หนังสือ : ปรีดี บรรณานุสรณ์ 2560
โดย : กษิดิศ อนันทนาธร บรรณาธิการ
จำนวน : 160 หน้า
ราคา : - บาท

          เป็นเวลากว่า 85 ปีที่ประเทศไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณญาสิทธิราช มาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชื่อของ "ปรีดี พนมยงค์" ก็ปรากฎขึ้นในสังคมมานานพอ ๆ กันกับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู้ระบอบประชาธิปไตยของสังคมไทย

          แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าตลอดระยะเวลากว่า 85 ปี ชื่อของ "ปรีดี พนมยงค์" กลับไม่เป็นที่รู้สึกในสังคมไทยมากเท่าใดนัก ถึงแม้ "ปรีดี พนมยงค์" จะเป็นหัวหน้าของคณะราษฎร (ฝ่ายพลเรือน) ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองในย่ำรุ่งของวันที่ 27 มิถุนายน 2475

          ยิ่งไปกว่านั้น "ปรีดี พนมยงค์" ยังเป็น "รัฐบุรุษอาวุโส" ,"ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์" ,"ผู้นำขบวนการเสรีไทย" ที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากสถานะของผู้แพ้สงครามโลก แต่ชื่อของ "ปรีดี พนมยงค์" แทบจะไม่มีอยู่ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ หรือแทบจะไม่ถูกตั้งเป็นชื่อของสถานที่ ถนน ฯลฯ เหมือนที่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองในกาลก่อนเคยทำมา ทั้ง ๆ ที่ "ปรีดี พนมยงค์" กับ "พระยาพหล" (ชื่อของถนน พหลโยธิน) ก็มีบทบาทและความสำคัญในเหตุการประวัติศาสตร์ 2475 ไม่น้อยไปกว่ากัน

         แต่ชื่อของ "ปรีดี พนมยงค์" กับถูกกลบฝังไปพร้อมกับกาลเวลา ที่ค่อย ๆ พัดพาเอา ความหมาย การต่อสู้ และข้อเรียกร้องในเรื่องของ "ประชาธิปไตย" ให้ค่อย ๆ จางหายไปจากสังคม

          เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ถือเป็นวันครอบรอบ 117 ชาตกาลของอาจารย์ "ปรีดี พนมยงค์" ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับมูลนิธิปรีดี พนมยงค์ ได้จัดทำหนังสือในวาระครบรอบ 117 ปีของ "ปรีดี พนมยงค์" ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "ปรีดี บรรณานุสรณ์ 2560 " ซึ่งเป็นการรวบรวมเอาเรื่องราวเกี่ยวกับ ชีวิต ผลงาน ของ "ปรีดี พนมยงค์" ที่มีความสำคัญต่อสังคมไทย และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสังคม มาถ่ายทอด ให้เราได้รับรู้

          ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความยากลำบากในการเรียกร้องให้มีการจำ "ปรีดี พนมยงค์" ในฐานะบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญ บุคคลหนึ่งของประเทศไทย หรือแม้กระทั่งผลงานของ "ปรีดี พนมยงค์" ที่ได้ฝากเอาไว้ให้คนไทยได้ขบคิด ตั้งคำถาม สำรวจ และหาคำตอบ ว่าวันหนังสังคมไทยจะกลายเป็นสังคม "ประชาธิปไตย" ที่เป็น "ประชาธิปไตย" ได้อย่างไรกัน ทั้งที่กาลเวลาล่วงผ่านมากว่า "85 ปี" ประชาธิปไตยของไทยก็ยังคง ล้มและลุก ลุกและลม อยู่หลายครั้งหลายครา

          หรือเป็นเพราะว่า "รัฐไทย" กำลังพยายาม "ลบเลือน" บางสิ่งบางอย่างออกไป เพื่อไม่ให้ประชาชนได้เข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ ในเรื่องของประวัติศาตร์ประชาธิไตย และเพื่อป้องกันไม่ให้สำนึกในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย สามารถเติบโตเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถแผ่ร่มใบ ให้ร่มเย็นได้ในสังคมนี้