แอนนาลีสก้าวอย่างเชื่องช้าผ่านโถงในตัวบ้านเข้าไปยังห้องทำงานที่อยู่ซ้ายมือ แต่อดสังเกตไม่ได้ว่าผู้ช่วยสาวร่างเล็กยังคงนั่งขลุกอยู่กับกองเอกสารที่ดูคลับคล้ายคลับคลาจะหล่นลงมาทับเธออยู่รอมร่อ
“บอนนี่?” แอนนาลีสทิ้งกระเป๋าถือลงบนเก้าอี้ ส่งยิ้มให้หญิงสาวอีกคนอย่างเหนื่อยอ่อน
“ไง...คุณเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ไม่ดีเท่าไหร่ อัยการฝ่ายนู้นกัดไม่ปล่อยเลย” แอนนาลีสทิ้งตัวลงข้างๆหญิงสาวผมบลอนด์ ถอนหายใจเอาความหนักหน่วงของปัญหาที่แบกรับมาทั้งวันออกไป
หวังว่ามันจะเบาบางลงบ้างแต่เปล่าเลย
มันยังคงหนักอึ้งอยู่ในทรวงอกและไม่มีท่าทีว่าจะลดลงง่ายๆ
“ฉันไปทำมาร์ตินี่ให้นะคะ”
แอนนาลีสไม่ได้ขยับไปไหนเลยจนกระทั่งร่างเล็กพร้อมแก้วมาร์ตินี่กลับมา แก้วปากกว้างขายาวถูกวางลงบนโต๊ะด้านหน้าของเจ้าของบ้านพร้อมๆกับน้ำหนักเบาบางของโซฟาที่ทรุดฮวบลง
“ขอบคุณนะ” แอนนาลีสเปิดเปลือกตาช้าๆ มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ถัดไป
เธอเองก็ดูเหนื่อยล้าไม่แพ้กัน
รองเท้าส้นสูงคู่เล็กวางไม่เป็นระเบียบบนพื้นใกล้ๆ บอนนี่ทิ้งตัวให้จมลงในโซฟา เธอขดขาไปไว้ใต้ร่างเล็ก ตาคู่สวยปิดสนิท ในมือยังคงถือแก้วมาร์ตินี่ที่พร่องลงไปกว่าครึ่งแก้วเอาไว้ รอยลิปสติกที่อยู่บนริมฝีปากของของบอนนี่ซีดจาง ลมหายใจที่ผ่านเข้าไปในปากเธอทำให้เธอส่งเสียงแปลกๆ
“เธอไม่ต้องอยู่ดึกขนาดนี้ก็ได้” แอนนาลีสเปรยเบาๆ
“เรามีงานต้องสะสางนี่คะ” บอนนี่เปิดเปลือกตาขึ้นมองหญิงสาวเจ้าของบ้านก่อนจะแย้มรอยยิ้มเล็กๆออกมา
สีหน้าเหนื่อยอ่อนของสาวเจ้าของบ้านทำให้เธออยากจะพุ่งเข้าไปกอดปลอบแล้วบอกให้แอนนาลีสทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปอีกซีกโลกนึงเสียเดี๋ยวนี้เลย
“เด็กๆกลับไปนานรึยัง?”
บอนนี่ชำเลืองมองนาฬิกาเรือนเล็กบนข้อมือ
ขณะนี้เป็นเวลาเกือบๆเที่ยงคืนแล้ว
“ราวๆสามทุ่มค่ะ”
“อืม แล้วแฟรงค์ล่ะ?”
“เห็นบอกว่ามีธุระค่ะ ออกไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว”
“โอเค”ร่างเล็กหันไปหาเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“แซมล่ะคะ?” เธอถามหาสามีของผู้เป็นนาย
“สัมมนาต่างเมือง กลับมาอาทิตย์หน้า...ฉันนึกว่าเธอเจอเขาแล้วซะอีก”
“เปล่าค่ะ ฉันเอาเสื้อผ้าไปส่งซักแล้วกลับเข้ามาตอนสองทุ่ม เขาเพิ่งออกไป”
แอนนาลีสพยักหน้า
“เพราะงั้นตอนนี้มีแค่เรา?” บอนนี่เอ่ยถามเสียงเบา
ในใจนึกภาวนาให้อีกคนตอบปฏิเสธ
แต่อีกใจ...ลึกๆกลับหวังให้มันเป็นอย่างนั้น
“ดูเหมือนจะเป็นยังงั้นนะ...จนกว่าจะเช้า” แอนนาลีสปล่อยให้ศีรษะตกลงไปบนพนักของโซฟา
‘จนกว่าจะเช้า’ คำสั้นๆที่ทำให้หัวใจของบอนนี่เต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้
“บอนนี่?”
“คะ?”
แอนนาลีสเอื้อมมือไปเกลี่ยผมบลอนด์ออกจากใบหน้าสวยของผู้ช่วยสาว
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
บอนนี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกลั้นหายใจเมื่ออีกคนเอื้อมมาสัมผัสตัว สัมผัสของแอนนาลีสแผ่วเบาแต่ทิ้งร่องรอยไว้แม้ว่าเธอดึงมือกลับไปแล้วก็ตาม มันเป็นแค่เสี้ยววินาทีแต่ความรู้สึกเหมือนนานหลายนาที
“บอนนี่?” เธอเรียกอีกครั้ง
“ม-ไม่เป็นไรค่ะ” น้ำเสียงของร่างเล็กดูแปร่งๆแม้กระทั่งกับตัวเธอเอง
“ฉันขอโทษนะถ้าช่วงนี่เธอต้องดูแลที่นี่แทนฉันบ่อยไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยินดี”
“...อะไรๆมันดูวุ่นวายไปหมดเลยนะว่ามั้ย?”
“ค่ะ...”
“แต่เธอทำได้ดีนะ...ในศาล...วันนี้น่ะ” แอนนาลีสเอ่ยปากชมร่างเล็กที่อยู่ถัดไป
“ขอบคุณค่ะ” บอนนี่ยิ้มรับ เธอไม่รู้ว่าจะตอบรับอีกคนอย่างไร
“เธอทำได้แล้วบอนนี่ ไม่ต้องคอยหลบอยู่ใต้ปีกฉันแล้ว” แอนนาลีสแหย่อีกคน
“ฉันได้อาจารย์ดีค่ะ”
“อันนั้นฉันไม่เถียง”
บอนนี่ขยับตัวบนโซฟาอย่างไม่สบายตัว ไม่ใช่เพราะคำพูดของแอนนาลีส แต่เป็นเพราะความคิดบ้าๆในหัวของเธอเอง
“บอนนี่ ฉัน...”
ร่างเล็กช้อนสายตาขึ้นมองเจ้าของบ้าน
“ฉัน...”
“คะ?” บอนนี่วางแก้วมาร์ตินี่หลังจากที่จัดการกับมันจนหมดแก้วแล้ว
“ฉันแค่อยากขอบคุณ ที่ยังอยู่กับฉัน”
“...”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ทำตัวดีๆกับเธอ กับคนอื่นๆด้วย ฉันแค่- ฉันแค่ไม่อยากให้ใครเห็นมุมอ่อนแอ ฉั-”
แอนนาลีสพยายามทำตัวเองให้เย็นลง
เธอค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เธอพูดออกไป
นี่เราเป็นอะไรไป?
หลังจากที่หันไปหาร่างเล็กอย่างเต็มตัวแบบไม่ได้ตั้งใจ
แอนนาลีสค่อยๆวางแก้วมาร์ตินี่ที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ
คืนนี้มีหลายอย่างแตกหักมากพอแล้ว
— แน่นอน แค่เธอแตกหักก็มากพอแล้ว
“ฉันมันอ่อนแอ ฉันรู้...ฉันยังสมเพชตัวเองอยู่เลย” แอนนาลีสทำหน้าเหยเก
รอยยิ้มที่ปรากฏมันแทบไม่ใช่รอยยิ้มด้วยซ้ำ
“ไม่เลยแอนนาลีส คุณไม่ได้น่าสมเพชนะคะ” บอนนี่เอื้อมไปจับท่อนแขนส่วนบนของคนเป็นนายด้วยความมือไว้ ลูบแผ่นท่อนแขนแข็งแรงไปมาเบาๆ เธอช้อนสายตาขึ้นบรรจบกับเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“คุณเองก็คนนะแอนนาลีส ฉันไม่รู้ว่าคุณเจออะไรมาบ้าง แต่คุณมีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ...” บอนนี่วางมือบนแก้มของอีกฝ่าย
แอนนาลีสพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองสั่น กว่าเธอจะรู้ตัวว่าร้องไห้ก็ตอนที่บอนนี่ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ ร่างเล็กขยับเข้ามาใกล้ เธอกระซิบกับแอนนาลีสแผ่วเบา
“คุณยังมีฉันนะแอนนาลีส ฉันจะอยู่กับคุณเสมอ...คุณก็รู้”
แอนนาลีสสะอื้นกับประโยคเมื่อครู่
หลังจากที่ต้องผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้แต่บอนนี่ก็ยังเลือกที่จะอยู่กับเธอ ประสบการณ์หลากหลาย(ส่วนใหญ่จะเป็นทางลบ)ที่เธอต้องพาตัวเองและทีมไปประสบพบเจอ และเรื่องราวที่ซับซ้อนวุ่นวายจนตัวเธอเองหัวจะระเบิด คนอื่นก็คงไม่ต่างกัน
“ฉั-ฉันเข้าใจถ้าเธอจะไป”
“แอนนาลีส...”
“ฉันพูดจริงๆนะบอน ฉันไม่อยากทรมานเธอ”
“คุณไม่ได้ทรมานฉันแอนนาลีส ฉันมีความสุขดี...ที่นี่ กับทีม กับคุณ”
“ขอบคุณนะ” แอนนาลีสเปล่งมันออกมาเป็นเสียงกระซิบแต่คนฟังกลับยิ้มกว้างรับราวกับเธอเพิ่งได้ยินเจ้าของบ้านตะโกนมันสุดเสียง
“ฉันจะไปไหนได้ ในเมื่อใจฉันอยู่ที่นี่” ร่างเล็กบ่นอุบอิบกับตัวเองแต่ก็ไม่วายจะถูกได้ยิน
แอนนาลีสใจหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรู้ว่าแซมลื่นเป็นปลาไหล วาทะเองก็เป็นต่อ เธอไม่โทษใครนอกจากตัวเธอเองที่ปล่อยให้บอนนี่คิดเลยเถิด ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าทั้งสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันถึงขั้นนั้น แต่แค่สายตาที่เขามองเธอมันก็ผิดมากแล้ว
“บอนนี่ สำหรับเรื่องนั้น...”
แอนนาลีสรู้ว่าใจของบอนนี่อยู่ที่แซม เธอไม่ได้ถือโทษโกรธฝ่ายหญิงเพราะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าแซมเป็นฝ่ายที่ทำตัวเจ้าชู้ใส่ผู้ช่วยของเธอก่อน บอนนี่ยังเด็กและใสซื่อเกินกว่าแปดเปื้อนด้วยน้ำมือของเขา...แบบที่เธอเคยเป็นมาก่อน
เธอรักทีม รักบอนนี่และแฟรงค์
เธอทนเห็นสามีทำลายสิ่งที่เธอรักไม่ได้
“ฉันขอโทษนะบอนนี่ ฉันรู้ว่าเธอลำบากใจเรื่องแซม ฉันจะคุยกับเขา...” แอนนาลีสสูดหายใจเข้าอีกครั้ง ท้องไส้ไหววูบเมื่อนึกถึงคำถามที่จะถามต่อไปหรือเธอจะไม่ลำบากใจ?
“เขาได้...เขาได้ทำอะไรเธอมั้ย?” แอนาลีสกลั้นหายใจ
“ไม่ค่ะ เขาไม่ได้ทำอะไรฉัน โถ่แอนนี่...” บอนนี่ลงไปคุกเข่ากับพื้น
ร่างเล็กฉวยเอามือของแอนนาลีสขึ้นมากุม ก่อนที่เธอจะหยุดตัวเองได้ทัน ปากบางของเธอก็กดจูบลงไปบนมือของหญิงสาวเจ้าของบ้านเสียแล้วแอนนาลีสดูจะตกใจพอๆกับตัวบอนนี่เองอยู่ไม่น้อย แต่เธอไม่ได้ปัดป้องร่างเล็กที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เพียงแต่มองด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่ามันหมายความว่าอย่างไร
“ฉันไม่นึกว่าตัวเองจะดีใจที่เป็นแบบนั้น...” แอนนาลีสเหยียดรอยยิ้มแปลกๆส่งให้อีกคน
เธอไม่รู้จริงๆว่าควรทำตัวยังไง
“แอนนาลีส...ฉันไม่มีวันหักหลังคุณ”
“ฉันขอโทษบอนนี่”
“คุณก็รู้ว่าฉันทำทุกอย่างก็เพื่อคุณแอนนาลีส”
“ฉันรู้...”
“ที่ฉันมีให้คุณมันมากกว่าที่ฉันกังวลว่าแซมจะมีให้ฉัน”
แอนนาลีสนั่งนิ่ง เป็นอีกครั้งที่ไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร
“ฉัน...”
ร่างเล็กดูจะมีความกล้าหาญขึ้นมาแปลกๆ
“ฉันกำลังจะบอกว่าฉัน-“
“-บอนนี่” แอนนาลีสขัดขึ้น หัวใจเต้นตุบตับจนแทบจะหลุดออกมาจากร่างกาย
“...”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไร แต่ฉันอยากให้เธอคิดให้ดีๆ
“ฉันรักคุณแอนนาลีส”
ทั้งคู่นิ่งเงียบ ปล่อยให้ความสงัดของมหาวิทยาลัยยามดึกโดยรอบคืบคลานเข้ามาระหว่างพวกเธอ
บอนนี่ยังคงนั่งอยู่บนพื้น มือของแอนนาลีสยังคงอยู่ในมือของเธอซึ่งวางอยู่บนตักของหญิงสาวเจ้าของบ้านอีกที เธอไม่กล้าปล่อยมือ คิดแต่ว่าหากปล่อยไป
แอนนาลีสอาจจะหายไปจากเธอก็เป็นได้
จากไปตลอลกาล...
"บอนนี่ ฉัน...ฉันขอบคุณกับสิ่งที่เธอมีให้ฉัน ขอบคุณที่ทุ่มเทกับงาน กับฉัน และทีม เธอจะเป็นทนายที่ดีบอนนี่" แอนนาลีสเอื้อมไปวางมืออีกข้างไว้บนมือทั้งสองข้างของบอนนี่ที่กุมมือของเธออยู่ รอยยิ้มของเธออ่อนโยนเสียจนบอนนี่กลัว เธอรู้ดีว่ากริยาแบบนี้หมายถึงอะไร
"แอนนาลีส ไม่..."
บอนนี่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่อีกคนพูดมา เธอกลัวจับใจตลอดการทำงานกับแอนนาลีส เธอเห็นทุกกริยาที่แอนนาลีสทำ รู้ทุกอย่างว่ามันหมายถึงอะไร และนี่...ไม่ เธอยอมรับมันไม่ได้
"ไปซะบอนนี่ เธอมีชีวิตที่ดีได้โดยไม่ต้องมีฉัน"
"ไม่นะ แอนนาลีส คุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"
"เพื่อตัวเธอเอง"
"เป็นเพราะสิ่งที่ฉันบอกคุณเมื่อกี้รึเปล่า?"
"ไม่ใช่บอน-"
"-เพราะถ้าใช่ฉันจะขอให้คุณลืมมัน ลืมว่าฉันเคยพูดอะไรโง่ๆแบบนั้นออกไป"
"มันไม่ใช่อะไรโง่ๆบอนนี่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันแค่ไม่อยากเป็นเหตุผลให้เธอติดอยู่ที่นี่ เธอพร้อมจะไปแล้ว เธอพร้อมจะเดินตามทางของตัวเองแล้ว"
"ฉันไม่อยากไปแอนนาลีส ฉันจะทิ้งคุณได้ยังไงหลังจากสิ่งที่เราเจอมา"
"เพราะที่เราเจอมานี่แหล่ะบอนนี่ ฉันถึงไม่กล้าขอให้เธออยู่"
"คุณก็รู้ว่าฉันไม่ไปไหน"
แอนนาลีสพบว่ามันยากมากที่บังคับให้ตัวเองพูดสิ่งที่ติดอยู่ในหัวมาตลอดหลายวันออกไปเมื่อคนตรงหน้าเป็นคนที่อยู่ในหัวของเธอเช่นกัน
"ฉันขอโทษบอนนี่ ฉันทนไม่ได้"
"คุณพูดถึงอะไรแอนนาลีส?"
"..."
"คุณทนอะไรไม่ได้คะ?"
"ฉัน..."
"แอนนาลีส?
"เมื่อถูกคาดคั้นแอนนาลีสหมดหนทางนอกจากตอบคำถามของอีกคน
"ฉันทน...เห็นเธอกับคุณมิลล์สโตนไม่ได้"
บอนนี่ไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร ควรดีใจที่คนเป็นนายบอกว่ารู้สึกไม่ดีที่เห็นเธอกับคนอื่น หรือควรรู้สึกแย่ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแอนนาลิสรู้เรื่องนี้
อาการเบาหวิวในช่องท้องก็ไม่ช่วยบอกอะไรเลย
"ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่กงการอะไรของฉันแต่ฉันแค่-"
"นั่นมันไม่สำคัญแล้วค่ะ มันแค่ครั้งเดียว"
แอนนาลีสมองคนบนพื้นด้วยความงงงวย
"ตอนนั้นฉันเมาและ- และมีความต้องการอย่างมาก ฉันไม่รู้ว่าไปจบลงบนเตียงของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แอนนาลีส...มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย"
"ฉันไม่รู้ว่าฉันควรรู้สึกแบบนี้มั้ย มันออกจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย ถ้าจะให้พูดแล้วล่ะนะ..."
"คุณหมายถึงตัวคุณเองกับเนต?"
แอนนาลีสพยักหน้า
"แต่มันจบแล้ว ฉันกับเนต เราเลิกกันแล้ว" เธอรีบพูดต่อ
"ฉันรู้ค่ะ...ฉันรู้" บอนนี่กระชับมือของอีกคน
"ฉันไม่รู้ว่าฉันสมควรได้รับมันมั้ยบอนนี่"
"ทำไมจะไม่สมควรล่ะคะ?"
"หลังจากที่ฉันทำลงไป หลังจากสิ่งเลวร้ายที่ฉันทำลงไป ทั้งหมดนี้มัน เธอ...เธอดีเกินไปที่จะเป็นความจริงบอนนี่ เธอดีเกินไป" แอนนาลีสละมือที่กุมร่างเล็กออกแล้วเอื้อมไปกุมใบหน้าเรียวของคนบนพื้นไว้แทน เธอเกลี่ยหัวแม่มือผ่านแก้มใสของผู้ช่วยสาวไปมา
เธออยากปกป้องผู้หญิงคนนี้ ปกป้องให้พ้นจากเงื้อมมือของสามี จากโลกภายนอกที่โหดร้าย
แต่บอนนี่คงไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น
บอนนี่สามารถเป็นหญิงแกร่งได้ในเวลาที่เธอต้องการ
บอบบางและงดงามอย่างที่เธอเป็น
"ทุกๆคนสมควรจะถูกรักค่ะ แม้กระทั่งคุณแอนนาลีส" บอนนี่ทิ้งตัวไปกับสัมผัสอ่อนโยนที่ข้างแก้ม เธอหลับตาเพริ้มราวกับลูกแมวเชื่องๆ
"ถ้าไม่มีเธอฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไง"
"ฉันรักคุณนะคะ และฉันจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ...แอนนาลีส" ร่างเล็กบอกย้ำสิ่งที่ผูกมัดตัวเธอไว้กับศาสตราจารย์สาว สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้เธอยังอยู่ที่นี่ ตรงนี้
เธอ'เป็น'ลูกแมวเชื่องๆของแอนนาลีส
แอนนาลิสถอนหายใจเมื่อคิดถึงอีกสิ่งที่ยังคงรบกวนจิตใจ
"แต่บอน...ฉันทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเธอไปกับใครอื่น"
"ฉันไม่มีใครแล้วค่ะ ฉันมีแค่คุณ" บอนนี่มองลึกเข้าไปยังนัยต์ตาสีเข้มของผู้เป็นนายเพื่อยืนยันสิ่งที่ตนเพิ่งพูดออกไป
"ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ?"
บอนนี่ยืดหลังให้ตรงก่อนจะจัดท่านั่งใหม่ เธอขยับเข้าไปใกล้เจ้าของบ้านก่อนจะเอนหน้าซบลงไปบนตักของคนที่อยู่บนเก้าอี้
"แค่คุณคนเดียวค่ะแอนนาลิส"
แอนนาลีสเอื้อมไปลูบผมบลอนด์สั้นของผู้ช่วยสาวบนตักเบาๆ
"แค่เธอคนเดียวบอนนี่"
แอนนาลีสรับปากในสัญญาที่บอนนี่ไม่ได้เอ่ยขอ
ถึงอย่างนั้นมันก็การสัญญา
ความเงียบงันภายในรั้วมหาวิทยาลัยตอนเที่ยงคืนและเงาวูบไหวที่มุมห้องเป็นพยาน
— แอนนาลีส คีติ้งสัญญาว่าจมีแค่เธอ,บอนนี่ วินเทอร์บัททอม...เพียงคนเดียว
"Think carefully, everything after this moment will not only determine your career but life."
— Annalise Keating
fin.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in