ในช่วงกักตัวแบบนี้ถ้าคุณรู้สึกเบื่อๆยังไม่รู้ว่าจะดูซีรีย์เรื่องอะไรดีเราขอแนะนำ New Girl ซิทคอมเบาสมองสุดฮาจากช่อง Fox ที่ได้นักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง Zooey Deschanel (จาก 500 Days of Summer) มารับบทเป็น Jessica Day หรือ เจส คุณครูสาวช่างฝันวัยสามสิบต้นๆที่โดนแฟนหนุ่มนอกใจ เลยตัดสินใจย้ายที่อยู่ใหม่ แล้วก็บังเอิญเจอประกาศหารูมเมทของลอฟท์แห่งหนึ่งที่ลงในอินเตอร์เน็ตเธอเลยลองเข้าไปพบกับคนที่ลงประกาศ เมื่อเจสได้ลองเข้าไปที่ลอฟท์แห่งนั้นก็ได้พบความจริงที่ว่ารูมเมทอีกสามคนที่เหลือ คือ ชมิดต์ โค้ช และ นิค นั้นเป็นผู้ชายทั้งหมด 

ชมิดต์ (Max Greenfield) หนุ่มเจ้าสำอางที่มีปมเรื่องความอ้วนในอดีตจนทำให้เป็นคนขาดความมั่นใจ  โค้ช (Damon Wayans Jr.) ที่จริงๆแล้วไม่ได้ชื่อโค้ชแต่มีความเป็นโค้ชอยู่ตลอดเวลา (อยู่แค่ในตอนแรกของซีซั่น 1 และกลับมาอีกครั้งในซีซั่นที่ 4) วินสตัน (Lamorne Morris) อดีตนักบาสที่เคยไปเล่นให้ทีมที่ลัตเวียแต่มีเหตุบางอย่างทำให้เค้าตัดสินใจกลับมาที่ประเทศบ้านเกิด และ นิค (Jake Johnson) อดีตนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ที่เรียนไม่จบและตัดสินใจเปลี่ยนมาทำอาชีพบาร์เทนเดอร์แทน

ซึ่งสมาชิกทั้งสามในลอฟแห่งนี้เป็นเพื่อนกันมาเกิน 10 ปี คือคบกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย และวินสตันที่เป็นเพื่อนกับนิคมาตั้งแต่ยังเด็กๆ ดังนั้นการที่เจสซึ่งเป็น New Girl หรือสมาชิกที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่อาจจะทำให้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองยังเป็นส่วนเกินอยู่ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับความมองโลกในแง่ดี และนิสัยที่ห่วงใยทุกคนของเจสนั้นทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น จนกลายเป็นว่าพวกเขาแทบจะขาดเจสไม่ได้ นอกจากนี้ยังมี ซีซี (Hannah Simone) นางแบบสุดฮอตที่เป็นเพื่อนรักในวัยเด็กของเจสที่แวะเวียนมาอยู่บ่อยครั้งจนแทบจะกลายเป็นสมาชิกของลอฟท์แห่งนี้

ในซีซั่นแรกเราอาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรเกี่ยวกับปมของตัวละครต่างๆมากนัก แต่พอดูไปเรื่อยๆก็จะเริ่มมีการเฉลยปมบางอย่างที่ทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมหรือนิสัยใจคอของแต่ละคนได้มากขึ้น ทั้งปมเรื่องครอบครัว ความแตกต่างของศาสนาและเชื้อชาติ ฯลฯ ที่จะทำให้เรารู้สึกได้ว่ายังไม่ควรที่จะตัดสินตัวละครจากเพียงแค่สิ่งที่เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลในการตัดสินใจมาเป็นบาร์เทนเดอร์ของนิค หรือสาเหตุที่ทำให้ชมิดต์ดูเป็นคนที่จู้จี้จุกจิก 

อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เจส ที่เป็นคนเฟรนด์ลี่และจริงใจมากๆ มากแบบที่ไม่ค่อยจะรักษามาดของตัวเองจนทำให้แผนแตกอยู่เป็นประจำ เพราะเธอมักจะทนเห็นอะไรที่มันไม่แฟร์ไม่ค่อยได้แล้วเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆในรูปแบบของเธอเองแทน ซึ่งความตรงไปตรงมานี้ก็สามารถทำให้เอาชนะใจคนอื่นและบรรลุเป้าหมายได้หลายครั้ง ถึงแม้ว่าบางทีมันอาจจะดูเป็นเรื่องตลกขบขันในสายตาคนอื่นก็ตาม

มุกตลกในเรื่องมักจะเป็นมุกแบบเล่นคำที่อาจจะไม่ได้ฟังแล้วเข้าใจจนขำในทันที แต่ด้วยแอคติ้งต่างๆของนักแสดงก็มีส่วนช่วยให้เราเก็ทมุกได้เร็วขึ้นถ้าดูบ่อยๆจนเริ่มชิน conflict ต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องมักจะเป็นสิ่งพื้นๆที่คนธรรมดาอย่างเราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน จึงทำให้อินได้ไม่ยากนักและยังมีมุกจิกกัดเสียดสีที่โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว เราจะได้เห็นความพยายามในการรับมือกับปัญหาของตัวละครที่แตกต่างกันออกไปในรูปแบบของตนเอง ถึงแม้ว่าบางทีก็ดูเหมือนว่าจะทำให้อะไรๆมันพังมากกว่าเดิมก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดมันก็เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาดีที่มีต่อเพื่อนๆของพวกเขาทุกคน