Onward อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจาก Disney และ Pixar Studio กับเรื่องราวของโลกแฟนตาซีที่ครั้งหนึ่งเวทมนตร์ คือ ศาสตร์ลี้ลับและช่วยเหลือทุกคนเสมอมา กระทั่งการถือกำเนิดขึ้นของวิทยาศาสตร์ที่กาลเวลาผ่านไป ทำให้โลกเปลี่ยนไป เวทมนตร์เริ่มเลือนลางในขณะที่วิทยาการเริ่มก้าวล้ำ จนเรื่องราวการผจญภัยเริ่มต้นในวันเกิดของ “เอียน ไลท์ฟุต” (พากย์เสียงโดย ทอม ฮอลแลนด์) ได้รับไม้เท้าวิเศษจากพ่อที่จากไปตั้งแต่เขายังเล็กๆ ซึ่งไม้เท้านี้จะทำให้พ่อของเขากลับมาได้ 1 วัน แต่การเสกมนตร์ที่ผิดพลาดบวกกับความคิดเรื่องเวทมนตร์ที่ปัจจุบันไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นได้(ทำให้ตัวพ่อของพวกเขากลับมาได้แค่ครึ่งตัวเท่านั้น ทำให้ “บาร์ลีย์ ไลท์ฟุต” (พากย์เสียงโดย คริส แพรตต์) พี่ชายสุดห่ามตัดสินใจออกผจญภัยเพื่อให้สามารถร่ายมนตร์ได้สำเร็จ กลายเป็นภารกิจพาพ่อกลับบ้านให้ได้ที่พาเราไปพบกับเรื่องราวสุดป่วนของสองพี่น้อง…

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่โควิด19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่ว เกือบทำให้ต้าตัดสินใจยกเลิกโปรแกรมนี้ไปแล้วเช่นกัน แต่ไม่รู้อีท่าไหน อยู่ดีๆ ก็ชวนเพื่อนเข้าไปดูกันเสียอย่างงั้น ขอเข้าไปดูหน่อยแล้วกันนะ 555

ต้องบอกเพื่อนๆ ก่อนนะครับ ว่าต้าเองเป็นแฟนพนังของ Pixar อยู่แล้ว ชอบมากกับการที่ Pixar จะสร้างจักรวาลใหม่ๆ ขึ้นมา อย่างเช่นจักรวาลของเล่นใน Toy Story หรือหรือจักรวาลสัตว์ประหลาดที่ผลิตพลังงานเสียงกรี๊ดอย่าง Monster Inc. คราวนี้ Pixar ก็กำลังพาเราเข้าไปอยู่ในจักรวาลของเวทมนตร์กัน ซึ่งบอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ! พลังงานจินตนาการของเขาล้นเหลือจริงๆ

การเล่าเรื่องตามสไตล์ของ Disney และ Pixar ต้าว่าเขามีเสน่ห์อยู่แล้วนะ ถ้าย้อนกลับไปทุกๆ เรื่อง เขาจะทำให้หนังสามารถดูได้ทั้งครอบครัว ในขณะที่เด็กดูก็จะตีความได้แบบนึง ผู้ใหญ่ก็จะสามารถตีความในมุมมองที่ลึกและมีมิติมากขึ้นไปได้อีกเช่นกัน และแน่นอน Onward ก็ทำได้ดีอย่างที่คิดไว้เช่นกันนะ แม่ฉากหลังจะเป็นโลกแฟนตาซีที่มีทั้งเวทมนตร์และวิทยาศาสตร์ แต่มันกลับซ่อนความลุ่มลึกของการตีความไว้ได้อย่างลงตัว ชนิดที่ถ้าเข้าใจนี้ เรายังคิดเลยว่า “แสบเหมือนกันน้า ฮ่าๆๆๆๆ”

ยอมรับว่าหลังๆ ชอบการตีความคำว่า “ครอบครัว” ของดิสนีส์มากนะ มันมีมิติหลากหลายมากๆ คือ เราทุกคนจะจำกัดความคำว่า ครอบครัว ไว้ที่ภาพของพ่อแม่ลูกที่อยู่ในบ้านเดียวมีสนามหญ้าล้อมรอบ แต่ลองดูในยุคหลังๆ ต้าว่าคำนำเสนอคำว่าครอบครัวออกมาได้ดีมาก อย่าง Onward ก็นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พ่อจากไป ทิ้งให้คุณแม่เลี้ยงลูกอยู่ตามลำพัง ถ้าเป็นยุคก่อน ก็คงจะคนรอบข้างอาจจะตราหน้าเด็กว่าไปแล้วว่าเป็น “เด็กบ้านแตก”

….แต่คำว่า ครอบครัว ถ้ามันขาดไปมันจะเรียกว่าครอบครัวไม่ได้เลยหรือ? หรือจริงๆ มันมีความหมายอะไรซ่อนเอาไว้อีก?

พูดเหมือนมเยอะนะ ฮ่าๆๆๆ ซึ่งก็ชอบด้วยแหละ แต่ต้องบอกเพื่อนๆ ไว้ก่อนนะครับสำหรับใครที่ไม่ชอบการ์ตูนหรือเรื่องราวแฟนตาซีต่างๆ ทำใจเลยครับ เรื่องนี้มีทั้งสองอย่าง…แบบเต็มๆ!!! ดังนั้นถ้าไม่ชอบ เซย์กู๊ดบายไปเลย แต่ถ้าอยากหาหนังดีๆ ดูได้ทั้งครอบครัว ต้าว่า เรื่องนี้โคตรดีครับ !

เพื่อนๆ ที่สนใจก็ไปหาชมกันได้ทุกโรงภาพยนตร์นะครับ ^_^ ซึ่งจากสถานการณ์ตอนนี้ที่ไวรัส “โควิด-19” กำลังระบาด ทำให้ทั่วทุกหนแห่งพากันได้รับผลกระทบไปหมด อย่างวงการภาพยนตร์ก็เช่นกัน ยังไงก็ขอให้กำลังใจทุกคน ให้มีสติ และผ่านสถานการณ์นี้ไปได้นะครับ