เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บทความNATITON CHINNABHAD
สังคมไทยยอมรับกับความหลากหลายทางเพศจริงหรือ ?
  •      ในปัจจุบันนี้โลกจะเคลื่อนตัวเขาสู่ยุคโลกาภิวัตน์ประเทศไทยเองก็มีเทคโนโลยีและวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากขึ้นภาพลักษณ์ของประเทศก็แสดงถึงความมีเสรีภาพ เปิดกว้างให้กับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถพบเจอได้ทั่วไป ไม่ต้องคอยหลบซ่อนแต่ในความเป็นจริงสังคมไทยกลับยังมีพื้นที่ที่ปิดกั้นและไม่ได้เปิดออกมายอมรับคนเหล่านี้อย่างเต็มที่หรือแม้จะมีการยอมรับ ก็จะเป็นการยอมรับอย่างมีเงื่อนไข

         หลายท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อาจจะมีผู้ตั้งคำถามมากมายว่า ที่จริงแล้วผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ คืออะไร และปัญหาที่ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญในสังคมมีอะไรบ้าง

         ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ หมายถึงบุคคลที่มีเพศสภาพ หรือรสนิยมทางเพศไม่ตรงกับเพศตามกำเนิด ซึ่งประกอบไปด้วย lesbian(เลสเบี้ยน) หรือหญิงรักหญิง gay (เกย์) หรือกลุ่มชายรักชายbisexual (ไบเซ็กชวล) รักได้ทั้งสองเพศ ซึ่งอาจหมายถึงผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ transgender (ทรานสเจนเดอร์) หรือบุคคลข้ามเพศจากเพศกำเนิด intersex (อินเตอร์เซ็กส์) หมายถึง บุคคลที่มีอวัยวะเพศกำกวมไม่ชัดเจนว่าเป็นอวัยวะเพศชายหรือเพศหญิงและ queer (เควียร์)หมายถึง บุคคลที่ไม่จำกัดกรอบในเรื่องของเพศใดเพศหนึ่งสามารถลื่นไหลและปฏิเสธการยอมรับอัตลักษณ์ทางเพศแบบใดแบบหนึ่งเป็นอัตลักษณ์ทางเพศของตนเองเพียงอัตลักษณ์เดียว

         จากที่ทราบความหมายของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศไปข้างต้นแล้วบุคคลเหล่านี้ต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้างในการอยู่ในสังคม ยกตัวอย่างเช่น การล้อเลียนและเหยียดเพศการถูกปฏิเสธ การรับเข้าทำงาน การถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงานและการที่ไม่มีกฎหมายรับรอง

         ในความคิดเห็นของดิฉันปัญหาที่กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศต้องพบเจอในสังคมที่ได้กล่าวไปข้างต้นปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากโครงสร้างทางสังคมและแนวคิดปิตาธิปไตยกับการเชิดชูความเป็นชายขึ้นสูงลดทอนเพศอื่น ๆ เป็นเพศรอง ยังคงฝังลึกอยู่ในสังคม ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศคือความไม่สมบูรณ์แบบของเพศในอุดมคติ หรือผิดแปลกจากความเป็นลูกผู้ชายคือเหตุแห่งการเหยียดและการไม่ยอมรับ โดยเฉพาะในกรณีของสาวข้ามเพศและเกย์ เช่นผู้ชายส่วนใหญ่มักจะล้อเลียนเพื่อนที่ปฏิบัติแตกต่างจากความเป็นชายในอุดมคติ เช่นเรียบร้อย ไม่กล้าแสดงออก หรือรักสวยรักงามว่าเป็นเกย์

         นอกจากนี้ สื่อสาธารณะมักให้ภาพคนเหล่านี้เป็นตัวประกอบตัวตลก ผู้ร้าย หรือมักสื่อว่าคนเหล่านี้มีความบกพร่องทางจิต มีอารมณ์หวั่นไหวรุนแรงง่าย อีกทั้งมักมีการล้อเลียนในเชิงของความแตกต่าง  แปลกแยก โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศด้วยถ้อยคำประดิษฐ์ที่มีนัยยะ ประทดประเทียด เช่น สายเหลืองหรือมีงู ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจของสังคมไทยต่อกลุ่มคนเหล่านี้ แม้จะดูเหมือนว่าสังคมเปิดกว้าง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับว่าคนเหล่านี้เป็นคนปกติเหมือนกับประชากรคนอื่น ๆ ที่นิยามว่าตนเองเป็นหญิงหรือ ชาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สนับสนุนหรือส่งเสริมความเข้าใจ หากแต่ส่งผลกระทบในเชิงของภาพจำหรืออคติและอาจนำไปสู่การล้อเลียนและการถูกเลือกปฏิบัติ

         สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การยอมรับของประชาชนกรณีหากมีเพื่อนร่วมงานในองค์กรเป็นเพศที่3ระหว่างวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ15 ปีขึ้นไป กระจายทั่วภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 90.15 ยอมรับได้ หากมีเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานเป็นเพศที่ 3มีเพียงร้อยละ 7.78 ระบุว่าไม่สามารถยอมรับได้ เพราะไม่ชอบเป็นการส่วนตัวและร้อยละ 2.07 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

  •           แต่ในความเป็นจริง สังคมไทยยอมรับกลุ่มคนเหล่านี้จริงหรือ กลุ่มคนหลากหลายทางเพศในไทยยังคงถูกจำกัดสิทธิและถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการหางานและการทำงาน
              จากงานวิจัยของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ในปี 2562 พบว่า แม้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติเรื่องการยอมรับความแตกต่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วยังถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน รวมถึงขั้นตอนการรับเข้าทำงาน ค่าตอบแทนที่ไม่เท่าเทียม การถูกไล่ออก ไปจนถึงการถูกปฏิเสธไม่ให้เลื่อนตำแหน่งด้วยวิถีทางเพศ อัตลักษณ์ หรือการแสดงออกทางเพศ และการถูกระรานและถูกปฏิบัติอย่าง ไม่เหมาะสมโดยหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน ยกตัวอย่างเช่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ไม่รับ คทาวุธ ครั้งพิบูลย์ หรือครูเคท เข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ในตำแหน่งอาจารย์คณะสังคมศาสตร์ เหตุโพสต์ภาพลิปสติกไม่เหมาะสม
              จากเหตุการณ์ที่ดิฉันได้ยกตัวอย่างข้างต้น ดิฉันยังเชื่อว่า ยังมีกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ อีกหลายท่านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรับสมัครงาน การรับเงินเดือนที่ไม่เท่าเทียม หรือการเลือกปฏิบัติจากเพื่อนร่วมงาน
              ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มคนหลากหลายทางเพศในประเทศไทยได้มีการเคลื่อนไหวผลักดันให้เกิด พ.ร.บ. คู่ชีวิตขึ้นซึ่งเป็น พ.ร.บ. ที่จะรับรองสิทธิให้กับคู่ที่จดทะเบียนภายใต้ พ.ร.บ.นี้ ในการแบ่งสมบัติเมื่อ หย่าร้าง รับรองสิทธิในการเยี่ยมคู่ชีวิตของตนเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย หรือเป็นผู้รับสมบัติของคู่ชีวิตที่เสียชีวิตไป เนื่องจากพบว่า คู่รักร่วมเพศหลายคู่ที่แม้ว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันมานานนับสิบปี แต่กลับไม่ได้รับสมบัติที่ร่วมหามาด้วยกันเมื่อตอนที่คู่ครองมีชีวิตอยู่ โดยสมบัติเหล่านั้นต้องตกทอดไปให้ญาติของผู้เสียชีวิต เนื่องจากไม่มีกฎหมายรับรองสิทธิและสถานภาพของคู่ชีวิต บางคนไม่ได้รับอนุญาตให้เฝ้าไข้คู่ชีวิตของตนซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากไม่ใช่สามี ภรรยา หรือญาติ จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนที่มีความหลากหลาย ทางเพศยังถูกจำกัดสิทธิทางกฎหมายในหลายๆ มิติ
              กิตตินันท์ ธรมธัช (2562) ตำแหน่งนายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอส ออนไลน์ว่า แม้สังคมจะเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ ขณะนี้เครือข่ายต่าง ๆ รวมถึงสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ได้ต่อสู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศ จนนำไปสู่การต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เท่าเทียมกัน แต่ปัญหาที่ยังต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน คือ กฎหมาย

             กิตตินันท์ ธรมธัช ยืนยันว่า การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของคนหลากหลายทางเพศในประเทศไทย ก้าวมาได้ถึงร้อยละ 70 แล้ว แต่เรื่องกฎหมายต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก อย่าง พ.ร.บ.ความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ ได้เริ่มผลักดันตั้งแต่ปี 2550 และต้องใช้เวลาถึง 8 ปี กว่าจะออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ยังขาด พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ขณะนี้มีร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตที่ผลักดันมาตั้งแต่ปี 2555 ออกมาจำนวน 5 ร่างแล้ว
              ในช่วงต้นปี 2563 จากกระแสการเสนอกฎหมายโดยประชาชนที่ผ่านมา ประชาชนให้ความสนใจเข้าไปแสดงความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อเปิดทางสู่การสมรสของเพศเดียวกัน ประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คือ การเสนอขอแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งฯ เพื่อให้คนทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศหมั้นและสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และให้มีสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรสในเรื่องต่าง ๆ ตามกฎหมาย โดยให้แก้ไขถ้อยคำในหลายมาตราที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติว่า สามีและภรรยาเป็นคู่สมรส การที่ประชาชนให้ความสนใจถึง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยตระหนักถึงเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น

  •           จนกระทั่งวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา รองโฆษกรัฐบาลแถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติผ่าน  ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดให้ผู้จดทะเบียนตามพ.ร.บ.มีสิทธิและหน้าที่เหมือนคู่สมรส เพียงแต่เป็นการจดทะเบียนสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับนี้นั้น ยังไม่ได้ให้สิทธิต่าง ๆ ของคู่ชีวิตได้เท่าเทียมกับคู่สมรส และร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ยังไม่เปิดให้คนทุกเพศสามารถหมั้นกันได้อย่างถูกกฎหมาย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าในเมื่อสิทธิและหน้าที่ไม่ต่างกัน เหตุใดจึงต้องมีกฎหมายแยกออกมา
              ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี (2563) นักกิจกรรม LGBT และเลขาธิการกลุ่ม Free Youth ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ว่า นี่ไม่ใช่การสมรสที่เท่าเทียม แต่เป็นการแยกผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศออกจากกฎหมายอื่นและการออก พ.ร.บ.คู่ชีวิตแยกจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างเรา เป็นพลเมืองชั้นสอง
              จากเหตุการณ์ดังกล่าว ดิฉันเห็นด้วยกับคุณทัตเทพที่ว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับนี้ ไม่ได้ออกมาเพื่อสมรส เท่าเทียม แต่เป็นการแยกผู้มีความหลากหลายทางเพศออกจากกฎหมายและตีกรอบให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศแตกต่างไปจากเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งยังคงถูกจำกัดสิทธิทางกฎหมายในหลาย ๆ ด้านอย่าง ที่ผ่านมา
              จากปัญหาต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ดิฉันขอนำเสนอแนวทางการแก้ไข คือ เพิ่มความรู้ความเข้าใจของคนในสังคม เช่น การผลักดันปรับหลักสูตรแบบเรียนสุขศึกษาและพลศึกษาตั้งแต่ชั้น ป.1 ในส่วนที่เป็นเนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศทุกมิติ หรือสถาบันครอบครัวปลูกฝังและสร้างความเข้าใจอันดีต่อบุคคลผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ร่วมกับการผลักดันการแก้ไขกฎหมายต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสำหรับการผลักดันและแก้ไขกฎหมายเพื่อความเท่าเทียมของกลุ่มบุคคลที่มีหลากหลายทางเพศนั้นมีการดำเนินการมาตลอด จนปัจจุบันมี พ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่ดิฉันเชื่อว่า ถ้าหากประชาชนร่วมใจผลักดันการแก้แก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.คู่ชีวิตอีกครั้ง ในอนาคตอาจจะเกิดพ.ร.บ.สมรส เท่าเทียมอย่างแท้จริงขึ้นได้
              หลายท่านขณะอ่านแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดิฉันได้นำเสนอไปข้างต้น อาจเกิดข้อสงสัยว่าทำไมต้องใช้สองวิธีนี้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ดิฉันคิดว่า ถ้าหากมีการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่ไม่มีกฎหมายรับรองหรือมีกฎหมายรับรอง แต่คนในสังคมไม่เข้าใจต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศพบเจอในสังคม จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับวิธีการทำขนมเค้ก ถ้าไม่ได้ใส่ผงฟูลงไปในขั้นตอนการทำหรือส่วนผสมในการทำไม่ได้สัดส่วน ขนมเค้กที่ได้ออกมาจะไม่นุ่มฟูอย่างแน่นอน
              แม้สังคมไทยในปัจจุบัน จะเปิดกว้างกับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่การเปิดกว้างนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและเท่าเทียมกับคนทั่วไปหรือได้รับสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนคนอื่น ๆ และสิ่งเหล่านี้จะหายไป ถ้าคนในสังคมให้ความร่วมมือกันสร้างความเข้าใจอันดีต่อบุคคลผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศและผลักดันกฎหมายกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ สังคมไทยจะเปิดใจและยอมรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างไม่มีเงื่อนไข

    Photo Courtesy of Reuters
  • อ้างอิง
    ชิษณุพงศ์ นิธิวนา. “สังคมเปิดแต่ LGBT ยังถูก ‘เหยียด-ล้อเลียน’ หรือใครๆ ก็ทำกัน”. [ออนไลน์]. เข้าถึง
              ได้จาก: https://www.tcijthai.com/news/2018/13/scoop/8144 2561.
    บีบีซีไทย. “สมรสเท่าเทียม : ประชาชนแห่ให้ความเห็นร่าง พ.ร.บ.แก้กฎหมายแพ่งฯ เปิดทางแต่งงาน              เพศเดียวกัน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.bbc.com/thai/thailand-53322180
              2563.
    สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. (2562). “สังคมไทยคิดอย่างไรกับเพศที่ 3”. สืบค้นจาก https://nida
              poll.nida.ac.th/data/survey/uploads/FILE-1597898307100.pdf
    อารยา สุขสม. สิทธิมนุษยชนในเรื่องวิถีทางเพศและอัตลักษณทางเพศในระบบกฎหมายไทย.          
              วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2559.
    Karoonporn Chetpayark. “สังคมไทยยอมรับ LGBT แบบมีเงื่อนไข กำแพงปิดกั้นความหลากหลายทาง
              เพศในมุมมองของครูเคท”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://thematter.co/social/lgbt-
              inequality-with-krukath/48901 2561.
    LGBT 1/3/4/25/30/37. “สังคมไทยกับเพศที่3”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://sites.google.com/
              site/lgbt134253037/home/sangkhm-thiy-kab-phes-thi3 [n.d.]
    SPECTRUM. (30 มิถุนายน 2563). ประเทศไทยในความหลากหลายทางเพศ. [Video file]. สืบค้นจาก
              https://www.youtube.com/watch?v=BM6metuhMWc&t=593s
    Thaipbs. “ในวันที่ไม่มีข่าว “ความหลากหลายทางเพศ” คือวันที่ทุกคนเท่ากัน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
              จาก:https://news.thaipbs.or.th/content/283521?fbclid=IwAR2FPzgWct1S8UHSeT4LgR
              3yPyKcKXWQr8MeShMLNvFVOnuHWf16eRWZj1o 2562.
    UNDP. (2562). รายงานผลการสำรวจเพื่อสอบถามประสบการณ์การถูกตีตราและเลือกปฏิบัติของผู้มี
              ความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. สืบค้นจาก file:///C:/Users/Administrator/Down  
              loads/UNDP-TH-2019-LGBT-Tolerance-but-not-Inclusion-Fact-Sheet-TH.pdf
    WorkpointTODAY. “สิทธิเดียวกัน ทำไมต้องมีกฎหมายแยกสำหรับ LGBT? คำถามต่อ ‘ร่างพรบ.คู่ชีวิต’”.
              [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://workpointtoday.com/civilpartnrshp-not-marriage/ 2563.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in