เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Psychological Counseling 101MJ
Chapter 1 : วันแห่งความรัก กับ การโอบกอดตัวเอง
  • ตั้งใจมานานมากแล้วว่าอยากจะเขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและจิตวิทยาในฐานะของนักจิตวิทยาการปรึกษา ที่เราขอเรียกตัวเองว่าเป็น "นักสำรวจและเพื่อนร่วมทางของผู้รับบริการ หรือ 
    ผู้ที่เข้ามารับการปรึกษาทั้งหลาย" โดยเนื้อหาที่จะเอามาเล่าหรือแบ่งปันนั้น จะเป็นมุมมองและความรู้สึกส่วนตัวที่เรามีต่อสภาวะการณ์ต่างๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความลับของผู้รับบริการแต่อย่างใด

    หากแต่เราอยากใช้พื้นที่เล็กๆตรงนี้เป็นพื้นที่ในการสำรวจ ทบทวน และแบ่งปันเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต หรือแนะนำเคล็ดลับวิธีการบางอย่างกับนักเดินทางทุกท่านที่ผ่านเข้ามา ให้ลองหยุดและใช้เวลาตรงนี้กับการทบทวน ปล่อยกายปล่อยใจยอมให้ตัวเองได้รับการปลอบประโลมผ่านตัวหนังสือ  
    หรือ ยอมให้เติมพลังเพื่อที่จะเดินทางต่อไปอย่างมั่นคงและแข็งแรง 

    เนื่องจากวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก ที่คนโสดหลายๆคนคงรู้สึกอยากให้มันผ่านไปไวๆ แต่สำหรับคนที่มีคู่ หรือคนที่มีความรัก ก็ถือว่าวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เฉลิมฉลองและใช้เวลากับคนที่ตนเองรักอย่างเต็มที่ 

    แต่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน สิ่งที่สำคัญที่เราอยากขอ Remind ให้ทุกคนไม่ละเลย คือ การรักตัวเอง 
    บางคนอาจจะสงสัย หรือ ไม่แน่ใจว่า การรักตัวเอง มันเป็นแบบไหนนะ?
    ในคำนิยามของเราเอง : การรักตัวเอง คือ การที่เราให้ความเข้าใจและจิตใจดีกับตนเอง ยอมรับตนเองในแบบที่มนุษย์คนหนึ่งเป็น ยอมรับในความไม่สมบูรณ์พร้อมของตนเอง โอบกอดและรู้จักให้อภัยตนเองในเวลาที่เกิดข้อผิดพลาด 

    บ่อยครั้งที่เรามักจะเจอกับผู้คนที่ทำเรื่องผิดพลาดแบบไม่ตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 
    และบ่อยครั้งเราก็มักจะพบว่าผู้คนเหล่านั้นรู้สึกผิด จนไม่สามารถให้อภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ 
    พวกเขาเลยเลือกที่จะโบยตีตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆที่การกระทำเหล่านี้ มันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายหรือดีขึ้นเลย มีแต่จะบั่นทอนความรู้สึกของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก

    หรือบางคนที่อาจจะใจดีกับผู้อื่น รู้จักให้อภัย เข้าใจหรือปลอบประโลมการกระทำของผู้อื่นได้ 
    แต่กลับไม่เคยให้อภัยตนเองที่ก็เคยทำพลาดในเรื่องลักษณะเดียวกัน
    ดังนั้นจริงๆแล้ว การโบยตีตัวเอง อาจจะเป็นกลไกทางจิตที่ทำให้ผู้กระทำผิดรู้สึกว่า
    " ได้ชดใช้ความผิดที่ตนเองได้ก่อขึ้น แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย" เพราะ การไถ่โทษนี้มันไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดีขึ้น (เออ ในบางคนก็อาจจะรู้สึกดีขึ้นนะ) 

    ในความเป็นจริง สถานการณ์มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย 
    อะไรที่พลาดไปแล้ว ก็ยังพลาดเหมือนเดิม ไม่สามารถแก้ไขได้ 
    ต่อให้รู้สึกผิดและโบยตีตัวเองมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่เกิดขึ้นแล้วได้ 

    ดังนั้น การโบยตีหรือเฝ้าแต่โทษตัวเองมันไม่เกิดผลดี 
    แต่ การที่เราตั้งสติ ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น (จะรู้สึกผิด รู้สึกแย่ก็ไม่เป็นไร มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว) แต่มันไม่จำเป็นต้อง replay การลงโทษตัวเองซ้ำๆ มันไม่เกิดประโยชน์ 

    เอาเวลาที่โบยตีตัวเองนี้ไปคิดหาทางออก หรือวิธีการป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีกจะดีกว่า 

    หรือถ้าใครรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินกับการที่เราจะเริ่มต้นใจดีกับตนเอง 
    หรือเริ่มต้นให้อภัยกับความผิดพลาดของตัวเอง มันเป็นยังไงนะ?
    ลองเอาแบบฝึกหัด หรือ คำถามข้างล่างนี้ไปลองถามตัวเองกันก่อนได้ 
    ครั้งแรกมันอาจจะยังตอบได้ไม่หมด หรือ ยังรู้สึกเคอะๆเขินๆที่จะตอบบ้าง 
    แต่ถ้าลองได้ทำบ่อยๆ แล้วมันจะคุ้นเคยมากขึ้นไปเอง 
    ไม่ต้องเชื่อนะ ลองไปทำดู!!!


     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in