เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
into you | renno (short fic)barmybibber
vol.2


  • เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)



    TUESDAY

    7:00 AM



    “ทำไมวันนี้แกตื่นเช้า ทำม๊าตกใจ ข้าวเช้ายังไม่ทันเสร็จเลยอาตี๋”



    งงไปดิ อยู่ๆ เช้าวันนี้ผมก็ตื่นตั้งแต่หกโมงกว่าๆ ตื่นก่อนนาฬิกาจะปลุกด้วยซ้ำ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมารับความสดใสของเช้าวันนี้



    น่าจะเป็นพี่เจ๋



    ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่ที่โต๊ะกับข้าวระหว่างที่แม่กำลังเจียวไข่ให้กินเป็นอาหารเช้าง่ายๆ ก่อนไปเรียน ส่วนพ่อก็น่าจะอาบน้ำอยู่ ผมคิดว่านะ ในหัวของผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่กำลังมองแผ่นหลังของแม่



    แม่จะรับได้มั้ยนะ?



    เพ้อเจ้อแล้วไอ้อิฐ ใครจะไปรับได้ถ้าลูกชายไปชอบผู้ชายด้วยกัน



    “ม๊า”



    “ว่าไง? ไข่เจียวจะเสร็จแล้ว แกใจร้อนรึไง? ไปตักข้า—”



    “สมมุติว่าอิฐชอบผู้ชาย ม๊าจะรู้สึกยังไง”



    แกร๊ง!



    เสียงตะหลิวหล่นหลงบนกระทะทำให้ผมหน้าเสียไปเล็กน้อย แม่นิ่งอยู่สักพัก ผมได้แต่คิดกังวลว่าเขาจะโกรธหรือเสียใจมากแค่ไหน หรือตอนนี้อาจจะยังไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำ คงจะต้องตกใจกับคำพูดของผมอยู่แน่ๆ



    “อาตี๋… เอ็งเป็นตุ๊ดเหรอ?” คนที่อยู่ในครัวหันมามองใบหน้าผมด้วยสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าแสนจะช็อกแค่ไหน แต่ประโยคที่ออกมาจากปากของแม่ทำให้ผมต้องรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน



    “ม๊า!! โห คิดได้ไงเนี่ย? ลูกชายม๊าออกจะหล่อขนาดนี้ มาดแมนแฮนซั่ม ลิฟต์ออยยังต้องยอมขนาดนี้ ม๊าเอาอะไรมาพูดว่าเป็นตุ๊ด!!!”



    “ก็เอ็งบอกว่าชอบผู้ชาย สมัยนี้ผู้ชายหล่อๆ ฉันก็เห็นเป็นกันทั้งนั้น อย่าบอกนะว่าในห้องแกแอบเก็บหนังสือโป๊ไว้ด้วย ม๊าจะไปดูเดี๋ยวนี้!” ตะหลิวถูกยกขึ้นมาชี้หน้าผม แถมแม่ยังทำท่าจะเดินไปที่ห้องผมจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า…



    “ไอ้หยา… เสียงดังอะไรกันแต่เช้า ลื้อไปดุอะไรอาตี๋มันอีกเนี่ยม๊า มันกลัวลื้อหัวแทบหดแล้วนา”



    ไม่รู้จะต้องขอบคุณสวรรค์หรือรู้สึกฉิบหายก่อนดี



    ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองป๊าที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมส่งยิ้มแหยๆ ไปให้



    “แหะ ไม่มีอะไรหรอกป๊า”



    “ไม่มีอะไรซะที่ไหน! ก็…!”



    “ไปเรียนก่อนนะป๊าม๊า หวัดดีครับ!” ผมรีบยกมือขึ้นไหว้เพื่อขัดสิ่งที่ม๊าจะพูดต่อไปขึ้นซะก่อนแล้วก้าวฉับๆไปหน้าบ้าน สวมรองเท้าแล้ววิ่งออกจากบ้านทันที



    ไม่ได้ ป๊าจะรู้ตอนนี้ไม่ได้…





    7:53 AM



    ผมยืนวนๆ อยู่หน้าประตูโรงเรียนไปมาจนเด็กนักเรียนที่มาถึงต่างก็มองผมเหมือนกับว่าแปลกใจนักหนา



    เห็นแบบนี้ผมก็ดังในโรงเรียนอยู่พอสมควรนา วาเลนไทน์งี้เสื้อนักเรียนแทบไม่เห็นสีขาว สติ๊กเกอร์เหรอ? เปล่า น้ำแดง สาดเข้าหน้ากูเต็มๆ เลยปีก่อน เหมือนนัดกันมาด้วยนะว่าต้องน้ำแดง.. หลังจากนั้นผมก็เลิกทั้งคบซ้อนทั้งมีแฟนไปเลย



    โอเค สิ่งที่ผมเคยทำน่ะมันผิด ผมรู้นะ แต่ป๊าเคยสอนว่าชอบใครก็ขอคบ ผมชอบทุกคนที่ผมขอคบเลยให้ทำไงได้ล่ะ…



    “อ้าว” เสียงคุ้นหูทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองแทบจะทันที



    แต่กับคนตรงหน้า มันเป็นคำว่าชอบที่ต่างออกไป เหมือนไม่เคยชอบใครมาก่อนคนคนนี้ไปเลย



    พี่เจ๋



    “เอ่อ…”



    “แหะๆ”



    ผมพูดไม่ออก ฝั่งพี่เจ๋ก็เอาแต่เกาต้นคอมองไปทางนั้นทีนี้ทีเหมือนหาที่วางสายตาไม่ได้ พนันได้เลยว่าสาเหตุต้องมาจากสิ่งที่ผมให้ไป



    อ่า.. ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ย?



    สิ่งที่ผมให้พี่เจ๋ไปเมื่อวานก็มีเพลง ‘ชายคนหนึ่ง’ ของปีเตอร์ คอร์ป ที่อยู่ในตลับเทป เพลงที่สาม ที่ผมให้พี่เจ๋ยืมไปนั่นแหละ



    แล้วก็…



    “พี่… คืนให้นะ” พี่เจ๋ยื่นเครื่องเล่นเทปและบัตรหน้าตาคุ้นเคยมาให้ผม แต่สิ่งที่ผมโฟกัสน่ะมีแค่อย่างหลังเท่านั้นแล้วตอนนี้



    นับว่าดีที่พี่เขาไม่ได้ต่อยผม



    ผมหยิบบัตรที่หน้าแรกเขียนว่า ‘บัตรจีบ’ ตัวโตๆ ส่วนเว้นลงไปหนึ่งบรรทัดก็มีข้อความที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ อยู่ว่า



    ‘บัตรใบนี้เป็นบัตรพิเศษ มีใบเดียวบนโลก

    เพราะถูกทำขึ้นโดยอิฐ ม.4/3 ให้พี่เจ๋ ม.5 ห้องคิง

    คนเดียวเท่านั้น!!!

    หากพี่เจ๋ไม่รังเกียจบัตรจีบจากผม พลิกไปอีกหน้าด้วย’



    ฮ่า.. ฮ่า… อ่านๆ ไปก็น่าอายจังวะ ไม่เคยให้บัตรจีบกับใครเลยด้วยซ้ำ ผมเนี่ย.. พอพลิกไปอีกหน้าผมก็ตั้งใจอ่านยิ่งกว่าเดิม



    ‘ถ้าพี่เจ๋ออนุมัติการจีบ นี่คือข้อตกลง

    —————

    ขออิฐไปส่งพี่เจ๋ที่บ้านทุกวัน

    ไปเที่ยวกันอาทิตย์ละครั้ง

    ขอจับมือด้วยนะ

    กินข้าวด้วยกันทุกวัน



    ถ้าหากพี่เจ๋ตกลง

    เซ็นยอมรับพร้อมเลขเพจ

    แล้วส่งบัตรนี้กลับมาให้เจ๋ด้วย



    ______เจ๋ 4122214______

    (ลายเซ็น) ’



    “...เชี่ย” ผมถึงกับอุทานออกเสียงเมื่อสายตาเลื่อนลงไปเห็นลายเซ็นและเลขเพจในบัตร



    “เอ้า ยังอีก ไปอินทัช ปั่นจิ้งหรีด 20 ครั้ง!”





    ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าผมจะละความสนใจจากบัตรจีบที่ตัวเองทำขึ้น แต่เสียงที่ไม่อยากได้ยินทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่เจ๋หายไปแล้ว เหลือเพียงเฉลิมชัยที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผมหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตึกกลางบ่งบอกว่าเลยแปดโมงมาแล้วนิดหน่อย



    นี่กูไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเพลงชาติเลยเหรอวะ? ...





    [JE’ s PART]



    ยอมรับว่าผมแปลกใจ



    ไม่ใช่ที่อิฐให้บัตรจีบผมมาหรอกนะ



    แต่เป็นเพราะอิฐก็เหมือนจะชอบผมเหมือนกัน



    “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะไอ้เจ๋ มีอะไรดีๆ หรือไง?” หมอกที่เพิ่งเดินมายืนข้างๆ ระหว่างทางเดินไปเข้าแถวทักขึ้น



    ผมเพิ่งเดินออกมาจากบริเวณหน้าโรงเรียนโดยที่ไม่ได้บอกอิฐ แต่ถึงผมจะบอกก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะได้ยินหรือเปล่า เหมือนเจ้าตัวจะพุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่ผมเพิ่งคืนให้



    พูดถึงแล้วก็เขิน บัตรจีบจากคนที่แอบชอบมาตั้งแต่ม.3



    ครั้งแรกที่ผมเห็นอิฐคือตอนน้องอยู่ม.1 เพิ่งเข้ามาโรงเรียนใหม่ๆ ดูเป็นเด็กตัวเล็กๆ น่ารัก อิฐร้องไห้ง่าย เคยโดนเพื่อนแกล้งเพราะเล่นกีฬาไม่เก่ง แต่ถึงอย่างนั้นอิฐก็ไม่เคยโดดเรียนคาบพละเลยสักครั้ง อาจจะเพราะรู้ว่าถึงเกรดในส่วนของการเรียนจะออกมาไม่ดีแต่ก็พยายามจนถึงที่สุดล่ะมั้ง



    นั่นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจในตัวเขามากๆ



    ถึงอย่างนั้นผมก็เพิ่งมารู้ตัวว่าผมชอบอิฐเอาก็ตอนที่น้องเขาขึ้นม.2 ตอนนั้นผมรู้สึกว่าสายตามองไปที่ตึกม.ต้นแทบตลอดเวลา แต่ก็หลบตัวเองออกจากสายตาน้องเขาตลอดๆ ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมชอบผู้ชาย แล้วก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมมองอิฐอยู่ เพราะกลัวคนเข้าไปล้อไปแซวนั่นแหละ



    พอผมขึ้นม.5 เหมือนอิฐจะเริ่มโตเป็นวัยรุ่นมากขึ้น อิฐเริ่มเป็นเด็กผู้ชายที่เริ่มคบกับผู้หญิง เอาจริงๆ ก็ไม่แปลก .. ถ้าคบแค่คนเดียว แต่นี่ผมเห็นอิฐควงแขนคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อยๆ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ถึงคำว่าอกหักครั้งแรกในชีวิต ร้องไห้เป็นบ้าทั้งๆ ที่แค่หน้าผมอิฐก็ยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ



    ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ?



    เพราะคนที่เป็นฝ่ายแอบชอบมักจะมองเห็นคนที่ตัวเองแอบชอบเสมอ นั่นทำให้ผมเอาตัวเองออกจากสายตาของเขาอยู่ตลอด



    ถึงวันนี้ ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่อาจจะเป็นเพราะหมอกบอกว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะได้เข้าไปคุยกับอิฐ เพราะผมเองก็ม.6 เรียนจะจบอยู่แล้วนี่นะ…



    นั่นแหละครับ บังเอิญว่าในวันก่อนผมดันมาโรงเรียนสาย อิฐเองก็สาย นั่นเลยเป็นเหมือนโอกาสที่พระเจ้าประทานมาให้



    ผมเลยกลายเป็น ‘เจ๋ที่อิฐตามจีบอยู่’ ในตอนนี้



    [END JE’ s PART]





    12:01 PM



    “อ๋อ คือมึงเห็นกูยืนอยู่หน้าประตูแต่ก็ไม่เรียกเหรอไอ้แมน?” ผมฟาดหน้าแข้งใส่ตูดไอ้แมนขณะที่กำลังเดินออกจากห้องเรียนไปยังโรงอาหาร



    “เออดิ เห็นยืนหน้าโง่อยู่ได้ แต่กูเรียกมึงไปสองครั้งแล้วไม่เงยหน้ามาเองนะ” ไอ้แมนพูดขำๆก่อนที่มันจะถามขึ้นต่อ “แล้วเอาไง วันนี้จะกินข้าวกับพี่เขา?”



    “เปล่า”



    “เอ๊า”



    “ไม่ใช่แค่วันนี้ ทุกวัน” ผมอมยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อเช้าแล้วหันไปยักคิ้วให้ไอ้แมนสักที



    “โห หมาหัวเน่าแล้วสินายแมน มึงมันสู้พี่เจ๋ไม่ได้”



    “เอ๊า ก็รู้ตัวนี่หว่า”



    “ไอ้แมน ไอ้สัด”



    “ฮ่าๆๆ เออ มึงก็มีเจนแล้วไง”



    “เจนอยู่คนละโรงเรียนมั้ยล่ะไอ้สัด เออ งั้นวันนี้กูเบี้ยวนัดเตะบอลไอ้พวกอ้นดีกว่า อยากเจอพี่เจ๋ด้วย จะสวยแค่ไหนว้า”



    ไอ้



    ฉิบ



    หาย



    “เฮ้ย มึงไปเล่นเถอะ พี่เจ๋เจอวันอื่นก็ได้” ผมรีบตอบปัดมันไป แหงล่ะ ยังไม่ได้บอกมันเลยว่าพี่เจ๋เป็นผู้ชาย



    “บอลก็เล่นวันอื่นได้ ทำไม? มึงจะซ่อนพี่เจ๋จากกูอ่อ?” ไอ้แมนถองศอกใส่ผมเบาๆ



    เราเดินมาถึงโรงอาหารกันแล้ว สายตาของผมเริ่มกวาดไปทั่วทุกบริเวณเพื่อมองหาคนที่รออยู่ แต่ในใจก็ยังว้าวุ่นเพราะไอ้แมนยังไม่ยอมไปไหน หรือว่าจะลากไอ้แมนออกไปก่อนดีวะ แต่ถ้าทำแบบนั้นเดี๋ยวพี่เจ๋ก็จะหาไม่เจออีก โอ๊ยยย เวน



    “อิฐ รอนานเปล่า?”



    ผมกับไอ้แมนหันไปตามเสียงจากด้านหลังก็เห็นพี่เจ๋ที่ยืนอยู่กับผู้ชายข้างๆที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา



    “อ้าว ไอ้พี่หมอก”



    “ไอ้แมน วันนี้มึงนัดเตะบอลไม่ใช่ไง?”



    “แหะๆ แล้วนี่…?”



    “อ๋อ เจ๋ เพื่อนกูอะ แล้วนั่น… อิฐ? ที่จีบเพื่อนกู ถูกปะ?”



    “... ห๋า”



    ไอ้แมนหน้าเหวอไปแล้วล่าสุด สีหน้าของมันช็อกมากจนผมเริ่มรู้สึกแย่ มันจะรังเกียจผมหรือเปล่า? ความคิดเดียวกับตอนที่นั่งคุยกับแม่เมื่อเช้าลอยเข้ามาในหัวของผมอีกครั้ง



    ผมเลื่อนสายตาไปมองพี่เจ๋แล้วหันไปมองพี่หมอกกับไอ้แมน พี่หมอกเหมือนดูจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาเล็กน้อยจึงได้สะกิดแขนคนข้างๆตัวแล้วพูดขึ้นมา



    “ยืนบื้ออะไรกันวะ ไป กินข้าวกัน”




    5:06 PM



    “เฮ้อ…”



    “ครั้งที่สี่”



    ผมหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆโดยไม่ได้ถามอะไรออกไป พี่เจ๋เองก็หันกลับมามองผมยิ้มๆ


    “ถอนหายใจมาสี่ครั้งแล้ว ไม่สบายใจขนาดนั้นเลยเหรอ?” เจ้าของมือที่จับกับผมอยู่ถามขึ้นมาทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อตอนเที่ยง


    หลังจากที่หาที่นั่งกันได้ ผมก็เป็นคนเปิดประเด็นและอธิบายให้ไอ้แมนฟัง ซึ่งผลก็ไม่ได้ออกมาแย่นัก ทางพี่หมอกที่ได้ฟังก็สบายใจที่จะปล่อยให้ผมได้จีบพี่เจ๋ แถมพี่หมอกยังเล่าให้ฟังด้วยว่าเขาเองก็มีแฟนเป็นผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละโรงเรียนแต่พี่หมอกก็ติดแฟนมากๆ


    “นิดหน่อยครับ ผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมาชอบผู้ชายอะ” ผมพูดออกไปตามที่คิดก่อนจะเสริมต่อพร้อมกระชับมืออีกฝ่ายแน่นๆ “แต่ผมก็ไม่เสียใจนะพี่เจ๋ง เอาจริงๆผมชอบพี่มากๆเลยแหละ”



    “...”



    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปจึงหันไปมอง แต่ก็ต้องเบิกตาขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใบหน้าขาวๆของพี่เจ๋ขึ้นสีขึ้นมา แดงไปถึงใบหูเลยตอนนี้



    “แน่ะ เขินผมเหรอ?”



    “ก็เออดิ ไอ้เด็กบ้า”



    “น่ารักอะ” เห็นท่าทีแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู



    เราทั้งสองคนพากันเดินมาเรื่อยๆ เรียกว่าพี่เจ๋จูงมือผมดีกว่าเพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปบ้านพี่เจ๋ แหงสิ ก็เพิ่งรู้จักกันเมื่อวาน อะไรจะไวไฟขนาดนี้วะอิฐ



    เมื่อเดินมาจนถึงหน้าบ้านของพี่เจ๋ เจ้าคนที่เล่านั่นนี่มาตลอดทางก็หันมายิ้มอย่างน่ารักให้อีกครั้งแล้วผละมือข้างที่จับกันอยู่ขึ้นมาโบกไปมาเบาๆ



    “ขอบคุณที่มาส่งนะอิฐ กลับบ้านดีๆ เจอกันพรุ่งนี้”



    “เดี๋ยวครับ”



    “หือ?”



    ผมยกกระเป๋าเรียนขึ้นมาเปิดแล้วควานมือหาสิ่งที่เอามาจากที่บ้านตั้งแต่เช้าออกมายื่นให้ มันคือตลับเทปที่มีเพลงที่ผมเลือกมาอย่างตั้งใจเลยนะเว้ย ใช้เวลาทั้งซ้อมทั้งอัดตั้งนาน ผมตั้งใจไว้ว่าหลังจากวันนี้จะเลือกเพลงมาให้พี่เจ๋ฟังอาทิตย์เลยแหละ



    “ตลับนี้ ฟังทั้งสองด้านเลย โอเคนะ?”



    พี่เจ๋รับตลับเทปไปดูแล้วอ่านสิ่งที่ผมเขียนไว้ให้ตรงหน้าตลับ



    “ความรักจากอิฐ ตลับที่หนึ่ง? โห อะไรเนี่ย” แค่เสียงหัวเราะของเขาก็ทำให้ผมตาแทบพร่า ความรักอย่าเพิ่งทำให้กูตาบอด ขอมองหน้าพี่เจ๋แบบนี้ไปอีกนานๆก่อน



    “ก็ใช่ไง เข้าบ้านได้แล้ว เดี๋ยวพ่อพี่ออกมาเห็น” ผมยืนหลบอยู่ตรงบริเวณเสาบ้าน แต่ถึงแบบนั้นก็ยังหวั่นใจอยู่ดี เอาจริงๆก็ไม่รู้ว่าบ้านลูกชายเขาหวงลูกแบบบ้านลูกสาวมั้ย แต่ก็ระวังไว้ก่อนล่ะวะ



    “อื้อ เจอกันพรุ่งนี้นะอิฐ ถึงบ้านแล้วส่งเพจมาบอกด้วยนะ”



    “ครับ กินข้าวเยอะๆนะ จะได้มีแก้มมาให้อิฐเล่น”


    “ไอ้เด็กนี่… ไปเลยยย”



    “คร้าบ ครับ ไปแล้ว บ๊ายบาย”



    “อื้อ”



    ผมยิ้มเล็กๆในขณะที่ยืนรอให้พี่เจ๋เดินเข้าไปในบ้านก่อนจึงได้เดินออกมา บ้านพี่เจ๋ไม่ไกลจากบ้านของผมมากนักทำให้ผมวางแผนไว้ว่าจะขอแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์เพื่อมารับไปส่งพี่เจ๋ทุกวันอยู่ซึ่งก็ภาวนาให้แม่ตกลงด้วยเถอะ ส๊าธุ




    6:35 PM



    “เอาไปทำไม ไม่ได้ ขี่มอไซค์มันอันตราย”



    “โห่ ม๊าอะ!!!”


    เออ กูคาดหวังอะไรอยู่วะ...




    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 


    แหะ... มันโอเคมั้ยนะ


    yang liu (barmybibber) 
    tag นี้ แท็กนี้นะ #bibberstory


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in