“ กระหม่อมมิเคยลืมพระองค์ “ บากเอ่ย มองร่างที่อยู่ในวงแขนตัวเอง
“ เจ้าควรลืม “ อีกฝ่ายตอบแผ่วเบา
“ กระหม่อมพยายามลืมแล้ว แต่ทำมิได้… “ มือสีม่วงมีริ้วลายยกขึ้นปัดปอยผมสีขาว มองดวงหน้าที่โรยราเฉกเช่นดวงประทีปชีวิตที่ใกล้มอดดับ
“ เป็นถึงพรานทมิฬ ใยด้อยฝีมือนัก..แค่ยักษ์ใกล้ตายสักตน เจ้าควรลืม “ ทารคาพูดพลางพยายามเพ่งมองใบหน้าที่พระองค์จารจำไว้ในดวงพระทัย แม้มองไม่เห็นแต่ก็ทรงมั่นพระทัยว่าอีกฝ่ายมิเคยเปลี่ยนไป
“ ...โกรธกระหม่อมบ้างไหม? “
“ คราแรกโกรธ แต่ไม่อีกแล้ว.. “ อดีตราชาแห่งคีรีกัณฑ์แนบพักตร์กับอกที่เคยแนบชิดมานาน มันยังคงอบอุ่น สดับฟังเสียหัวใจที่คุ้นเคย
“ พระองค์ควรโกรธกระหม่อม กระหม่อมทรยศ “
“ ก็ใช่ แต่ในตอนนี้มันไม่มีประโยชน์แล้ว...ข้าไม่อยากตายโดยเคียดแค้นเจ้า เจ้าที่ข้ารัก “
“ พระองค์ไม่ควรรักกระหม่อม กระหม่อมมิมีค่าคู่ควรกับของสูงเช่นพระองค์ “พรานหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นเทา กระชับวงแขนให้ร่างผ่ายผอมเข้ามาใกล้ตนอีก
“ รักมิเคยแบ่งแยกชนชั้น...รักก็คือรัก เจ้าไปเสียเถิด “
“ ขอให้กระหม่อมอยู่เคียงข้างมิได้หรือ “
“ ข้าไม่อยากให้เจ้าเห็นวาระสุดท้ายของข้า ข้าที่น่าเกลียดและโรยราเช่นนี้ ข้าอยากให้เจ้าจำเพียงข้าที่รุ่งโรจน์ มีชีวิตชีวา ไม่ใช่อ่อนแรงใกล้ตายแบบนี้ “
“ ขอเถิด...ขอเถิดทารคา หากเวลาที่เรามีมันน้อยนิดแบบนี้แล้ว ก็ขอให้ข้าได้รักท่านอีกครั้ง “
“ เจ้ารักข้ามามากพอแล้ว ไปเสีย “
“ ไม่… “ บากบอกอย่างดื้อดึง กอดรั้งกายสีมรกตที่กำลังจะสลายหายไป ผู้ถูกโอบกอดยิ้มจางทั้งหยาดน้ำตา หากแขนที่กำลังสลายกลายเป็นฝุ่นผงยังอยู่ องค์คงจะยกขึ้นกอดร่างที่แสนรักแล้ว
“ ตัวเจ้ายังอุ่นเหมือนเดิม “
“ พระองค์ก็งามมิเปลี่ยนแปลง “ ทารคาหัวเราะเบาๆ ซุกหน้าลงกับไหล่ สรรพเสียงเงียบงันแม้กระทั่งเสียงเต้นของหัวใจ ทมิฬหนุ่มกัดฟันตระกองกอดร่างที่กำลังสลายไปด้วยใจที่สั่นไหว
“ กระหม่อมมิเคยลืม… และไม่มีสักวันที่จะเลิกรักพระองค์...ทารคา “ เขากระซิบแผ่วเบาแต่ยักษ์ผู้มีเกศาสีน้ำนมก็มิเอื้อนเอ่ยตอบ พักตร์ที่โรยรามีรอยยิ้มประดับสงบเหมือนทรงปลดจากความทุกข์ทั้งมวล ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะสลายกลืนหายไปกับลมและกลิ่นหอมบางเบา แสงจันทร์สาดส่องราวปลอบประโลมทมิฬกายสีม่วงที่ร้องโหยไห้ทุกข์ตรม ภาพจำยังเด่นชัดแต่มิอาจหวนคืนเฉกเช่นดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงามแค่ชั่วครู่ยามก่อนจะโรยราจากไป….
ข้ามิเคยลืมและมิเคยไม่รักเจ้า
อยู่มาจนถึงวันนี้...
เพราะหัวใจยังคนึงหาเพียงเจ้า
ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว…
ขอเพียงเจ้า...พรานของข้า
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
ลมอ่อนพัดโชยมา น้ำตาก็ไหลริน
เหลือเพียงกลิ่นหัวใจ คลุ้งไปกับความเหงา
รักยังไม่จางไป ตรึงติดชิดดวงใจ
ยังหอมรัญจวนชวนให้ฝัน
เคยแอบแนบเคียงกาย อิงแอบมิรู้คลาย
ใต้เงาของแสงจันทร์ เย้ายวนไม่เลือนหาย
ซ่อนเก็บไว้ข้างใน ตรงสุดลึกดวงใจ ถนอมเธออยู่ในนั้น
คงไว้ได้แค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลา ยังหอมดังวันเก่ายามเมื่อลมโชยมา
ทิ้งไว้เพียงอดีตที่ไม่เคยหวนมา ซ่อนเธอไว้ในใจ
เจ้าดอกไม้ซ่อนกลิ่น หอมบาดลึกเกินใคร หอมเกินหักห้ามใจ
ทุกคราวต้องหวั่นไหว ร้อยเก็บเจ้ามาลัย ทัดเธอไว้ในใจ เพื่อคงกลิ่นหอมไว้อย่างนั้น
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in