    คนอะไรจะบื้อได้ขนาดนี้

    ตอนนั้นขำก็ขำ สงสารก็สงสารตัวเองนะ ฮ่า 

    เราตะโกนเรียกเตี้ย เตี้ย เตี้ย ด้วยความหมดหวัง 

    ห่างกันไกลมาก 

    เราภาวนาในใจให้เตี้ยหันกลับมาทีเถอะ 


    ฮือ โชคดีอีกแล้ว

     

    มีคุณป้ากับคุณลุงกำลังเดินสวนมาทางเราพอดี ทั้งสองช่วยพยุงเราให้ลุกขึ้น 

    ทั้งถามอาการ  ให้ยาแก้ปวดมากินกันไว้อีก 

    แต่เราลุกไม่ไหว แค่ขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็เจ็บแล้ว 

    เตี้ยมันคง เอะใจ ที่ไม่ได้ยินเสียงเราเลย

    จนเตี้ยหันกลับมาหาเรา 

    ฮึ้บ พยายามลุกขึ้น

    พอลุกขึ้นได้ก็ยังคิดจะเดินไปดูพระอาทิตย์ตกต่อ 

    แต่ไม่ไหวจริง ๆ เลยเดินกลับไปที่เต็นท์ ไปพักให้หายดีก่อน 


    อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ 

    แขนขวาขยับไม่ได้ เจ็บปวดทรมานสุด 

    เรานึกขึ้นได้โทรว่าไอหนุ่มใจดีให้เบอร์ทิ้งไว้

    เผื่อเกิดเหตุอะไรก็โทรไปหาได้

    เราก็โทรไปถามว่ามีที่ปฐมพยาบาลไหม ? 

    หนุ่มนั่นก็ประสานงานติดต่อเจ้าหน้าที่ให้

    จนเจ้าหน้าที่อุทยานมาพร้อมกับอุปกรณ์พยาบาลเบื้องต้น 

    คุณลุงเจ้าหน้าที่ก็สอบถามอาการเรา เราก็บอกไปว่าแขนไม่สามารถขยับได้เลยสักนิด

    หนูเจ็บมากเลยคุณลุง แอบน้ำตาคลอ 

    ลุงก็ตอบด้วยความไวว่า แขนหักแน่ ๆ ต้องพาไปโรงพยาบาลแล้ว

    เราแอบใจแป้วเลย 

    ไม่เคยเจ็บตัวหนักขนาดนี้ด้วยสิ

    คุณลุงเจ้าหน้าที่อุทยานติดต่อไปถึงหัวหน้าอีกที  

    ทีนี้แหละมาหลายคุณลุงเลย ฮ่า


    เสียงรถดังมาแต่ไกล . . .


    มีคุณลุงใจดีขับรถยนต์พาเรากับเตี้ยไปโรงพยาบาลระยอง

    ตอนนั้นประมาณ 1 ทุ่มได้

    เราก็ไปพบหมอ ตรวจเช็คอาการนู้นนี่นั่นเสร็จ

    ผลออกมา คือ กระดูกตรงข้อศอกแตก เคลื่อน

    หมอบอกเดี๋ยวรอใส่เฝือกที่แขน 

    เราก็นั่งรอ รอถึง 5 ทุ่ม

    เราก็เกรงใจคุณลุงที่พามา แทนที่ลุงจะได้พัก ธุระก็ไม่ใช่

    ต้องมานั่งรอเราอีก 

    จนเราถามหมอว่าทำไมนานจัง

    สรุป หมอลืมเราและอุปกรณ์มีไม่ครบด้วย

    . . .

    หมอก็เอาผ้าที่พันแผลมาพันไว้ให้ก่อน

    พยุงไม่ให้แขนขยับไป

    เราเลยขอหมอกลับ เดี๋ยวไปรักษาต่อที่กรุงเทพฯ 

    เกรงใจคุณลุงด้วย


    ระหว่างกลับที่พัก

    . . .


    เราบอกคุณลุงว่าพรุ่งนี้เช้าจะรบกวนจ้างคุณลุงไปส่งที่ท่ารถได้ไหม ?

    คุณลุงตอบตกลงด้วยความยินดีเต็มใจ

    แถมยังพาเราแวะ 7-11 กลัวเรากับเตี้ยหิวตอนดึก

    เราไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย

    ซื้อขนมมาฝากลุงเล็กน้อย


    เช้าวันรุ่งขึ้น


    คุณลุงใจดีก็มารับเรากับเตี้ยไปส่งที่ท่ารถบขส. 

    ก่อนจะขึ้นรถ คุณลุงขอถ่ายรูป เรา เตี้ย และคุณลุงเก็บไว้ด้วยนะ

    น่ารักเสียจริงคุณลุงใจดี

    เราก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานทุกคนที่คอยช่วยเหลือพวกเราสองคนเป็นอย่างดี


    เรากับเตี้ยถึงท่ารถบขส. เรียบร้อย

    คุณลุงใจดีช่วยถือของให้เรา เดินไปส่งเราสองคนขึ้นรถอีก

    ก่อนจากกับคุณลุงใจดี

    เราสอบถามชื่อคุณลุงไว้ คุณลุงชื่อ สมทบ

    เราขอบคุณลุงสมทบใจดี พร้อมกับจะให้ตังค์ลุงที่บอกไว้

    คุณลุงบอกไม่เอา แค่นี้เองไม่เป็นไร (คุณลุงยิ้มอบอุ่น)

    เราบอกคุณลุงว่างั้นเดี๋ยวครั้งหน้าเราจะมาแก้ตัวใหม่นะ

    แล้วจะซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากคุณลุงด้วย 

    พร้อมกับเฝือกที่พึ่งถอดไป (หยอก ๆ)

    เราสามคนส่งยิ้มกันก่อนจากกัน


    ทริปล่ม หรือ รอด ?


    จะบอกว่าล่มแต่รอดกลับมาได้ปลอดภัย ฮ่า 

    ก็แอบเสียดายเล็กน้อยที่อดไปดูพระอาทิตย์ตกกับวิวสวย ๆ บนเขาแหลมหญ้า

    แต่ก็ไม่เสียดาย เพราะ ระหว่างทางไม่ได้มีแค่ทะเล ภูเขา หรือต้นไม้

    ยังมีรอยยิ้ม และน้ำใจของคนบ้านเรา 

    ที่เป็นส่วนสำคัญให้กับทริปที่ไม่สมบูรณ์ 

    แต่เต็มไปด้วยความประทับใจ

    ตลอดการเดินทางครั้งนี้


    การเดินทางบางครั้งอาจไม่สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ได้สัมผัสกับรสชาติที่หลากหลายก็คุ้มค่าแล้ว



    ขอบคุณ
    คุณป้าคุณลุงคู่นั้น เตี้ยเพื่อนรัก คุณลุงใจดีทุกคน คุณลุงสมทบ ไอหนุ่มใจดี

    " จุดหมายปลายทาง ไม่สำคัญเท่าเรื่องราวระหว่างทาง "
    _ _ _
    การเดินทางแสนพิเศษ



    แขนหายแล้วนะคุณลุง






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Purephan Intanee (@fb3464473500244)
ลุงรออ่านเรื่องราวดีๆอีกนะ :)
@fb3464473500244 เร็วๆนี้นะลุง เจอกันน้า :D