ผมทำไข่ดาวเป็นอาหารเช้า
เมนูสุดเบสิก ทำง่ายและประหยัดเวลาจนเหลือพอให้จิบกาแฟอย่างใจเย็นระหว่างอ่านหนังสือก่อนไปทำงาน
ไข่ดาวแบบสุกทั้งใบหนึ่งจาน และแบบกึ่งสุกกึ่งดิบอีกหนึ่ง ผมวางทั้งสองไว้ที่โต๊ะคนละฝั่งกัน เดินไปเทอาหารใส่ถ้วยของนีน่า เจ้าแมวอ้วน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ ชะโงกหน้าหาใครอีกคนที่ไม่มาประจำที่ซักที ก่อนจะเดินไปลากเจ้าหมอนั่นที่กำลังสนุกกับการแกล้งแมวของผมมาจากห้องนั่งเล่น
เขาทำหน้าบูดบึ้ง พยายามหันไปกวนนีน่าที่กำลังจัดการอาหารเปียกในถ้วย เมื่อไม่ประสบความสำเร็จก็หันกลับมาเท้าคางกับโต๊ะ "เจ้าแมวหยิ่ง" เขาบ่น
นีน่าส่งเสียงกลับมาราวกับฟังออกแต่เธอไม่หยี่ระหรอกนะ เจ้าแมวบิดตัวอย่างเกียจคร้านก่อนจะเดินชูหางออกจากครัว
เขาหันมามองผมที่ง่วนกับการแกะพลาสติกที่ซีนกล่องกระดาษลวดลายฉูดฉาดไว้
"ชักช้าจริง นายจะรีบเรียกฉันมาทำไมเนี่ย"
"จะง่ายกว่านี้ถ้านายเปลี่ยนศาสนานะ"
"ก็คิดงั้น แต่ตอนนี้มันทำได้ที่ไหนเล่า"
"ของแบบนี้อยู่ที่ศรัทธาไม่ใช่หรือไง อีกอย่างนะ เพราะงี้เราเลยไม่ควรกินข้าวที่ห้องนั่งเล่นถ้าไม่อยากให้สปริงเกอร์ทำงาน" มันเหนียวเกินไปจนต้องใช้มีดช่วยเลยทีเดียว
"แล้วถ้าอย่างนายต้องทำยังไง" เขาถาม
"อืม นั่นสิ"
ผมคิดตาม พลางหยิบธูปหนึ่งก้านออกจากกล่อง
ปักลงไปบนไส้กรอกที่วางข้างไข่ดาวกึ่งสุกกึ่งดิบ แล้วก็จุดไฟ
"อาจจะแค่กินเลยมั้ง"
เขาเป่าไฟจนดับ ผมหยิบธูปออกแล้วทิ้งลงในถังขยะ เราได้เรียนรู้แล้วว่ามันไม่โรแมนติกเอาซะเลยเมื่อรอให้ขี้เถ้าตกลงไปในอาหาร
"รู้งี้น่าจะไม่นับถืออะไรดีกว่า" เขาจิ้มไส้กรอกเข้าปาก
ผมดื่มกาแฟก่อนที่จะแตะอาหารเหมือนเคย เขาบ่นเรื่องนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
และนั่นคือกิจวัตรยามเช้าตลอดสองปีที่ผ่านมา
เช้าวันแรกเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ผมอาศัยอยู่อพาร์ทเมนท์ห้องนี้ได้ประมาณหนึ่งปี
และหนึ่งปีก่อนหน้านั้น เป็นปีที่เขาตาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in