เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ยChaitawat Marc Seephongsai
จดหมายรักจากนายไม้ประดับ By Stephen Chbosky แปลโดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

  •           รีวิวเว้ย (30) คุณไม่มีวันรู้หรอก ว่าชีวิตวัยรุ่นของคุณจะห่วย เห่ย เฮงซวยได้ขนาดไหน จนกว่าคุณจะพบและผ่านมันไป แต่ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ก็ตายอยู่ตรงนั้นแหละมึง !

    หนังสือ : จดหมายรักจากนายไม้ประดับ : the perks of being wallflower
    โดย : Stephen Chbosky แปลโดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
    จำนวน : 192 หน้า
    ราคา : 260 บาท

               จดหมายรักจากนายไม้ประดับ : the perks of being wallflower เป็นหนังสือที่เรียกได้ว่า เป็นสุดยอดหนังสือที่ถ่ายทอดชีวิตของวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ในช่วงชีวิตหนึ่ง ๆ ต้องเผชิญกับเรื่องต่าง ๆ ที่มากกว่าหนึ่ง(หนึ่งมึงจะเยอะไปแล้ว)

              หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ไปได้ 2 บท อยู่ดี ๆ ก็มีบทเพลงเพลงหนึ่งดังขึ้นในหัว เนื้อเพลงก็ประมาณว่า

                     ต้องอ่านตำรา นอนดึกตื่นเช้า
                       ต้องกวดวิชา ต้องเป็นคนดี
                       เป็นคนพิเศษ ต้องทันสมัย
                   มีเรื่องมากมายให้รู้ ให้อยากลอง
                         ต้องเล่นกีฬา ต้องดูทีวี
            ต้องหัดดนตรี ต้องมีความรักปัญหาหัวใจ
              ไม่มีใครรู้ ชีวิตฉันมันสับสน มันวุ่นวาย

                             เปลี่ยนกันดูไหม
          หากได้ลองคุณคงเข้าใจ ว่าชีวิตไม่เคยหยุด
            เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย เป็นวัยที่ช่างเหนื่อย
             ต้องทำอย่างโน้น ต้องทำอย่างนี้ทุกทาง
             เป็นวัยรุ่นมันหนัก เป็นงานที่มันเหนื่อย
               กดดันอย่างโน้น ต้องแบกรับอย่างนี้
                                    ทุกทีไป

                                                          เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย
                                                                       พาราด็อกซ์

               เรียกได้ว่า จดหมายรักจากนายไม้ประดับ : the perks of being wallflower ได้ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตความเป็นวัยรุ่น ในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว เพื่อน ความรัก ครู โรงเรียน อาหาร ดนตรี วรรณคดี และเซ็ก

              จดหมายรักจากนายไม้ประดับ : the perks of being wallflower ว่าด้วยเรื่องของชีวิตเด็กชายคนหนึ่งที่ต้องเติบโตขึ้นจากชั้น ม.3 เข้าสู่ช่วงชีวิต ม.ปลาย ที่อะไรหลาย ๆ อย่างค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ jack of เพื่อน การเรียน ความรัก

              รวมไปถึงหนังสือเล่มนี้ยังได้ถ่ายทอดรูปแบบของชีวิตวัยรุ่น อเมริกัน และวัฒนธรรมวัยรุ่นอเมริกัน ออกมาได้อย่างครบรส ทั้งปาร์ตี้ เหล้า บุหรี่ ยา กันชา และเซ็ก และวัฒนธรรม High school ของอเมริกัน teen ออกมาได้อย่างเด่นชัด

              โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครชื่อชาลี เด็กหนุ่มที่สูญเสียเพื่อนสนิทไปเพราะปัญหาครอบครัวของเขา(เพื่อนสนิท) ทำใช้ชาลีต้องเริ่มต้นผูกความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามาในเส้นเรื่อง และตัวละครทุกตัวล้วนทำหน้าที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมความเป็นวัย teen อเมริกัน และถ่ายทอดถึงปัญหาของช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน จากชีวิต high school สู่ชีวิตมหาลัยฯ จากวัยเด็กสู่วัยรุ่น และจากวัยรุ่นสู่วัยกลางคนได้เป็นอย่างดี

               โดยตัวเอกของเรื่องนั้นคอยทำหน้าที่เป็น wallflower หรือคนที่ชอบอยู่เงียบ ๆ ทำตัวไม่โดดเด่นแต่คอยสังเกตความเป็นไปของคนรอบ ๆ ตัว และถ่ายทอดมันออกมาในรูปแบบของจดหมาย ที่ถูกส่งไปหาชายนิรนามอีกคน ซึ่งตัวของชาลีเองก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร และไม่รู้ว่าเขามีตัวตนจริง ๆ หรือไม่ อย่างไร ซึ่งมันสร้างอารมณ์ที่แปลกพิลึกปนอึดอัดเล็ก ๆ เวลาที่เราอ่านบทสนทนาระหว่างคน 2 คนหรือบางครั้งอาจมีเพียงแค่ 1 คน ซึ่งเราก็ไม่มีทางรู้แน่ชัด

              เมื่อชีวิตมันไม่ได้สวยงามเสมอไป เมื่อโลกมันมักจะร้ายกับเราตลอดเวลา และเมื่อคุณไม่เข้มแข็งพอที่จะยืนหยัดต่อสู้กับมัน สุดท้ายคุณก็จะถูกลบออกไป บางครั้งอาจถูกลบออกไปในรูปแบบของความทรงจำ หรือบางครั้งก็อาจถูกลบออกไปในรูปของตัวตน และหายไปตลอดกาล

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in