status : ★★☆☆☆

ธีสิสของเราเป็นกราฟิกโนเวลแนวแฟนตาซี, ลึกลับ, ก้าวผ่านวัย มีกลุ่มเป้าหมายสำหรับเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไปขนาด A5 จํานวนหน้าที่วางเอาไว้ประมาณ 50-60 หน้าและมีภาพประกอบที่ใช้สัญญะค่อนข้างเยอะ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตลูกคนเดียวของเราเองที่ต้องก้าวข้ามผ่านปัญหาในชีวิตที่ไม่สามารถแชร์กับเพื่อนและพ่อแม่ได้ด้วยตัวคนเดียว อีกทั้งเรายังอยากเล่าถึงผลกระทบต่อจิตใจของเด็กจากการเลี้ยงดูลูกเหมือนไข่ในหินและขู่ให้ลูกกลัวเพื่อจะได้เชื่อฟังพ่อแม่ 

"The bird fights its way out of the egg. The egg is the world. Who would be born must first destroy a world."

เป็นข้อความจากวรรณกรรมเรื่องเดเมียน เขียนโดย Hermann Hesse (เฮอร์มานน์ เฮสเส) เป็นประโยคที่เราชอบมาก แปลง่าย ๆ ได้ว่า โลกของนกก็คือไข่ ก่อนที่นกจะเติบโตและออกบินได้อย่างอิสระก็ต้องทำลายโลกใบนั้นก่อน เราเอาไข่ของนกมาเปรียบเทียบกับโลกใบเล็ก ๆ ที่พ่อแม่เลือกให้ลูก มันเป็นที่ที่ดีและปลอดภัยก็จริงแต่เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้แล้ว เขาจะต้องออกจากไข่ใบนั้นเพื่อเผชิญโลกที่มันกว้างกว่าด้วยตัวคนเดียว เราจึงอยากใส่เรื่องราวเล่านี้ลงไปในธีสิสของเรา

เมื่อได้หัวข้อธีสิสที่จะทำแล้วต่อไปก็ถึงเวลาที่ต้องทำให้ภาพในหัวของเรามันชัดเจนมากขึ้น เริ่มแรกก็คือวางโครงเรื่องคร่าว ๆ ของเราก่อน 

⍟ โครงเรื่อง

โครงเรื่องคร่าว ๆ ของเราเป็นกราฟิกโนเวลที่เล่าเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่ง เป็นลูกคนเดียวที่ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนไข่ในหิน แม่ของเขาไม่ยอมปล่อยให้เขาได้เผชิญโลกด้วยตัวเองและมักจะขู่เมื่อเด็กชายเริ่มที่จะอยากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทำให้เด็กชายไม่กล้าเดินออกจากเส้นที่แม่ขีดไว้ให้ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเขาแบกความคาดหวังของทั้งตัวเอง ครอบครัวและสังคมรอบข้าง ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวเขาจึงไม่สามารถแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับใครได้ การแอบซ่อนตนเองจากความโดดเดี่ยวภายในจิตใจของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น แล้วเขาก็พบว่าถึงแม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหลบหนีแต่สุดท้าย ‘มัน’ ก็ต้องหาเขาเจออยู่ดี โดยเราอยากจะเล่นกับกุศโลบายที่พ่อแม่ชอบใช้ขู่เด็ก ๆ เรื่องการเล่นซ่อนแอบและผีบังตา จึงเลือกมาใช้เป็นการดำเนินเรื่องที่เหมือนกับชีวิตของเราต้องเล่นซ่อนแอบกับปัญหาต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะพยายามแอบหรือหนีอย่างไร สุดท้ายเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน การที่พ่อแม่เลี้ยงดูลูกเหมือนไข่ในหินเพราะกลัวลูกเจอสิ่งไม่ดีหรือกลัวลูกผิดหวัง บางทีอาจจะทำให้เขาไม่สามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองเพราะสุดท้ายพ่อแม่ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดชีวิต มีแค่เราที่จะต้องยืนให้ได้ด้วยตัวของเราเองในโลกแห่งความเป็นจริงนี้ 

ในส่วนนี้เราค่อนข้างกังวลเพราะเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยถนัดแต่โครงเรื่องก็เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ กับการทำงานในส่วนอื่น ๆ ต่อไป หลังจากที่ได้คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา เขาก็ค่อนข้างให้อิสระกับเรามากและแนะนำว่าในส่วนที่เราไม่มีประสบการณ์โดยตรง ให้ลองไปสัมภาษณ์หรือรีเสิร์ชเพิ่มเติมเพื่อให้โครงเรื่องและการกระทำของตัวละครสมเหตุสมผลขึ้น และจากการที่เราค้นคว้าหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้เราอยากใส่เรื่องของจิตวิทยาเข้ามาในงานของเราด้วยเพราะส่วนตัวเราสนใจเรื่องนี้และเรียนจิตวิทยาเป็นวิชาโทอยู่แล้ว อย่างเรื่องเดเมียนที่เป็นแรงบันดาลใจของเราก็แฝงทฤษฎีจิตวิทยาของ Carl Jung เข้าไปด้วย เป็นการค้นหาตัวเองโดยเน้นการเดินทางกลับเข้ามาข้างในจิตใจเพื่อสำรวจตัวเอง เป็นการเรียนรู้ถึงตัวตนจากข้างในมากกว่าจะเป็นการออกไปตามหาจากโลกภายนอก 

จากที่เราใช้เวลาศึกษาก็รู้สึกว่าทฤษฎีที่เข้ากับเรื่องราวของเราได้มากที่สุดก็คือทฤษฎีจิตสังคมของอีริคสันที่ป็นทฤษฎีเกี่ยวกับการพัฒนาทางจิตสังคมตั้งแต่ทารกถึงผู้ใหญ่โดยแบ่งออกเป็น 8 ระยะ ซึ่งในแต่ละระยะ มนุษย์ต้องพบกับวิกฤตทางจิตสังคมซึ่งอาจส่งผลลัพธ์ในทางบวกหรือลบต่อการพัฒนาบุคลิกภาพในอนาคตได้ 

⍟ ตัวละคร

ส่วนต่อมาที่เราเลือกทำคือการออกแบบตัวละคร เป็นส่วนที่เราค่อนข้างถนัดแต่ก็ยากเหมือนกันเพราะเราตั้งใจให้มีตัวละครหลักดำเนินเรื่องเพียงคนเดียวและมีเหล่าผี ๆ ที่แทนวิกฤตในจิตใจที่ต้องเจอในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้โทนเรื่องดูเหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้น ในส่วนของตัวละครอื่น ๆ ที่มีบทบาท เช่น พ่อแม่ เพื่อน เจ้านาย เราจะใช้เป็นสัญญะแทน

ตัวละครผี 

ส่วนตัวละครผีเป็นตัวละครที่ค่อนข้างยากและใช้เวลาออกแบบนานกว่าที่คาดเอาไว้เพราะจากดราฟแรกที่เราออกแบบไว้ อาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำมาว่าไหน ๆ กราฟิกโนเวลของเราก็ใช้สัญญะเยอะอยู่แล้ว ก็ใช้สัญญะในการออกแบบตัวละครผีให้แสดงถึงวิกฤตที่เราต้องพบเจอไปด้วยเลยจะดีกว่า ทำให้เราต้องมารื้อตัวละครผีและค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมใหม่อีกครั้ง 

สุดท้ายนี้ในส่วนของอุปสรรคที่เราเจอจากการทำธสิสในระยะแรก ด้วยความที่เป็นกราฟิกโนเวลที่นำทฤษฎีทางจิตวิทยามาปรับใช้ด้วยและค่อนข้างต้องการภาพที่ใช้สัญญะค่อนข้างเยอะ จึงใช้เวลานานในการค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาออกแบบตัวละครและวางโครงเรื่อง รวมไปถึงสัญญะที่จะใช้วาดฉากและองค์ประกอบต่าง ๆ ในเรื่องและมีการปรับแก้สัญญะที่จะใช้ในการออกแบบตัวละครผีหลายครั้งจึงทำให้เสียเวลาในส่วนนี้มากเกินไป