ช่วงแรกของเรื่องหนังจะให้เราได้เห็นการใช้ชีวิตของโรเจอร์ในโลกยุคปัจจุบันที่เขาต้องพยายามปรับตัว พร้อมทั้งการทำงานร่วมกับหน่วยชิลด์ในการปฏิบัติภารกิจต่อต้านผู้ร้าย หนังมีคิวบู๊ที่มีการออกแบบมาได้ดูดีมาก เราจะได้เห็นฉากการต่อสู้ของกัปตันกับเหล่าร้ายที่ดูสมจริงและไม่ค่อยเน้นเทคนิคพิเศษเท่าไร(ก็เพราะว่ากัปตันไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรนี่นะ) ก่อนที่หนังจะเริ่มเข้าสู่ประเด็นหลักของเรื่องราวที่ทำให้คนดูอย่างเราต้องคิดตามสักหน่อย คิดว่าการนำเสนอของหนังในช่วงแรกๆค่อนข้างจะไม่ค่อยประติดประต่อสักเท่าไร แต่เมื่อหนังดำเนินเรื่องราวไปสักพักก็เริ่มที่จะทำให้ผู้ชมประติดประต่อเรื่องราวได้ นั่นหมายความว่าคุณต้องตั้งใจดูอย่างมากในช่วงแรกของเรื่อง เพราะหนังจะเอาประเด็นจาก Captain America: The First Avenger มาใส่ไว้ค่อนข้างเยอะ ใครที่ยังไม่ดูหรือลืมๆไปแล้วแนะนำว่าให้กลับไปหามาดูซะ ไม่งั้นคุณจะพลาดประเด็นในช่วงแรกที่หนังต้องการนำเสนอไปค่อนข้างมาก

หนังยังนำเสนอเรื่องราวในส่วนเรื่องราวของตัวละครบทรองๆลงมาอย่างนิค ฟิวรี่ย์, นาตาชา โรมานอฟ, แซม วิลสันและวินเทอร์ โซลเยอร์หรือมัจจุราชอหังการครับ บทบาทของตัวละครแต่ล่ะตัวมีการเฉลี่ยกันได้ดี แต่นั้นก็ทำให้หนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมงนิดๆ พาลจะทำให้คนดูบางคนเบื่อไปก่อน ส่วนตัวแล้วคิดว่าบทบาทของวินเทอร์ โซลเยอร์ดูอ่อนไปหน่อย ช่วงแรกของเรื่องนี่แทบจะไม่มีบทบาทสักเท่าไร แต่ปมประเด็นประหว่างกัปตันอเมริกาและวินเทอร์ โซลเยอร์ก็ทำให้เราต้องเอาใจช่วยในช่วงท้ายเรื่อง แต่ประเด็นดังกล่าวนั้นกลับไปไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องทั้งหมด ไม่ขอเล่าไปมากกว่านี้เพราะมันจะทำให้คุณเสียอรรถรส แต่หลังจากที่ดูจบ จึงเข้าใจเลยว่าทำไมหนัง The Avengers: Age of Ultron ต้องดำเนินเรื่องต่อจากเรื่องราวในหนังเรื่องนี้