เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
(fic) 9by9 - what nowjaoearnxclt
01
  • ธนภพ side


    ปวดหัว


    ผมเคยปวดหัวมาหลายรูปแบบ แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันเหมือนกับผมถูกทำให้ปวดหัวซะมากกว่า


    เหมือนกับใครบางคนตีเข้าที่ท้ายทอยผม


    “อืม” ผมขบกรามตัวเองแน่นเมื่ยังรู้สึกเจ็บหนืดที่ท้ายทอย ผมไม่สามารถลืมตาได้ในทันทีแต่รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว ฟังจากเสียงเคลื่อนไหวของใครที่ใกล้เข้ามา


    ดูร้อนรน


    “คุณ”


    “คุณไหวมั้ย” แรงไม่มากนักสะกิดผมให้รีบได้สติแล้วลืมตาได้ซักที ผมก็ไม่ได้อยากที่จะหลับตาอยู่แบบนี้หรอกนะ


    ดวงหน้าขาวขมวดคิ้วจนแทบผูกโบวได้ หยาดเหงื่อจากตัวเขาทำให้ผมคิดว่าเขาน่าจะฟื้นก่อนผมนานแล้ว ผมละสายตาจากเขาหันไปมองรอบข้าง ผมอยู่ที่ไหน


    ห้องที่ดูตกแต่งหรูหราเกินกว่าจะเป็นบ้านของผมเอง เพดานที่ยกสูงจน เพดานที่ถูกแต่งแต้มด้วยลวดลายแปลกตา ผนังด้านของเป็นไม้ที่ดูราคาสูงไม่น้อย


    มันดูใหญ่มากจนเหมือนกับพวกผมอยู่ในคฤหาสน์


    “คุณ” เสียงคนข้างตัวผมเรียกอีกครั้งทำให้ผมต้องหันความสนใจมาเป็นเขาอีกรอบ


    ผู้ชาย โอเมก้าด้วย


    ทำไมผมถึงรู้ว่าอีกคนเป็นโอเมก้าก็เพราะกลิ่นฟีโรโมนจางๆจากตัวอีกคน มันทำให้เขาเผลอกำหมัดแน่น


    ผมเป็นอัลฟ่า และเขากำลังฮีท


    นั้นหมายความว่าพวกเราไม่ควรอยู่ด้วยกัน


    “เราอยู่ที่ไหนกัน” คนตรงหน้าผมส่ายหน้าให้แทนคำตอบเหมือนเขาเองก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้


    “คุณฟื้นมานานเท่าไหร่แล้ว”


    “ยี่สิบนาทีได้แล้ว คือผมเดินไปไหนไม่ได้มาก” เขาชี้ให้ผมดูโซ่ที่ผูกไว้กับข้อเท้าของเขา รอยแดงรอบๆข้อเท้าพอจะบอกได้ว่าเขาพยายามดึงมันออกมาแค่ไหน


    ผมเผลอสำรวจเขาโดยไม่ให้อีกคนรู้สึกไม่ดี เขาอยู่ในชุดเอี๊ยมขาสั้นสีเข้มกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่ดูใหญ่กว่าตัว


    สั้นจนเกินไป


    ถ้าในสถานการณ์ปกติเขาคงจะบอกว่าเขาน่ารักไม่น้อย แต่ตอนนี้มันไม่ใข่ ทำไมผมถึงมาอยู่ตรงนี้กับเขา แล้วทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ เขาโดนล่ามไว้ทำไม


    ผมไม่เข้าใจ


    “คือผมกำลังฮีท” อีกคนพูดขึ้นมาขัดจังหวะความคิดผม ซึ่งผมคิดว่ามันดีมากๆ ถ้าหากเขาไม่พูดผมคงมัวแต่คิดอะไรไปเอง


    “ผมจะไปหายามาให้”


    “ขอบคุณครับ” ผมพยุงตัวเองออกมาทั้งๆที่ยังปวดหนืดที่ท้ายทอยไม่หาย ผมต้องช่วยอีกคนก่อน อย่างน้อยถ้าเขาดีขึ้นเราอาจจะช่วยกันได้มากกว่านี้


  • จักริน side


    ผมอยู่ในช่วงวัยเรียน


    นั่นหมายว่าถ้าผมถูกขังอยู่ในโรงเรียนผมคงหาทางออกมาได้ง่ายๆเลยล่ะ ผมมั่นใจว่าเป็นแบบนั้น


    “คุณ ได้ยินผมมั้ยเนี่ย” ผมตะโกนผ่านวิทยุสื่อสารเพื่อฟังเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย


    /ได้ยินสิ นายเลิกตะโกนทุกสองนาทีซักทีเถอะ/ อีกฝ่ายตะโกนว่าผมผ่านเข้ามา ผมได้แต่กลอกตามองเพดาน พ่นลมหายใจรอบที่ล้านให้ห้องบ้าๆนี่


    ผมถูกขัง


    ใช่ ถูกขังจริงๆ


    ดูสภาพแล้วมันน่าจะเป็นห้องเรียนแน่ๆ ถึงผมจะไม่ได้เรียนที่นี่ก็เถอะแต่จากการที่เดินสำรวจมา ไม่หรอก จริงๆแค่มองมาเจอโต๊ะกับเก้าอี้บวกกับกระดานหน้าห้องก็คงจะเป็นแบบนั้น


    ห้องเรียนที่ผมออกไปไหนไม่ได้


    ซวยชิบหาย


    อย่าถามว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ถูกจ้างซักล้านผมก็คงไม่อยากมาติดแหง๊กแบบนี้ แถมยังต้องมาตอบคำถามให้ใครไม่รู้ที่อยู่ด้านนอกให้ช่วยหากุญแจให้เขา


    ผมมองกระดาษที่ตัวผมวาดไว้คร่าวๆว่าอีกคนน่าจะอยู่ตรงไหนแล้วผมอยู่ตรงไหน


    จากที่คุยกันมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ที่นี่น่าจะมีอยู่สี่ชั้น ผมน่าจะอยู่ชั้นสี่ส่วนเขาคนนั้นน่าจะอยู่ชั้นสองแล้วจากที่ตอนแรกอยู่ชั้นหนึ่ง แต่ละชั้นจะมีห้องประมาณสิบห้อง ไม่นับห้องใต้บันไดกับห้องใหญ่ รวมไปถึงทางเชื่อมไปตึกอีกฝั่ง


    ผมรู้ยังไงทั้งที่ไม่ได้ออกไปหน่ะหรอก็มองจากหน้าต่างที่พันโซ่ไว้ไง


    โคตรแย่


    กลัวผมออกไปได้รึไงละ


    เสียเวลามากๆที่จะต้องให้อีกคนเข้าไปหาที่ละห้องแถมทีละชั้น ผมเลยต้องพยายามหาอะไรก็ได้ที่พอจะเป็นคำใบ้ว่ากุญแจมันอยู่ที่ไหน


    /คุณ/ อีกฝ่ายเรียกผม ก่อนจะพูดอะไรตามมาแต่ผมได้ยินไม่ค่อยชัดเลย


    “คุณได้ยินผมมั้ย”


    /….../ เงียบไม่ได้ยินอะไรเลย ผมถึงกับต้องมองที่หน้าจอไอวิทยุสื่อสาร


    อ่ะ แบตขีดเดียวกระพริบอยู่


    คงหมายความว่าอีกคนน่าจะหมดไปแล้ว


    ยังดีที่เป็นแบบเสียบชารืจ นั่นหมายถึงว่าพวกผมต้องหยุดสื่อสารกันซักพักจนกว่าแบตจะเต็ม ผมเลยจัดการชาร์จของตัวเองไว้บ้าง เหลือบมองไปที่ท้องฟ้าข้างนอกกำลังเป็นสีส้ม


    ใกล้มืดแล้ว หวังว่าอีกคนคงไม่เป็นอะไรนะ





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in