หลังจากผ่านมาปีกว่าก็ได้มีโอกาสกลับมารีวิว(และอวย) Percy Jackson กันต่อแล้ว เย้ แต่ก่อนรีวิวขอกรี๊ดก่อนว่า Disney+ จะสร้างซีรี่ส์ PJ แล้วนะทุกคน ตอนได้ยินข่าวเมื่อปีแล้วแทบปาดน้ำตา ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้โควิดหายไปไวๆ แล้วจะได้ดำเนินการสร้างเร็วขึ้นอีกสักนิด
5 เล่มต่อไปที่เราจะพูดถึงอยู่ในชุด The Heroes of Olympus โดยหนังสือชุดนี้จะมีละครใหม่เพิ่มเข้ามาเยอะมากกกก มีเรื่องราวของเทพเจ้าและมนุษย์กึ่งเทพเยอะแยะไปหมด
สิ่งที่ต่างจาก Percy Jackson & the Olympians ก็คือเราจะไม่ได้รู้เรื่องราวต่างๆจาก point of view ของเพอร์ซีย์แค่คนเดียวแล้ว ตลอดทั้ง 5 เล่มจะตัวละครหลักๆ ในชุดนี้ก็จะสลับกันเล่าเรื่อง ส่วนคนอ่านแบบเราก็จะลุ้นว่าเล่มต่อไปตัวละครที่ชอบจะใช่ protagonist ในเล่มนั้นๆ รึเปล่า
นอกเหนือจากความสนุกและแฟนตาซีแล้ว สิ่งทำให้ที่เราชอบหนังสือชุดนี้มากๆ เพราะว่าลุงริคสอดแทรกประเด็น diveristy เข้าไปด้วย อย่างเช่น มนุษย์กึ่งเทพจะมีอาการ dyslexia กับ ADHD นั้นก็ถูกพูดถึงตลอดใน 5 เล่มก่อน หรือใน The Heores of Olympus เองก็มีเพิ่มประเด็น racial and gender diversity เข้ามา เห็นได้ชัดเจนมากๆ ว่าตัวละครมนุษย์กึ่งเทพหลักๆ นั้นมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และ LGBTQ+ ด้วย แถมยังมีรากเหง้ามาจากหลากหลายเชื้อชาติ หรือแม้แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมเองก็ถูกพูดถึงผ่านตัวละครโกรเวอร์ อดดีใจไม่ได้วรรณกรรมชุดนี้นำเสนอประเด็นพวกนี้เข้าไปด้วย
คำเตือน
เรื่องรีวิวของเล่มถัดไป มันคือสปอยสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านเล่มก่อนหน้านะ เพราะว่าเนื้อหามันต่อกันชนิดที่แค่เรื่องย่อก็สปอยแล้ว เราแนะนำว่า อย่างเช่น ถ้าอ่านมาถึงเล่ม The Son of Neptune ก็อ่านรีวิวถึงแค่ The Mark of Athena ก็ได้ฮะ อย่างน้อยตอบจบของเล่ม 2 ก็พอทำให้เรารู้เรื่องเล่ม 3 ไปบ้างแล้ว
วีรบุรุษผู้สาบสูญ : The Lost Hero
เรื่องย่อ
เพียงไม่นานหลังสงครามกับยักษ์ไททันสิ้นสุดลงแล้ว วีรบุรุษคนสำคัญของค่ายฮาล์ฟบลัดอย่าง เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กลับหายตัวไป เทพและเทพีบนโอลิมปัสขาดการติดต่อ จึงไร้ความช่วยเหลือจากทวยเทพในการตามหาเพอร์ซีย์ ในขณะเดียวกันเจสันก็ตื่นขึ้นมาบนรถบัสโรงเรียนพร้อมอาการความจำเสื่อม เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร และตัวเขาเองคือใคร ทำให้ทั้งไพเพอร์และลีโอต่างก็เป็นกังวลอย่างมาก ทริปทัศนศึกษาของเจสัน ไพเพอร์ และลีโอคือจุดเริ่มต้นของโลกมนุษย์กึ่งเทพอีกแบบหนึ่งที่นึกถึงไม่ถึง
รีวิว
สำหรับใครที่รอเพอร์ซีย์ แจ็กสันแบบเรา ต้องบอกเลยว่าเล่มนี้ไม่ได้เจอเพอร์ซีย์ (ตามชื่อหนังสือเลย)
ตัวละครใหม่ทั้งเจสัน ไพเพอร์ และลีโอก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจมาก ตัวละครทั้งสามตัวนี้ก็จะสลับกันเล่าเรื่องตลอดทั้งเล่ม ช่วงแรกๆ เราไม่ชินเท่าไหร่ เพราะว่ายังคิดถึงตัวละครเก่าๆอย่างแอนนาเบ็ธ โกรเวอร์ ไทสันมากๆ แต่พออ่านๆ ไปก็มีตัวละครที่ดึงดูดเราให้ได้ก็คือลีโอ ชีวิตวัยเด็กของลีโอเศร้าได้ใจเรามาก ก็เลยอยากรู้ว่าความลำบากและความโดดเดี่ยวในชีวิตลีโอนั้นจะไปหยุดที่ตรงไหน
สรุปก็คือเล่มนี้มันแค่ปูเนื้อเรื่องถึงคำพยากรณ์บทใหม่ที่ราเชล อลิซาเบธ แดร์ พยากรณ์ไว้ในตอนท้ายเล่ม The Last Olympain โดยส่วนตัวแล้วความสนุกที่แท้จริงเริ่มเล่มถัดไปจ่ะ 555555555
บุตรแห่งสมุทรเทพ : The Son of Neptune
ทุกคน เราจะได้เจอเพอร์ซีย์กันแล้ว
เรื่องย่อ
เพอร์ซีย์ ทีี่หายตัวไปจากค่ายฮาล์ฟบลัด กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าค่ายจูปิเตอร์ ค่ายของมนุษย์กึ่งเทพชาวโรมัน แม้ความทรงจำของเพอร์ซีย์จะขาดหายไป แต่เพอร์ซีย์ก็รู้สึกว่าได้ตนเองอยู่ผิดที่ผิดทางและสัมผัสถึงความไม่เป็นมิตรของชาวโรมัน มีเพียงแฟรงก์ และเฮเซลที่ต้อนรับพวกเขา
ค่ายจูปิเตอร์กำลังตกอยูในอันตราย และความตายถูกคุมขัง ทำให้คนตายไม่ยอมตาย อสุรกายไม่ยอมสลาย แล้วแบบนี้สงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงจะสิ้นสุดลงได้อย่างไร ทั้งสามคนจึงต้องเดินทางขึ้นเหนือไปยังอลาสก้า ดินแดนที่เทพโอลิมปัสแผ่อำนาจไปไม่ถึง เพื่อปลดปล่อยความตายและปกป้องค่ายมนุษย์กึ่งเทพ การเดินทางนี้คือความหวังที่เพอร์ซีย์จะได้ความทรงจำกลับคืนมา
รีวิว
ชอบเล่มนี้มากกกกกกกกกกก ชอบที่สุดจากทั้งหมดของ The Heroes of Olympus สิ่งที่ทั้งเพอร์ซีย์
เฮเซล และแฟรงก์มีร่วมกันก็คือ losing their sense of belonging และนั่นแหละทำให้เราชอบเล่มนี้มากที่สุด
ความทรงจำเพอร์ซีย์แหว่งๆ จำได้ว่าได้เจอแอนนาเบ็ธที่ค่ายนะ แต่พอถึงค่ายกลับไม่ใช่ค่ายที่ตัวเองคิด ต่อให้มีแฟรงก์และเฮเซลทำการเดินทางด้วยและไม่ได้มองว่าเพอร์ซีย์เป็นศัตรูกับชาวโรมัน เค้นสมองให้ตายก็นึกไม่ออกว่าชีวิตก่อนหน้าเป็นยังไง จะให้ทำยังไงได้อีกนอกจากต้องไปอลาสก้า ไม่งั้นคงไม่มีค่ายและเพื่อนๆ ที่เห็นในความทรงจำให้กลับไปหาอีก อย่างดีเทลเล็กๆ ในเรื่องอย่างที่เพอร์ซีย์บอกลาเสื้อค่ายฮาล์ฟบลัดสีส้มก่อนออกเดินทางเราก็ชอบมาก ส่วนแฟรงก์กับเฮเซลแม้จะเป็นชาวโรมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเข้ากับเพื่อนๆ ที่ค่ายได้ขนาดนั้น เฮเซลมีอดีตที่เฮเซลไม่ได้รู้สึกดีกับมันนัก แฟรงก์ก็มีปัญหาส่วนตัวให้เครียดอีก อ่านแล้วลุ้นทุกบทเลย ไม่มีความรู้สึกที่ว่าเมื่อไหร่บทที่ตัวละคนตัวนี้เล่าเรื่องมันจะจบลงสักทีนะ
ตัวละครทั้งสามตัวมีความรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกและต้องพิสูจน์ตัวเองทำให้เราคิดถึง Lightning theif ที่เพอร์ซีย์ทำการเดินทางครั้งแรกเลย
รอยตราอาธีนา : The Mark of Athena
เรื่องย่อ
ในที่สุดเจ็ดมนุษย์กึ่งเทพทั้งกรีกและโรมันในคำพยายากรณ์บทใหญ่ได้มารวมตัวกัน เพื่อมุ่งหน้าไปยังดินแดนโบราณ ต้นกำเนิดแหล่งอารยธรรมกรีกและโรมันของจริง การที่จะทำภารกิจตามคำพยากรณ์นั้นก็ดูจะมีอุปสรรคเยอะแยะเหลือเกิน อีกทั้งแอนนาเบ็ธยังมีคำพยากรณ์ของเธอที่ต้องจัดการ ภารกิจที่บุตรธิดารุ่นก่อนๆ ยังไม่มีเคยมีใครทำสำเร็จ การเดินตามรอยตราอาธีน่าเพียงลำพัง
รีวิว
เพอร์ซีย์ได้เจอแอนนาเบ็ธแล้ว นี่เป็นเล่มที่เราชอบรองลงมาจาก The son of Neptune เลย รู้สึกดีใจมากๆ ที่แอนนาเบ็ธได้เป็นคนดำเนินเรื่องกับเขาสักที พอถึงตอนแอนนาเบ็ธต้องทำการเดินทางคนเดียวแล้วลุ้นมาก เราจำได้ว่าเราอ่านรวดเดียว 5-6 ชมต่อกันแบบไม่พัก ปวดคอไปหมด 5555555 ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวันก็อ่านจบทั้งเล่ม ไม่รู้จะรีวิวอะไรนอกจากสนุกมาก เล่มนี้เราพอจะเห็นภาพรวมแล้วว่าทำไมต้องเอามนุษย์กึ่งเทพทั้ง 7 คนนี้มากอบกู้โลก (ในใจก็คิดว่าพวกเทพเจ้าขี้เกียจจังเลยนะ ใช้มนุษย์กึ่งเทพเก่ง) ลุงริคเกลี่ยบทให้ทุกตัวละครได้ดีมากถึงแม้จะไม่ใช่ protagonist ในเล่มนี้ก็ตาม
เคหาสน์แห่งฮาเดส : The House of Hades
เรื่องย่อ
ประตูแห่งความตายต้องถูกปิดพร้อมกันจากทั้งสองด้าน ทางด้านเรืออาร์โกสองก็โจมตีจากศัตรูตลอดการเดินทางไปยังเคหาสน์แห่งฮาเดส ส่วนทางเพอร์ซีย์และแอนนาเบ็ธเองก็ต้องเอาตัวรอดในนรกทาร์ทารัส ทั้งอากาศ พื้นดินและแม่น้ำ ล้วนแต่เป็นพิษต่อมนุษย์กึ่งเทพ อีกทั้งอสุรกายถูกส่งไปที่ทาร์ทารัสเมื่อถูกสังหารแล้ว เหล่าศัตรูมากมายถูกเพอร์ซีย์และแอนนาเบ็ธสังหารไปกำลังคอยจ้องเล่นงานพวกเขา เพื่อที่จะช่วยเพื่อนและกอบกู้โลก มนุษย์กึ่งเทพทั้งสองกลุ่มต่างต้องทำภารกิจที่ดูเป็นไปไม่ได้นี้ให้สำเร็จ
รีวิว
เราชอบพาร์ทเพอร์ซีย์และแอนนาเบ็ธมากๆ มันเกินความคิดเราไปมากตั้งแต่ทั้งคู่ตกไปในทาร์ทารัส เลยตั้งหน้าตั้งตารอคอยเล่มนี้สุดๆ เพราะอยากรู้ว่าในทาร์ทารัสนั้นมันจะเลวร้ายแค่ไหน สรุปคือเลวร้ายจริง อย่าหาตกลงไปเลย อีกอย่างที่เราชอบในเล่มนี้ก็คือนิโค รู้สึกว่าได้รู้จักนิโคขึ้นเยอะเลย เรื่องราวของนิโคถูกใจเรามั่กๆ
สปอย
“Bob says hello," he told the stars.
เราชอบเรื่องราวของฝั่งเพอร์ซีย์กับแอนนาเบ็ธมากๆ เพราะบ็อบนี่แหละ ทุกเล่มที่อ่านมาเรามองฝั่งอสุรกายว่าเป็นตัวร้ายๆๆ ชั่วๆๆ มาตลอด แต่พอมาเจอตอนจบที่บ็อบต้องคอยป้องกันประตูแห่งความตายเพื่อเพอร์ซ๊ย์และแอนนาเบ็ธ ก็เลยไม่ได้ขึ้นมาเจอดวงดาวตามที่หวังไว้ก็อดเศร้าใจไม่ได้จริงๆ
โลหิตแห่งโอลิมปัส : The Blood of Olympus
เรื่องย่อ
สันติภาพระหว่างกรีกและโรมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อชาวโรมันส่งคืน รูปปั้นอาธีน่าพาร์เธนอสแก่ชาวกรีก เทพเจ้าจะได้หายจากโรคบุคลิกภาพแปลกแยกและมนุษย์กึ่งเทพทั้งสองค่ายไม่ต้องทะเลาะกันเอง
นิโคจึงอาสาทำหน้าที่เดินทางผ่านเงา พารูปปั้นยักษ์ข้ามครึ่งค่อนข้างโลกกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัด
เพื่อที่จะเอาชนะมารดาแห่งพื้นพิภพอย่างไกอา การสูญเสียจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
รีวิว
เล่มนี้ไม่มีดำเนินเรื่องผ่าน point of view เพอร์ซีย์หรือแอนนาเบ็ธเลย เสียใจเล็กน้อยที่เล่มสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดกลับไม่ได้อ่านบทของตัวละครตัวโปรด เนื้อเรื่องก็ยังดำเนินอย่างรวดเร็วเหมือนกับทุกๆเล่มที่ผ่าน แต่ส่วนตัวเราแล้วบทสรุปไม่ค่อยถูกใจเราเท่าไหร่เมื่อเทียบตอนสงครามยักษ์ไททันเล่ม The Last Olympain รู้สึกว่าบทสรุปมันง่ายไปหน่อย แต่ก็บอกตัวว่าเอ้อ ระหว่างทางที่ผ่านตั้งหลายเล่มมันก็ไม่ง่ายนะแก 5555555
me:
พออ่านจบแล้วก็โหวงเหมือนกันนะ Percy Jackson เป็นเรื่องแรกเลยที่เราตามอ่านแบบที่ต้องรอมันออกทีละเล่ม รู้สึกว่าเดินทางด้วยกันมายาวนานมากๆ เหมือนโตมาด้วยกันตั้งแต่สมัยโรงเรียนประจำยองซีย์ มาค่ายฮาล์ฟบลัด เดินทางข้ามทวีปยันทะลุไปทาร์ทารัส ใครที่อ่านถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนวนิยาุดนี้น
แถมแฟนเมดที่เราชอบ ระหว่างที่รอแต่ละเล่มออกเราดูบ่อยมาก หวังว่าแฟนๆ PJ จะได้ดู The Heroes of Olympus แบบ movie หรือ series กันเนาะ
ปล. ช่องนี้ทำ trailer ครบห้าเล่มเลยนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in