ในครั้งนี้ก็จะขอคอหนังแนวจิตมาย้อนรำลึกถึงสาวน้อยเอสเธอร์จากภาพยนตร์เรื่อง ORPHAN ออร์แฟน(เด็กนรก)โดยในครั้งนี้ก็ตามสูตรเลยครับต้องพูดถึงการเล่าเรื่องระดับเนื้อความหรือตัวบท(discourse) ก่อนนะครับโดยออร์แฟนเล่าเรื่องของครอบครัวๆหนึ่งที่ไปรับรักจากสถานสงค์เคราะห์มาเลี้ยง และก็เริ่มเล่าเรื่องราวตามทฤษฏีการเล่าเรื่องแบบเเป๊ะๆตามลำดับแต่ดูแล้วกลับสนุกตื่นเต้นตลอดเวลา จะบอกว่าออร์แฟนเล่าเรื่องตามสูตรโครงเรื่องแบบ Classical Design เป็นแบบที่พบบ่อยที่สุดคือเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต่อเนื่อง และเป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลสอดคล้องกันไปจนถึงบทสรุปตอนจบที่ทำให้ ชีวิตตัวละครเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ทำออกมาได้ดีมากโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะการกำหนดจังหวะของเรื่องราวเลยทำให้รู้สึกว่ามันดีจังเลยประเด็นต่อมาคือความขัดแย้ง (Conflict) ในเรื่อนี้จะเห็นความขัดแย่งกันระหว่างคนในครอบครัวหรือระหว่างมนุษย์ด้วยกันโดยความขัดแย้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างเด็กเอสเธอร์จากบ้านเด็กกำพร้า กับ เคท และจอห์น สามีของเธอ ความขัดแย้งเริ่มจากจุดเล็กๆและขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนลุกรามจนเกือบทำให้ครอบครัวของเคทพังทลายลง ต่อมาคือตัวละคร (Character) จะขอพูดถึงเอสเธอร์เอสเธอร์เป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจมากเพราะยังไม่เคยเห็นตัวละครแบบนี้มาก่อนมีเอกลักษ์ที่โดดเด่นและน่ากลัวมากเลยทีเดียว ส่วนเคทก็ช่างน่าสงสารจนทำให้เราอดเอาใจช่วยเธอไม่ได้
- ORPHAN ออร์แฟน เด็กนรก จัดเป็นภาพยนตร์เป็นภาพยนตร์ในแนวจิตวิทยาระทึกขวัญความยาว123นาทีเข้าฉายในไทยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2552 จากการกำกับของ Jaume Collet-Serraเฮาเมต์ โคเลต-เซร์ญา ผู้กำกับชาวสเปน ที่เคยมีผลงานจาก House of Wax ในปี ค.ศ. 2005 ออร์แฟนได้ตัวนักแสดงนำที่น่าสนใจโดยเฉพาะนักแสดงเด็กอย่างIsabelle Fuhrman, Aryana Engineer และนักแสดงมากความสามารถที่มารับบทเคทคือ Vera Farmiga ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะเห็นตัวละครแต่ละตัวถูกวางCharacter ให้แตกต่างกันออกไปในบทบาทแต่ละบทบาทแฝงไปด้วยความคิดที่ซ้อนอยู่ภายในทำให้ดูแล้วรู้สึกนึกคิดตามสถานการณ์มี่เกิดขึ้นแต่ละฉากๆเรื่องได้ว่าเชื่อจริงๆ ปัญหาเหล่านั้นมันต้องเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นแน่นอนและแน่นอนตัวละครเอกอย่าง เอสเธอร์ เธอมีความปรารถนาที่ชัดเจนแต่ดูแล้วไม่รู้สึกเลยว่าเธอกำลังสวมบทบาทอยู่แต่รู้สึกว่าเธอเป็นแบบนั้น และทำให้ยิ่งสงสารเคทขึ้นไปอีก
-เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของครอบครัว ครอบครัวหนึ่งมีพ่อแม่ลูกชายและลูกสาวคนเล็กที่พูดไม่ได้เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่เคท และจอห์น ได้ศูนย์เสียลูกที่กำลังจะลืมตามาดูโลกไปตั้งแต่ในท้องและเคทกลายเป็นคนติดเหล้าจนเกือบทำให้ลูกอีกสองคนต้องตายจนกลายเป็นความล้มเหลวที่คอยติดตามหลอกหลอนพวกเขาทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะรับอุปการะเด็กเข้ามาในครอบครัวอีกหนึ่งคนเพื่อเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ดังเดิมทั้งคู่จึงเดินทางไปที่บ้านเด็กกำพร้าและได้เจอกับเด็กหญิงที่น่ารักน่าชังคนหนึ่งที่ชื่อว่าเอสเธอร์เธอมีอะไรบางอย่างทำให้พวกเขาสนใจและตัดสินใจรับเธอมาอยู่ด้วยแต่อยู่มาไม่นานเคทก็เริ่มสังเกตุเห็นความผิดปรกติของเด็กเอสเธอร์เธอจึงเริ่มสืบค้นประวัติของเด็กคนนี้และเริ่มพบเบาะแสที่น่ากลัวในที่สุดเอสเธอร์ที่น่ารักก็ได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงอันน่ากลัวและพยายามจะฆ่าทุกคนเหมือนครอบครัวอื่นๆที่เคยทำมาแต่สัญชาติญาณความเป็นแม่ของเคทก็ทำให้เธอลุกขึ้นต่อสู้กับฆาตกรโรคจิตเพื่อปกป้องทุกคนให้ปลอดภัยความกล้าหาญของเธอทำให้ครอบครัวรอดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายมาได้และกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม
-เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าโดยเคท เธอต้องผ่านปัญหาอุปสรรค์และความไม่เข้าใจไม่มีใครยอมเชื่ออะไรที่เธอพูดเพราะเธอเคยติดเหล้าอย่างหนักเธอต้องต่อสู้กับฆาตกรโรคจิตที่อาศัยอยู่ในบ้านของเธอเพียงลำพัง เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าว่าเป็นยุคปัจจุบันในขณะนั้นและถูกถ่ายทอดออกมาเล่าแบบเรื่องจริงไม่ใช่จินตนาการที่เคทมโนภาพขึ้นเองหรือภาพหลอนใดๆ การเล่าลักษณะนี้ส่งผลให้คนดูเชื่อและเอาใจช่วยตัวละครมากกว่า
-เทคนิคที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องออร์แฟน ส่วนมากเป็นมุมภาพขนาดกลาง และระยะใกล้เพราะผู้กำกับต้องการสื่ออารมณ์ของตัวละครออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าแววตา ท่าทาง เพราะอย่างที่บอกเรื่องนี้เป็นหนังจิตรวิทยาระทึกขวัญ มุมภาพและระยะเป็นสิ่งสำคัญมากมุมกล้องเป็นแบบ Subjective เพื่อให้คนดูรู้สึกว่าได้เข้าไปอยู่ในเรื่องด้วยในส่วนขององค์ประกอบภาพที่ใช้สื่อความหมายทำได้ดีมากมีจังหวะและความต่อเนื่องของภาพที่ลื่นไหลสวยงามการจัดวางวัตถุสามารถสื่อความหมายได้ดีการตัดต่อมีความต่อเนื่องและกระตุ้นอารมณ์ได้ยอดเยี่ยมแสงและสีที่ใช้ก็ปรับไปตามอารมณ์ของเหตุการณ์ในขณะนั้นการใช้เสียงก็มีส่วนช่วยเยอะในหนังเรื่องนี้ ฉากอีกทั้งเครื่องแต่งกายและสถานการณ์สมจริงสมจังสอดคล้องกับยุคสมัยในส่วนของนักแสดงไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเพราะแทบทุกตัวละครเข้าถึงบทบาทดีมากๆจนทำให้เราอินไปกับบทและเหตุการณ์เรียกว่าตีบทแตกกระจายเลยก็ว่าได้
ทำให้คนดูคาดไม่ถึง นับว่าประสบความสำเร็จในการหลอกคนดูแล้ว