รีวิวเว้ย (53) หมูสุขภาพดี/หมูแข็งแรง มันก็แค่คำแก้ตัวของคนอ้วนเท่านั้นแหละเว้ย
หนังสือ : โคตรประหยัดขจัดอ้วน
โดย : จอห์น วิญญู วงศ์สุรวัฒน์
จำนวน : 272 หน้า
ราคา : 230 บาท
ถ้าพูดถึงเรื่องอ้วน เราคงต้องท้าวความนาวไปในอดีตหลายพันหลายหมื่นปี ย้อนกลับไปเมื่อสมัยความอ้วนยังเป็นสิ่งสูงค่า หาได้ยากยิ่งในโลกยุคโบราณ เมื่อย้อนกลับไปในยุคอดีต เราจะเห็นว่าความอ้วนนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องมงคล เป็นสัญลักษณ์แทนเรื่องของความอัดมสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น เทวรูปหญิงอ้วนที่เป็นสัญลักษณ์อทนความอุดมสมบูรณ์ของอารยธรรมมนุษย์ยุคโบราณ
ขยับมาอีกนิดในมุมของความเชื่อ ไม่ว่าจะทางศาสนาก็ดี หรือทางที่มันนอกเหนือไปจากศาสนาก็ดี อย่างเทพเจ้ามนวัฒนธรรมตะวันออก อย่างพระสังกัจจายที่เป็นสัญญะแทนความอุดมสมบูรณ์ ฯลฯ หรือจะเป็นภาพแทนของอาเสี่ย เศรษฐี อย่างขุนช้างที่เป็นคหบดีมีเงินทอง ในวรรณคดีพื้นบ้านเรื่องขุนช้างขุนแผน ก็เป็นภาพแทนด้วยชายอ้วน รวมไปถึงเทพเจ้าในศาสนาฮินดู อย่างพระพิฆเนศก็มีรูปลักษ์และลักษณะของเทพเจ้าที่มีความอุดมสมบูรณ์เช่นกัน
เมื่อลองย้อนมองกลับไปในหลาย ๆ วัฒนธรรมประเพณี เราจะพบว่าภาพแทนอย่างความอ้วนนั้น มันแสดงให้เห็นถึงคติบางอย่างในโลกยุคก่อน ซึ่งแตกต่างกับโลกยุคปัจจุบัน ที่ความอ้วนได้ถูกพลิกบทบาทแทบจะเรียกได้ว่า จากหน้ามือเป็นหลังเท้ากันเลยทีเดียว จากยุคก่อนที่ความอ้วนเป็นสัญญะลักษณ์แทนความสมบูรณ์ แทนความมีกินมีใช้ แต่มาในยุคปัจจุบันความอ้วน ถูกแทนที่ด้วยภาพของคนอ่อนแอ โรคร้าย หมูสกปรก คนไม่ดูแลตัวเอง พวกกลิ่นตัวเปลี้ยว พวกซอกคอดำ พวกขาเบียด อะไรมันจะพลิกบทบาทไปได้ไกลถึงขนาดนั้น
แต่เอาเป็นว่า ความอ้วนถูกทำให้กลายเป็นสิ่งที่(ถ้าพูดกันให้ถึงที่สุดคือ)น่ารังเกียจ สำหรับสังคมโลกยุคใหม่ ที่ค่านิยมถูกสลับไปอยู่ที่กล้ามท้องแบบ 6 8 10 มัด ขาใหญ่ แขนกางเหมือนกบที่ถูกทอดอยู่ในจาน หรือถ้าจะเรียกกันแบบดี ๆ ก็คงเรียกได้ว่าค่านิยมคนรักสุขภาพ
สำหรับบ้านเมืองที่มองไปทางไหนในวันเสาร์อาทิตย์ จะเห็นได้ตลอดเวลาว่าตามสถานที่ต่าง ๆ ผลัดกันจัดกิจกรรมออกกำลังกาย ตั้งแต่วิ่งควาย ไปจนถึงปั่นเรือเป็ด เป็นเนืองนิจแทบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ ในสังคมแบบนี้ ที่คนเน้นรูปร่างหน้าตา อีเว้นออกกำลังกายมากมายก่ายกอง ถ้าคุณยังนอนแผ่พุง โชวจนรำไรที่ขึ้นอยู่เหนือขอบกางเกงในได้อย่างสบายใจไม่ทุกข์ร้อนอะไรก็ต้องถือว่าคุณเก่งมาก
ในเมื่อทุกคนในประเทศนี่ต่างหันมาใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกาม เอ้ยกำลังกายกันเย่างเอาจริง เอาจัง คุณจะมามั่วนอนอ้วนอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร (กูเองเนี่ยแหละนอนอ้วนอยู่ได้) เอาเป็นว่าเราคงต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง
เมื่อกระทรวงสาธารณะสุขประกาศว่า คนไทยปัจจุบัน 4 ใน 10 คนจะมีคนที่อ้วนเกินมาตราฐานและเสี่ยงต่อการเป็นโรค NCDs ดังนั้นโรคอ้วนจึงกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของโลกใบนี้
ฉะนั้นเราควรมาลดความอ้วนกันเถอะ แต่จะให้คนขี้เกียจแบบเรา เอาตีนยัดลงไปในลองเท้าวิ่งแล้วออกวิ่งให้งามขา ซอกตูด เปียกเหงื่อเนี่ยนะ ไม่มีทาง ดังนั้นเราเลยไปค้นหนังสือในชั้นที่จำได้ว่าเคยซื้อมาเมื่อตอนปี 56 กลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง
โคตรประหยัดขจัดอ้วน ของเฮียจูวินยอน เป็นคู่มือสำหรับการลดความอ้วนที่เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องเสียเวลาในการออกกำลังใจ เพื่อควบคุมตัวเองให้ลดการเอาเข้า หรือเรียกง่าย ๆ คือเอาเข้าให้น้อยกว่าเอาออก
ภายในเล่ม โคตรประหยัด ขจัดอ้วน ได้มีการนำเสนอหนทาง วิธีการ ขัดตอน การให้กำลังใจ พร้อมทั้งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบรรดาผู้ที่ขี้เกียจขยับ แต่อยากจะผอม รับรองว่าถ้าคุณอ่านแล้ว และสามารถทำตามที่เฮียจอห์น บอกเอาไว้ในเล่มนี้ได้ รับรองไม่เกิน 3 เดือน 6 เดือน คุณจะกลายเป็นคนใหม่ ที่ไฉไลกว่าเดิมอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาคือ คุณต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้นะ เพราะถ้าชนะใจได้ คุณก็จะชนะน้ำหนักบนตราชั่งได้เล่นกัน
เมื่อลองย้อนมองกลับไปในหลาย ๆ วัฒนธรรมประเพณี เราจะพบว่าภาพแทนอย่างความอ้วนนั้น มันแสดงให้เห็นถึงคติบางอย่างในโลกยุคก่อน ซึ่งแตกต่างกับโลกยุคปัจจุบัน ที่ความอ้วนได้ถูกพลิกบทบาทแทบจะเรียกได้ว่า จากหน้ามือเป็นหลังเท้ากันเลยทีเดียว จากยุคก่อนที่ความอ้วนเป็นสัญญะลักษณ์แทนความสมบูรณ์ แทนความมีกินมีใช้ แต่มาในยุคปัจจุบันความอ้วน ถูกแทนที่ด้วยภาพของคนอ่อนแอ โรคร้าย หมูสกปรก คนไม่ดูแลตัวเอง พวกกลิ่นตัวเปลี้ยว พวกซอกคอดำ พวกขาเบียด อะไรมันจะพลิกบทบาทไปได้ไกลถึงขนาดนั้น 
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in