และแล้วช่วงเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ภารกิจเดินข้ามแยกชิบูย่าให้ครบห้าแยกกกก555 เอาล่ะค่ะเราก็เดินต่อมาเรื่อยๆเลยจากอนุเสาวรีย์ ฮาชิโกะ ก็มาถึงห้าแยกชิบูย่าแล้วนะคะเดินมานิดเดียวก็ถึงค่ะ มาทำความฝันของเราให้เป็นจริงกันและเรากับพี่ก็ทำสำเร็จด้วยนะเออ555 เพื่อ???? จริงๆแล้วมันก็คือการข้ามทางม้าลายปกติธรรมดาเนี่ยแหละแต่เรากับพี่เห็นว่ามันมีตั้งห้าแยกเราก็เดินให้ครบห้าแยกไปซะเลยเอาให้คุ้มเพราะเราอยู่โตเกียวแค่วันเดียวก็ลุยเลยจ้า การเดินก็จะวุ่นวายกันนิดนึงค่ะ คนเยอะสนุกดีเหมือนกัน555 คนแต่ละฝั่งเดินปะทะเข้าหากันเต็มๆ คนข้ามแยกนี้ก็จะเยอะหน่อย ไม่หน่อยอ่ะค่ะ เยอะมากเลยดีกว่า555
พอเราทำภารกิจพิชิตห้าแยกชิบูย่าเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินเล่นในโตเกียวกันต่อ เราจำไม่ได้ว่าที่ตรงนั้นเรียกว่าย่านอะไรแต่คือแบบว่า..... 18+ทั้งนั้นจ้า5555555 ขอขำแรงๆ ด้วยความที่ไม่รู้ไง ไปครั้งแรกไง ก็เดินมั่วๆไปก็คิดว่าเออก็ร้านปกติธรรมดาแต่ก็สังเกตว่า เอ๊ะ..ทำไมแต่ละร้านต้องมีรูปผู้หญิงใส่หูกระต่ายกับแว่นแบ๊วๆด้วย ตอนแรกก็โลกสวยคิดว่าอาจจะเป็นร้านถ่ายรูปเหมือนตู้ purikura ที่เราฮิตไปถ่ายที่สยามกันตอนนู่น แต่..ไม่ใช่ฮะ เดินไปเรื่อยๆก็เริ่มคิดล่ะว่าร้านถ่ายรูปแบบนี้เหตุใดมีเยอะเหลือเกินคะ55555 จึงตรัสรู้ได้เองเรื่อยๆว่ามันไม่ใช่ที่ที่อิฉันควรมาเดินเจ้าค่ะ5555555 18+ทั้งน้าน มีหลายร้านหลายราคาให้เลือกสรร แต่ว่าเราไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะว่าร้านไหนดีร้านไหนดัง555 ดังนั้นเมื่อรู้ตัวก็เดินกลับซิครับรออะไร หลังจากที่เราเริ่มรู้สึกว่าเต็มอิ่มกับชิบูย่าแล้วก็ทำการนั่งรถไฟฟ้าอีกเช่นเคยไปที่ชินจูกุค่ะ เพราะว่าเวลา 22.00 น. เราและพี่ๆจะต้องนั่งรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกียวโตค่ะเมื่อมาถึงชินจูกุแล้วนะคะก็ทำการฝากกระเป๋าก่อนเลยอันดับแรกเพราะแบกมาเกือบ10โลเจ็บบ่าไปหมดแล้วจ๊ะพี่จ๋า หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรกินดีกว่าเป็นอาหารมื้อเย็นก่อนที่เราจะต้องนั่งรถบัสไปอีกเมืองหนึ่งค่ะ ซึ่งร้านที่เราไปนะคะเป็นร้านราเมนค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิสลามเลยค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีร้านอาหารอิสลามด้วยแต่หลังจากที่เปิดรีวิวอ่านแล้วเห็นเขาบอกว่าอร่อยก็ลองเลยล่ะกันอ่ะ ก็ทำการเดิน ใช่ค่ะ เดินอีกแล้ว จะบอกว่าระยะทางการเดินจากสถานีรถบัสชินจูกุไปร้านอาหารนั้นไม่ใช่ใกล้ๆกันนะจ๊ะ ตอนแรกคิดว่าใกล้ก็เดินชิวๆไปที่ไหนได้เดินจนจุกกันไปเล้ย555 เมื่อมาถึงนะคะพนักงานที่ร้านนี้น่ารักมากกกก
ชื่อร้านว่า Sinjyukugyoen Ramen Ouka เรียกได้ว่าอ่านไม่ออกกันเลยทีเดียว5555
นั่งติดบาร์กันเลยค่ะ เห็นทุกกระบวนการทำราเมนที่แท้จริง
จะมีหลายไซส์ให้เลือกนะคะ เราเลือกไซส์ใหญ่ ผลสุดท้ายกินไม่หมดค่า 55555
ลูกกลมๆอันนี้อร่อยมาก เป็นไก่ค่ะจิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวๆแล้วเข้ากันสุดๆเลย
พอทานมื้อเย็นกันอิ่มแล้วก็เดินกลับไปที่รถบัสชินจูกุเหมือนเดิม จากที่ขาไปว่าจุกแล้วขากลับจุกกว่าค่ะ55555 ความประหยัดไม่ยอมนั่งรถนี้พร้อมด้วยเหตุผลที่ว่าเดินย่อยเอาล่ะกันของเรากับพี่เกือบทำกันอ้วกกลางทาง555 แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแต่อย่างใดค่ะเมื่อมาถึงก็นั่งรอรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปสู่เมืองเกียวโตรถออกในเวลา 22.00 น. ถึงที่เกียวโต 6.00 น.ค่ะ ตอนนั้นเพิ่งรู้ว่าโตเกียวกับเกียวโตถ้านั่งรถบัสจะนานได้ถึงขนาดนี้ แต่โชคดีค่ะที่รถบัสที่เรานั่งเนี่ยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดีเลยค่ะ
เนื่องจากตอนที่เราขึ้นรถนั้นไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปภายในรถค่ะเพราะว่าตอนนั้นก็มืดมากแล้วจึงไม่อยากรบกวนเพื่อนร่วมเดินทางของเรา จึงขอนำรูปมาอ้างอิงแล้วกันนะคะ (http://acoupletravelers.com)
จากที่เห็นเลยค่ะเบาะที่นั่งนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆค่ะเป็นของบริษัท W Willer Express ค่ะ จะมีที่ปิดหัวเอาไว้ด้วยถ้าไม่อยากให้ใครเห็นเราตอนนอนน้ำลายย้อยหรืออ้าปากหวอก็จงนำเจ้าตัวนี้มาปิดเอาไว้กันน้า อีกอย่างๆๆ มีปลั๊กให้ด้วยนะเออ เก๋กว่านี้ไม่มีอีกแล้วฮะ
เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องปลั๊กไปอยากบอกเพื่อนๆว่าปลั๊กที่ไทยกับที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนกันนะคะ ถ้าใครไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมนำตัวแปลงปลั๊กไปด้วยนะคะหรือถ้าไม่ได้ซื้อเตรียมไปจากที่ไทยที่ญี่ปุ่นก็มีขายค่ะ แต่ต้องหาให้ดีๆน้า
หลังจากนั้นเราและพี่สาวอีก 2 คนก็นั่งรถบัสจากโตเกียวไปเกียวโตอย่างแสนยาวนาน คืนนั้นก็ไม่ต้องสงสัยกันเลยค่ะว่าพวกเรานอนที่ไหน ถูกต้องค่า นอนมันบนรถนั่นแหละแต่ดีที่ว่าที่นั่งเขาก็สบายอยู่แต่ก็นะ นั่งหลับมันจะดีกว่านอนได้ยังไงล่ะคะ จริงมั้ยทุกคน5555 ครั้งนี้ก็จบการเที่ยวที่โตเกียวกันแล้ว 1 วันเต็มๆ ล้าไปทั้งตัวเลยค่ะ ครั้งหน้าก็จะเริ่มลุยเมืองเกียวโตกันแล้วนะฮะ เตรียมพร้อมกันให้ดีๆเน้อ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in