เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[JackBam] Angels /GOT7 FanFictionChunari_CJ
Chapter 18 : ความสุข
  • “โอ้โหหหหหหหหหห”แจ็คสันแทบจะหุบปากไม่ลงเมื่อได้เห็นว่าแบมแบมทำอย่างที่ว่าไว้จริงๆ แต่ดูจะเกินกว่าที่เขาคิดไปมากชายหนุ่มวางสัมภาระของเขาลงข้างต้นไม้ต้นเดิม แล้วเดินเข้าไปจนชิดติดลูกกรงเพื่อดูให้เห็นชัดๆ  ตอนนี้บริเวณที่เคยเป็นพื้นหญ้าที่ราบโล่งที่แบมแบมชอบมานั่งมีโครงกิ่งไม้แห้งที่ดูคล้ายกับรังของแองเจิ้ลส์ตั้งอยู่บนพื้น  เพียงแต่ว่าขนาดของมันไม่ใหญ่เหมือนรังปกติที่อยู่บนต้นไม้  รังนี้มีขนาดกระทัดรัดมากกว่าเยอะเป็นบ้านขนาดย่อมๆ อย่างที่แองเจิ้ลส์น้อยเข้าใจเอาไว้ไม่ผิด

     

    ตอนที่แบมแบมบอกว่าจะทำบ้านเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าแบมแบมจะทำได้ยังไง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินความสามารถในการสร้างสรรค์ของแองเจิ้ลส์ต่ำเกินไปโครงตอนนี้เหมือนการนำกิ่งไม้ทั้งเล็กใหญ่ มาขัดสานกันจนเป็นโครงร่าง แต่ว่ายังเป็นแค่โครงเปล่าๆที่สามารถมองทะลุช่องว่างมากมายได้  ไม่น่าเชื่อว่าช่วงเวลาเพียงแค่ข้ามคืนแองเจิ้ลส์น้อยสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดนี้ออกมาได้

     

    ชายหนุ่มชะเม้อมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นวี่แววของแองเจิ้ลส์น้อยเขาจึงคิดเอาว่าเด็กน้อยคงจะกลับไปพักผ่อนที่รังแล้ว

     

    “จะเป็นเรื่องรึเปล่านะใหญ่ซะขนาดนี้ หรือว่าเราควรจะแจ้งจินยองฮยองกับเจบีฮยองดี”  แจ็คสันได้แต่พึมพัมอย่างกังวลเพราะ เต้นท์ ของแบมแบมดูจะสะดุดตามากเกินไป ถ้าหัวหน้าแผนกทั้งสองรู้เข้าล่ะก็  ดีไม่ดีเขาอาจจะโดนลงโทษ โทษฐานพาแบมแบมทำอะไรแบบนี้หรือไม่ก็อาจจะโดนสั่งห้ามไม่ให้มาเฝ้าเลยก็ได้

     

    “เอาเถอะรอดูก่อนละกัน” ชายหนุ่มตัดสินใจรอเพราะบางทีเขาอาจจะเกลี้ยกล่อมให้แองเจิ้ลส์น้อยยกเลิกได้ก่อนที่จินยองหรือเจบีจะรู้แต่ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะรังบนพื้นแบบนี้คงไม่มีแองเจิ้ลส์คนไหนคิดทำมาก่อนบางทีจินยองอาจจะอยากวิจัยดูก็ได้

     

    แจ็คสันหันกลับไปสำรวจต้นไม้ที่อยู่ลึกเข้าไปด้านหลังต้นที่เขานั่งประจำเพื่อหาที่สำหรับกางเต้นท์สนามของตัวเองไม่นานนักเขาก็ได้ที่ที่คิดว่าเหมาะ จึงได้เดินออกมาเอากระเป๋าเต้นท์ที่วางรวมไว้กับสัมภาระ

     

    แจ็ค!!”เสียงแองเจิ้ลส์น้อยเรียกเขาดังแว่วมาแต่ไกล

     

    แบม!”ชายหนุ่มหันกลับไปมองหาตามเสียงเรียก สายตาเขาก็ไปพบกับร่างเล็กที่กำลังหอบใบไม้หรือใบหญ้าอะไรสักอย่างมากองใหญ่มีเพียงหัวสีขาวโผล่พ้นใบหญ้าในอ้อมแขนมาเพียงเล็กน้อย

     

    “อย่าวิ่งสิเดี๋ยวล้ม!” แจ็คสันตะโกนบอกเมื่อเห็นเด็กน้อยเร่งความเร็วเข้ามาหาทั้งๆที่ยังมีของกองใหญ่จนแทบจะบังหัวมิดอยู่ในอ้อมกอด แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้ใส่ใจ ร่างเล็กยังหอบกองใบไม้วิ่งมาราวกับว่าสิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดไม่มีน้ำหนักแม้แต่น้อยจนกระทั่งมาถึงข้างๆ รังจึงได้วางกองใบไม้ลง ผมสีขาวบนหัวยุ่งเหยิงไปด้วยเศษใบไม้และหญ้าแห้งเล็กๆเสื้อสีขาวที่ใส่อยู่ก็มีรอยเปื้อนหลายแห่ง

     

    “แจ็ค! นี่บ้านแบม” เด็กน้อยชี้ให้เขาดูรังที่ถึงไม่ต้องชี้ก็มองเห็นอยู่ทนโท่ แบมแบมฉีกยิ้มกว้างให้เขาสายตาเป็นประกายราวกับกำลังรออะไรสักอย่าง

     

    “เก่งคร้าบบบเก่งมากเลยแบม” ชายหนุ่มตบมือแปะๆ แล้วยกนิ้วโป้งให้ด้วยมือทั้งสองข้าง แองเจิ้ลส์น้อยจึงหัวเราะออกมาด้วยความดีใจเมื่อได้รับคำชมก่อนจะชะเง้อมองหาอะไรบางอย่างข้างหลังเขา  แจ็คสันหันตามไปมองข้างหลังเพื่อดูว่าแบมแบมกำลังมองหาอะไร

     

    “แจ็คบ้าน ไหน” เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความสงสัย ชายหนุ่มหัวเราะหึๆกับความกระตือรือร้นของแองเจิ้ลส์น้อยที่อยากจะเห็นบ้านเขาหลังจากอวดบ้านตัวเองเสร็จแล้วเขาจึงเดินกลับไปที่ต้นไม้ เพื่อหยิบกระเป๋าใส่เต้นท์ใบขนาดย่อมที่เตรียมมายกขึ้นโชว์ให้แบมแบมดู

     

    “นี่ไงบ้านเฮีย”

     

    “เล็ก  แจ็ค นอน ไม่ได้”  แองเจิ้ลส์น้อยส่ายหัวแรงๆ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าบ้านในมือแจ็คสัน

     

    “ได้สิเดี๋ยวเฮียเอาไปกางตรงโน้น มันก็จะใหญ่ขึ้นเท่าบ้านของแบมเลย”  แต่เด็กน้อยก็ยังขมวดคิ้วมุ่น

     

    “เอางี้นะเรามาแข่งกัน ของแบมก็ยังไม่เสร็จใช่มั๊ย เดี๋ยวเฮียไปตั้งบ้านของเฮียแบมก็ทำบ้านของแบม ใครเสร็จก่อนชนะนะ” แบมแบมพยักหน้ารับแล้วยิ้มอย่างท้าทาย

     

    “หนึ่งสอง สาม ไป!!!”  แจ็คสันนับแล้วทำท่ารีบวิ่งไปยังจุดตั้งเต้นท์ที่เตรียมเอาไว้ทำทีเป็นจัดการเก็บกวาดพื้นที่เพื่อเตรียมตั้งแต้นท์  แต่กลับแอบหันไปมองเด็กน้อยแทนที่จะจัดการเต้นท์ของตัวเองแบมแบมก้มลงไปยังกองใบไม้ หยิบใบหญ้าเส้นยาวขึ้นมาสานต่อๆ กันมือของเด็กน้อยทำงานอย่างคล่องแคล่วว่องไว โดยไม่หันมาสนใจชายหนุ่ม

     

    เพียงแค่ชั่วอึดใจผนังของรังก็ถูกถักทอขึ้นเรื่อยๆจากจุดเล็กๆ  ตอนแรกแจ็คสันคิดจะเกลี้ยกล่อมให้แบมแบมเลิกทำบ้าน แต่พอได้เห็นความทุ่มเทกับความภาคภูมิใจที่เด็กน้อยแสดงให้เห็นเขาก็พูดไม่ออกแบมแบมในตอนนี้แตกต่างจากตอนที่เขาเห็นครั้งแรก ตอนนั้นเด็กน้อยถูกโอบล้อมไปด้วยบรรยากาศของความอ้างว้างโดดเดี่ยว และเศร้าสร้อย

     

    แต่แบมแบมที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ทั้งร่าเริงมีชีวิตชีวา มุ่งมั่น.. และน่ารัก  ไม่ว่าจะเป็นหัวสีขาวที่ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยเศษใบไม้แห้ง แก้มอิ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงเรื่อเพราะการออกแรงทำงานอย่างเต็มที่  รอยยิ้มที่ส่งให้เขา คิ้วเล็กๆที่คอยขมวดมุ่นยามสงสัย และปีก.. ปีกสีขาวบริสุทธิ์ไม่ต่างจากจิตใจของเจ้าตัว ไม่ว่าอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมดทุกอย่างยิ่งเห็นความร่าเริงนี้ยิ่งทำให้เขายากที่จะเชื่ออย่างที่จินยองบอก  ว่าแบมแบมอยู่ในสภาวะที่อันตรายเต็มทีจะเป็นไปได้ยังไงที่เด็กน้อยอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ คำพูดของจินยองกลายเป็นเหมือนการคาดการณ์ที่ยังอยู่อีกไกลแสนไกล

     

    แองเจิ้ลส์น้อยรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังมองตรงมาเมื่อหันไปก็เห็นชายหนุ่มยืนอมยิ้มจ้องเขาอยู่เฉยๆ คิ้วเรียวจึงขมวดเล็กๆแต่แล้วก็คลายออกกลายเป็นยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าบริเวณห่างออกไปที่แจ็คสันยืนอยู่ยังไม่มีโครงสร้างอะไรสักอย่าง

     

    “แจ็ค! แพ้!” เด็กน้อยชี้มาทางเขาแล้วหัวเราะ ตามด้วยการแลบลิ้นใส่ ชายหนุ่มจึงหัวเราะลั่น  เขาจะไม่บอกแบมแบมหรอกว่าถึงเต้นท์ของเขาจะสามารถกางแบบแมนนวลได้ แต่ก็สามารถติดตั้งอัตโนมัติด้วยคลิกเดียวได้ด้วยเหมือนกันขอเพียงแค่ติดตั้งฮุกไว้ยังจุดที่ต้องการได้สำเร็จ นอกนั้นจะกางแบบแมนนวลหรือออโต้ก็ได้ไม่มีปัญหาเขาสามารถเอาชนะแบมแบมได้ด้วยเวลาเพียงเสี้ยวนาที แต่เขาไม่ได้ตั้งจะเอาชนะแองเจิ้ลส์น้อยเลยสักนิดเขาแค่รู้ว่าแบมแบมชอบสนุกไปกับการแข่งขัน และเวลาเด็กน้อยชนะก็จะมีความสุขจนหัวเราะร่า

     

    แจ็คสันควานหาฮุกในกระเป๋าเต้นท์แล้วติดตั้งตามจุดที่เหมาะสมจนสำเร็จ นอกนั้นเขาก็ใช้เวลาที่เหลือกางเต้นแบบแมนนวลอย่างเอื่อยเชื่อยโดยที่เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการแอบมองแบมแบมทำงานซะมากกว่า  แองเจิ้ลส์ทำงานได้เร็วอย่างเหลือเชื่อนิ้วที่สานใบหญ้าคล่องแคล่วจนแทบจะมองไม่ทันงานพวกนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาคงใช้เวลาอย่างต่ำไม่น้อยกว่าสามวัน แต่แบมแบมแทบจะทำมันเสร็จภายในครึ่งวันเท่านั้น

     

    กองใบหญ้ากองสุดท้ายหมดลงตอนเวลาใกล้จะเย็นเต็มทีแบมแบมเดินสำรวจรอบๆ รังน้อยของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ แล้วมองไปรอบๆ เพื่อหาตัวแจ็คสัน  เด็กน้อยเห็นชายหนุ่มกำลังดึงเชือกเส้นยาวอยู่หน้าเต้นท์เหี่ยวๆอย่างขะมักเขม้น

     

    “แจ็ค!!  แบมชนะ  เด็กน้อยตะโกนเรียกพร้อมเสียงหัวเราะร่า

     

    “อะไรกันเสร็จแล้วเหรอ ว้า เฮียไม่น่าไปท้าแบมแบมเลยสินะ แบบนี้ก็ต้องให้รางวัลแล้วสิ” แจ็คสันปล่อยเชือกแล้วปัดฝุ่นดินตามเนื้อตัวก่อนจะเดินไปควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้ “เอ้า แบม! รับนะ”  บางสิ่งบางอย่างถูกโยนไปให้แองเจิ้ลส์น้อยที่สามารถรับเอาไว้ได้อย่างแม่นยำเช่นเคย

     

    เด็กนอยแบมือออกเพื่อพิจารณารางวัลที่ได้รับอะไรบางอย่างถูกห่อเอาไว้ในก้อนกระดาษกลมๆ แบมแบมเงยหน้าขึ้นมอง แจ็คสันจึงทำท่าบอกให้แกะออกมือเล็กจึงแกะกระดาษที่ห่อเพื่อเพิ่มน้ำหนักออกอย่างระมัดระวังจนกระทั่งเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน  มันคือสร้อยคอเส้นยาวที่เกิดจากเชือกสีดำเส้นเล็กๆถักทอสานกันไปมา ที่สร้อยมีจี้ห้อยเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวเล็กๆรูปนางฟ้าสีขาวบริสุทธิ์ ดวงตาจับจ้องที่จี้รูปนางฟ้าไม่วางตาทั้งตัวสีขาวกับปีกสีขาว เหมือนเขาไม่มีผิดเลย

     

    “ชอบรึเปล่าแบม”แจ็คสันเดินมาจนชิดริมกรง  “ใส่เอาไว้สิ ที่บ้านเฮียเรียกคนที่มีปีกสีขาวแบบนี้ว่านางฟ้าแล้วถ้าใครมีนางฟ้าอยู่กับตัวล่ะก็ คนคนนั้นก็จะมีความสุข  นี่ไงเห็นมั้ย เฮียก็มีเหมือนกันเลย” แจ็คสันดึงสร้อยที่มีลักษณะเหมือนกันเปี๊ยบที่ใส่อยู่ที่คอขึ้นชูให้เด็กน้อยดู

     

    “ความสุข...”แองเจิ้ลส์น้อยพึมพัม ตากลมโตมองสร้อยคอของแจ็คสันแล้วก้มลงมองจี้นางฟ้าของตัวเองนิ้วเรียวยกขึ้นลูบผิวสัมผัสที่เรียบลื่นเป็นเงาของตุ๊กตากระเบื้องเคลือบแผ่วเบา แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม

     

    “แจ็คขอ!”  เด็กน้อยแบมือยื่นออกมาข้างหน้า

     

    “หืมขออะไรแบม”

     

    “อันนั้น!  มือที่แบอยู่เมื่อสักครู่ชี้มาที่สร้อยบนคอของเขา

     

    “อ้าวของแบมก็มีแล้วไงล่ะ เรามีกันคนละอันไง เหมือนกันเปี๊ยบเลยนะ” ชายหนุ่มงงงวย

     

    “ก็แบม จะเอา” เสียงเด็กน้อยเริ่มงอแง แจ็คสันจึงครุ่นคิดหรือแบมแบมจะเข้าใจว่ายิ่งมีนางฟ้ามากๆ ก็จะมีความสุขมากขึ้นรึเปล่านะ เขาไปเจอสร้อยนี่ที่ตลาดเล็กๆระหว่างทางกลับบ้านเมื่อวาน ก็เลยคิดถึงแบมแบมขึ้นมาและสร้อยแบบเดียวกันนี้ก็เหลือเพียงแค่สองเส้นพอดี เขาจึงซื้อมาทั้งสองเส้นเพื่อจะได้เอาไว้ใส่คู่กับแบมแบมแต่ถ้าเด็กน้อยจะเขาใจไปเช่นนั้นเขาก็คงจะต้องตัดใจ

     

    “ก็ได้ๆรอแป๊บนะเดี๋ยวเฮียส่งให้” แจ็คสันถอดสร้อยของตัวเองออกจากคอ แล้วมองไปรอบๆเพื่อหาอะไรสักอย่างมาถ่วงน้ำหนัก  ชายหนุ่มได้กิ่งไม้ท่อนสั้นๆที่มีน้ำหนักพอประมาณจากใต้ต้นไม้ จึงเอาสร้อยพันเข้ากับกิ่งไม้แล้วโยนให้แบมแบม เด็กน้อยรับเอาไว้ด้วยความยินดีแล้วจึงเดินไปที่กองใบหญ้าทำผนังที่ยังเหลืออยู่ เลือกหาอะไรอยู่สักพักแล้วจึงมุดเข้าไปในรังน้อย

     

    “มีความสุขมากๆนะแบม” แจ็คสันยิ้มบางแล้วจึงเดินกลับไปจัดการกับเต้นท์ของตัวเองให้เสร็จ ชายหนุ่มกดปุ่มที่อยู่บนกระเป๋าใส่เต้นท์เต้นท์เหี่ยวๆ ที่ดูสลดหดหู่ของเขาก็เด้งหวือขึ้นเป็นเต้นท์ที่กางเสร็จสมบูรณ์ภายในชั่วพริบตาเขากลับไปเอาสัมภาระที่วางกองอยู่ใต้ต้นไม้เข้ามาเก็บในเต้นท์ของตัวเองและปูที่นอนเอาไว้ริมด้านในเต้นท์หลังนี้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับคนสองคน จึงกว้างขวางมากเมื่อเขาใช้เพียงคนเดียว

     

    เมื่อปูที่นอนเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงออกมาด้านนอกชายหนุ่มลูบมือไปตามผิวของเต้นท์เพื่อเช็คว่าระบบพรางตายังทำงานเป็นปกติอยู่รึเปล่าผิวเต้นท์บริเวณที่มือของเขาลูบผ่านไปเปลี่ยนจากสีเขียวทึมกลายเป็นภาพสะท้อนของสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบข้างแจ็คสันพยักหน้าอย่างพออกพอใจ เขากดปุ่มบนรีโมทเล็กๆ ที่พกไว้ในกระเป๋ากางเกงผิวของเต้นท์จึงกลับเป็นสีเขียวทึบทึมตามเดิม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีชายหนุ่มจึงเข้าไปหยิบแซนวิชที่ห่อไว้ออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วจัดการกับอาหารเย็นของเขาใต้ต้นไม้

     

    แสงของวันอ่อนจางลงเต็มทีแบมแบมคลานออกมาจากรังน้อยเมื่อแจ็คสันจัดการกับอาหารเย็นเสร็จและเก็บกวาดร่องรอยเสร็จเรียบร้อยหัวหูของแองเจิ้ลส์น้อยยังคงยุ่งเหยิง มือเล็กประคองอะไรบางอย่างไว้แนบอกด้วยความทะนุถนอม

     

    “แจ็ค!!” แองเจิ้ลส์น้อยกวักมือเรียกเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แจ็คสันจึงเดินมาโบกมือให้ที่ริมกรง

     

    “มีอะไรเหรอแบม”

     

    “รับ”แองเจิ้ลส์ขว้างท่อนไม้ลอยหวือผ่านซี่กรงออกมา แจ็คสันมองตามและกระโดดคว้าท่อนไม้นั้นเอาไว้ได้

     

    “อะไรเนี่ยแบม”  ตรงกลางท่อนไม้ถูกพันห่อเอาไว้ด้วยใบหญ้าและเมื่อสังเกตุดีๆ นี่เป็นกิ่งไม้ที่เขาพันสร้อยเพื่อโยนให้กับแบมแบมเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา

     

    “ความสุข”เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้าง

     

    “ความสุขเหรอ”แจ็คสันแกะใบไม้ใบหญ้าที่ห่อท่อนไม้นั้นออก เพียงไม่นานสิ่งที่อยู่ข้างในก็ปรากฎแก่สายตาสร้อยของเขาเส้นที่เขาส่งให้แบมแบม ตอนนี้ข้างๆจี้รูปนางฟ้าสีขาวมีอะไรบางอย่างห้อยอยู่ข้างเคียงกัน

     

    ความรู้สึกบางอย่างรื้นขึ้นมาในหัวอกของชายหนุ่มจี้รูปนางฟ้าสีขาวที่เคยห้อยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ตอนนี้มีเต่าที่ถูกถักสานจากใบหญ้าที่ฉีกเป็นเส้นเล็กและบิดจนเป็นเกลียวห้อยอยู่ข้างๆ และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือเต่าตัวนี้เองก็มีปีกเล็กๆ ด้วยเช่นกัน ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเงาวาวกับตุ๊กตาสานสีเขียวสดของสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วแต่เมื่ออยู่เคียงข้างกันแล้วกลับให้ความรู้สึกอบอุ่น เติมเต็มในหัวใจของเขาอย่างประหลาด

     

    “แบม..”ชายหนุ่มละสายตาจากสร้อยในมือ กลับไปสบตากับแองเจิ้ลส์น้อย

     

    “แบบนี้  ความสุข” เสียงหัวเราะของแบมแบมปนด้วยความเขินอายเล็กๆ “แบม มี ความสุข ด้วย” เด็กน้อยยกสร้อยของตัวเองที่คล้องคอเอาไว้แล้วให้เขาดูสร้อยของแบมแบมเองก็มีเต่าอยู่ด้วยเช่นกัน

     

    “อื้ม..ต้องแบบนี้สิเนอะ” แจ็คสันซับหยดน้ำที่ซึมอยู่ที่หางตาแล้วจึงคล้องสร้อยเส้นยาวกลับไปที่คอเขาเก็บสายสร้อยเอาไว้ภายใต้เสื้อ ความยาวของสร้อยทำให้จี้ทั้งสองอยู่ระดับเดียวกับหัวใจของเขาพอดีสัมผัสเย็นๆ ของผิวกระเบื้องเคลือบกับความสากของตุ๊กตาสานกลับให้ความรู้สึกอุ่นวาบอยู่ที่อก

     

    .

    .

    .

    .

    .

    การเฝ้ายามผ่านไปได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหาเช้าวันถัดมาแจ็คสันเข้าไปแจ้งเรื่องรังน้อยของแบมแบมกับจินยองก่อนจะสแกนการ์ดเพื่อกลับบ้านเนื่องจากเขาถูกพักงานเขาจึงไม่สามารถอยู่ที่สถาบันตลอดเวลาได้เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการนับชั่วโมงทำงาน จึงคล้ายกับเป็นการเข้ากะตอนกลางคืนแทนการเข้างานแบบปกติจินยองไม่ได้คัดค้านเรื่องที่แบมแบมลงมาสร้างรังที่พื้น บอกเพียงแต่ว่าจะเข้าไปดู  แต่ตอนนี้หัวหน้าแผนกวิจัยกำลังวุ่นวายเต็มเวลาอยู่กับสภาวะการตั้งครรภ์ของเพิร์ลที่ก้าวหน้าขึ้นทุกขณะ

     

    แจ็คสันแวะไปที่แผนกลาดตระเวนเพื่อเขียนรายงานเรื่องเดียวกันทิ้งไว้ให้กับเจบี  ยูคยอมที่สภาพจิตใจดีขึ้นมากหลังจากได้เปิดอกคุยกับเขามานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่แผนก  ยูคยอมบอกว่าตอนนี้ถูกจินยองสั่งให้มาทำงานเบ๊เป็นการไถ่โทษจึงต้องมารอรับงานที่ห้องนี้  แจ็คสันคิดว่าคงเป็นเพราะจินยองไม่อยากให้ยูคยอมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องคนเดียว

     

    วันถัดมาจินยองได้เข้ามาสำรวจรังน้อยของแบมแบมนอกจากตอนที่รู้ว่าเพิร์ลตั้งครรภ์แล้ว นี่เป็นครั้งเดียวที่แจ็คสันเห็นหัวหน้าแผนกวิจัยผู้เงียบขรึมและงามสง่าแสดงอาการตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด จินยองขอแบมแบมถ่ายรูปรังเก็บเอาไว้ในทุกมุมเข้าไปสำรวจการสานผนังรอบๆ แทบจะเรียกได้ว่าอย่างละเอียดละออและได้มุดเข้าไปดูภายในตามที่แบมแบมชวน โดยมีแจ็คสันยืนยิ้มแห้งอยู่นอกกรง

     

    ถึงแม้ในสถาบันจะมีแองเจิ้ลส์ที่สมัครใจอยู่ที่นี่ถึงสามคู่แต่รังก็ยังเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับมนุษย์อยู่ดี แองเจิ้ลส์ถือว่ารังเป็นพื้นที่ส่วนตัวและเขตหวงห้ามจินยองจึงไม่เคยได้เห็นใกล้ๆ เขาทำได้อย่างดีก็แค่เงยหน้ามองรังที่อยู่ลิบๆบนยอดไม้ หรือไม่ก็วิเคราะห์จากกล้องสแกนเท่านั้น

     

    นอกจากจินยองแล้วคนในแผนกลาดตระเวนก็สลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาดูรังน้อยของแบมแบมเช่นเดียวกัน ทั้งเจบียูคยอม บ๊อบบี้ ไรอัน ออสริค ลิซ่า หรือแม้แต่ยองแจก็แอบแวบมาจากแผนกไอทีด้วย ตลอดเวลาที่แจ็คสันเฝ้าอยู่แบมแบมมีท่าทีเป็นมิตรกับทุกคน ไม่หวาดกลัวและข่มขู่ใครเหมือนเมื่อก่อน ที่นอกจากเจบีกับจินยองแล้วแองเจิ้ลส์น้อยจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในรัศมีอีก  ถ้ามีใครเข้ามาแองเจิ้ลส์น้อยก็พร้อมจะหวีดเสียงใส่แล้ววิ่งหนีไป

     

    เวลาที่ไม่มีใครมาแจ็คสันก็จะนั่งอ่านหนังสือ หรือบางทีก็อ่านนิทานให้แบมแบมฟัง บางครั้งก็เล่นเกมหรือเป่าเพลงให้ฟังด้วย วันเวลาที่สนุกสนานผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงอีกแค่วันเดียวก็จะสิ้นสุดกำหนดการพักงานของเขาระหว่างนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวจากลุ่มคนที่น่าสงสัย พวกพรานที่เคยหลบซ่อนตัวในป่าก็ดูเหมือนจะล่าถอยออกไปทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบเหมือนไม่เคยมีการโจมตีเกิดขึ้นมาก่อน

     

    แจ็คสันเคยคุยเรื่องที่เขาจะมาเฝ้าอยู่แค่อาทิตย์เดียวนี้กับแบมแบมไปตั้งแต่วันแรกซึ่งแองเจิ้ลส์น้อยก็รับรู้และบอกชายหนุ่มว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อเวลามาถึงจริงๆ กลับเป็นเขาเองที่ดูเหมือนจะทำใจไม่ได้ที่เวลาเหล่านี้ต้องสิ้นสุดลงถ้าหากเขาเริ่มกลับไปฝึกงานอีกก็คงจะมาหาแบมแบมไม่ได้บ่อยขนาดนี้ แต่ไม่ว่ายังไงชีวิตก็จำเป็นต้องดำเนินต่อไป

     

    มือหนาแตะการ์ดสีดำของเขาลงที่ประตูอุโมงค์วันนี้เขามาค่อนข้างเย็นเนื่องจากถูกลากตัวไปช่วยงานเบ๊ของยูคยอมที่แผนกวิจัยมาพักใหญ่บรรยากาศภายในโดมดูเงียบเชียบผิดปกติ หรือเป็นเพราะเขาชินกับที่ทุกวันแบมแบมจะมารอรับเขาใกล้ๆกับประตูโดมเขาก็ไม่แน่ใจ

     

    แจ็คสันเดินมาถึงเต้นท์แล้วก็เอาของเข้าไปเก็บชายหนุ่มมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของแองเจิ้ลส์น้อย

     

    “แบมแบม! เฮียมาแล้ว เขาเงี่ยหูฟังเมื่อตะโกนเรียกแบมแบมออกไปหวังว่าจะได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาอย่างตื่นเต้นดังแว่วมาเหมือนทุกครั้งแต่ก็ยังเงียบกริบภายในโดมมีแต่เสียงนกกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกับเสียงต้นไม้ใบไม้เสียดสีกันเพราะลมพัด

     

    “แบมแบม!” แจ็คสันตัดสินใจตะโกนเรียกอีกครั้งหลังผ่านไปชั่วอึดใจชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมาอยู่ริมกรงตรงรังน้อย คอยชะเง้อมองหาว่าร่างสีขาวจะวิ่งมาจากทางไหน

     

    “แจ็ค..”เสียงแผ่วระโหยดังออกมาจากรังน้อย

     

    “แบม!อยู่ในนั้นเหรอ ทำไมไม่ออกมาล่ะ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปจนชิดริมกรงสัญชาตญาณบอกเขาว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป ไม่นานนักร่างสีขาวของแองเจิ้ลส์น้อยคลานสะโหลสะเหลออกมาจากรัง เด็กน้อยออกมาแล้วนั่งพิงผนังอย่างอ่อนแรงใบหน้าหวานแดงก่ำเหมือนคนเป็นไข้สูง

     

    “แบม! เป็นอะไรไป!หรือว่ามีใครเข้ามาทำอะไรตอนเฮียไม่อยู่ ห้ะ เป็นอะไรมากรึเปล่า แบม!เจ็บตรงไหน!!”  แจ็คสันกำลูกกรงแน่น ใจของเขาอยู่ข้างใน แต่กายของเขาไม่สามารถเข้าไปได้หัวสีขาวของแองเจิ้ลส์น้อยส่ายไปมาช้าๆ

     

    “แจ็ค..แบมร้อน”

     

    “ไม่เป็นไรนะแบม! อดทนไว้นะ! เดี๋ยวเฮียเรียกจินยองฮยองให้! แบมต้องไม่เป็นไร!!” ไวเท่าความคิด แจ็คสันจิ้มริสแบนด์ของตัวเองทันที เพียงชั่วอึดใจที่เหมือนหลายชั่วโมงใบหน้าโฮโลแกรมของจินยองก็ลอยขึ้นมา

     

    “มีอะไรแจ็คสัน” เสียงนุ่มของจินยองถามผ่านริสแบนด์

     

    “ฮยอง!!รีบมาที่นี่ด่วนครับ!! แบมแบมไม่สบาย เป็นอะไรก็ไม่รู้!หน้าแดงไปหมดเลยแจ็คสันรายงานด้วยน้ำเสียงร้อนรน

     

    “ว่าไงนะ!!” จินยองพูดด้วยเสียงตกใจเพียงเท่านั้นแล้วภาพก็ตัดไป

     

    “แบม! อดทนไว้นะแบม!ฮยองกำลังมาแล้ว!” มือหนาที่เคยมั่นคงกำลูกกรงไว้ด้วยอาการสั่นระริกความหวาดกลัวค่อยๆ คืบคลานเข้าเกาะกุมจิตใจ คำพูดของจินยองดังแว่วอยู่ในโสตประสาท

     

    “แจ็ค..ร้อน..” เสียงของแองเจิ้ลส์น้อยแหบพร่า

     

    “รู้แล้วแบม! เฮียรู้แล้วเฮียกำลังจะเข้าไปช่วยเดี๋ยวนี้ รออีกนิดเดียวนะ! โธ่เว้ย!!” แจ็คสันคำรามอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ เขาคอยมองแองเจิ้ลส์น้อยสลับกับทางประตูโดมอย่างกระวนกระวายไม่นานนักร่างสูงในเสื้อกาวน์ของจินยองก็วิ่งเข้ามา และวิ่งตรงไปทางประตูกรงทันทีโดยไม่หยุดรอแจ็คสันเองก็ผละจากกรงแล้ววิ่งตามจินยองไปติดๆ

     

    หัวหน้าแผนกวิจัยเปิดประตูกรงแล้ววิ่งย้อนกลับไปทางรังน้อยจินยองคุกเข่าลงข้างแบมแบมทันทีที่มาถึง มือเรียวยกขึ้นทาบหน้าผากเพื่อวัดไข้ เสร็จแล้วจึงดึงแถบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วติดลงที่แขนของแองเจิ้ลส์น้อยแจ็คสันที่คุกเข่าอยู่อีกข้างแอบคว้ามือแบมแบมมาบีบ มือเล็กอุ่นจัดจนเกือบเรียกได้ว่าร้อน

     

    แถบที่ติดลงบนแขนของแบมแบมแสดงค่าตัวเลขวิ่งไปมาอย่างรวดเร็วแล้วก็หยุดนิ่ง ตัวเลขสีแดงบนหน้าจอกระพริบถี่ จินยองจิ้มที่จอริสแบนด์รัวๆ ใบหน้าโฮโลแกรมของเจบีลอยขึ้นมาจินยองไม่รอช้ารีบกรอกเสียงลงไปอย่างร้อนรน

     

    “เจบี!รีบกลับมาที่นี่ด่วน! มันเริ่มแล้ว!!”

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in