เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนังสือPassing seasons, empty bottles of wine and my Ancient Kingdom
เราต่างหลงทางในความเปลี่ยวว้าง – กงจียอง
  •           หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายต้นฉบับภาษาเกาหลี  ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อปี 2006

    ที่มา​ : https://movie.daum.net/moviedb/main?movieId=41389

    우리들의 행복한 시간 (2006)  Maundy Thursday 
    นำแสดงโดย​ คังดงวอน(강동원)​ อีนายอง(이나영)
     

    หนังสือไทยจากสำนักพิมพ์​ earnest publishing 

    คำโปรยบนปกหลัง                                                  

     "ยุนซูได้รับโทษประหารชีวิตจากข้อหาข่มขืนและฆาตกรรม เขาใช้ชีวิตที่เหลือเพียงลำพังโดยมีความเกลียดชังคอยนำทางชีวิตที่ผ่านมาของเขาพบเจอแต่เรื่องเลวร้ายเพราะฉะนั้นสมควรแล้วที่สังคมจะโดนลงโทษบ้าง           

    ยูจองเป็นหญิงสาวฐานะดีและมีหน้ามีตาในสังคมแต่เกลียดชังพวกจอมปลอม เธอพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วสามครั้งและสร้างความกังวลใจให้กับแม่และครอบครัวเป็นอย่างมาก” 

    แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจแล้วสำหรับเรา แต่ก่อนอ่านเล่มนี้เราบังเอิญได้อ่านรีวิวในเพจเฟซบุ๊คเพจหนึ่ง เขารีวิวว่าหนังสือเล่มนี้กระแทกใจจนนั่งร้องไห้บน MRT จนทำให้เราสงสัยว่ามันจะอะไรขนาดนั้นกันและได้ลองอ่านหลังจากนั้น

            หนังสือเล่มนี้แบ่งการเล่าเรื่องเป็น แบบ ทุกบทในเรื่องจะใช้เรื่องของ “ยูจอง” เราขอพูดแทนว่านางเอกละกันเป็นตัวนำ แต่ทุกๆ บทก่อนเล่าจะมีบลูโน้ตที่เป็นพาร์ทของ “ยุนซู” แปะไว้ก่อนหน้า รายละเอียดเป็นการเล่าเรื่องชีวิตของยุนซูตั้งแต่เด็กๆ แต่พาร์ทของยูจองจะเริ่มจากปัจจุบันเล่าย้อนไปอดีตและตอนจบกลับมาปัจจุบัน                                                                                                                               หนังสือไม่ได้ให้ทำให้เรากระแทกใจครั้งเดียวแต่ค่อยๆ เปิดเผยทีละน้อยว่าทำไมตัวละครทั้งสองตัวถึงเป็นแบบนั้น ความเจ็บปวดของพวกเขาคืออะไร เนื้อหามีความเป็นคาทอลิกสูงอยู่เหมือนกัน รวมถึงมีพูดถึงเทพเจ้ากรีกโรมันบ้าง มีพูดถึงนักเขียนดังๆ เยอะอยู่ระดับหนึ่งในการบรรยายฉากหรือซีนอารมณ์ต่างๆ

              เรื่องย่อ  บทแรกเปิดมาก็เจอบลูโน้ตของ "ยุนซู" ก่อน แล้วก็ตัดมาบทที่ 1 "ยูจอง"ตื่นขึ้นมาในห้องที่โรงพยาบาลแล้วทะเลาะกับแม่ตัวเอง จากนั้นคุยกับลุงที่เป็นจิตแพทย์                                                    ลุงบอกยูจองว่า 

     "มันจะดีมากถ้าหลานร้องไห้ออกมาบ้าง" 

    นี่เป็นตอนเริ่มต้นทั้งหมด...

              หลังออกจากโรงพยาบาล ยูจองไม่ต้องไปบำบัดแต่ไปเป็นอาสาสมัครเยี่ยมนักโทษที่สถานกักกันแทน  ครั้งแรกที่ไปสถานกักกันยูจองกับยุนซูก็ได้เจอกัน หลังจากนั้นทุกคนค่อยๆ เปิดใจเรียนรู้และเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวตนซึ่งกันและกัน  ทุกคนเริ่มเผยแผลเป็นใจให้หลั่งเลือดอีกครั้ง ตลอดทั้งเล่มจะค่อยๆ เผยความทุกข์ใจ ความคิด และปัญหาให้ผู้อ่านได้เห็น 

    #ตอนเราอ่าน

    ตอนเราอ่านไปมันก็หน่วงๆ มึนๆ อยากจะกรี๊ด ยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีแผ่นดินไหวในหัวของเรา เข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงร้องไห้บน MRT สิ่งที่เราชอบมากในเล่มนี้อย่างหนึ่งคือสำนวนการแปล แน่นอนว่าผู้แต่งคงใช้ภาษาได้สวยงามอยู่แล้ว ผู้แปลก็ใช้สำนวนภาษาได้สวยงามไม่แพ้กัน หนังสือเล่มนี้ทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้นกว่าเดิม มีประโยชน์ต่อการเข้าใจผู้คนบนโลกใบนี้ 


    จนในท้ายที่สุดแล้ว... จะเป็นอย่างไรอยากให้ทุกคนลองไปอ่านกัน 

    นักโทษรอประหารกับผู้หญิงที่พยายามจบชีวิตตัวเองหลายครั้ง พวกเขาไม่น่าจะมาเจอกันได้ พวกเขาคุยอะไรกันตอนเจอกันครั้งแรกและครั้งถัดๆ มา อะไรทำให้พวกเขาเดินทางมาสู่จุดนี้ เพราะตัวของพวกเขาเอง เพราะครอบครัว เพราะสังคม หรือเพราะคนรอบข้าง แล้วในตอนสุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันคืออะไร สุดท้ายตอนจบจะเป็นแบบไหน อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านดูนะคะ ถ้าบอกมากกว่านี้มันจะสปอยล์เกินไป

    ปล. เราอ่านเล่มนี้ตั้งแต่ปี 2017 แล้ว แต่บังเอิญไม่กี่วันก่อนได้นั่งคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ แล้วเราก็ยังเก็บไฟล์ที่เคยพิมพ์ไว้หลังจากอ่านเล่มนี้จบ ตอนอ่านจบมันมีความรู้สึกหลากหลายผุดขึ้นมาแล้วมันต้องเขียนออกมา เราก็เลยลองเกลาๆ แล้วมาแนะนำให้ทุกคน เผื่อบางคนสนใจแล้วหามาอ่านกัน เพื่อนคนที่เราแนะนำเล่มนี้ไปก็พูดกับเราว่านานแล้วที่ไม่ได้อ่านหนังสือติดต่อกันจนจบ อ่านจบแล้วต้องโทรคุยกันต่อ เพราะมันมีหลายประเด็นเหลือเกินที่พวกเราได้จากเรื่องนี้

    คำเตือน!!! ระวังการอ่านเล่มนี้ในที่สาธารณะเพราะคุณอาจเสียน้ำตาได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Sandalluck (@sandalluck)
นี่เป็นหนึ่งในหนังสือที่เราอ่านเเล้วชอบมาก อ่านจบเเล้วคิดวนเวียนอยู่กับมันนานนับสัปดาห์เลย ขอบคุณที่แนะนำให้อ่านนะ
@sandalluck ดีใจที่ชอบ? เราควรจะได้อ่านหนังสือแบบนี้สักเล่มสองเล่มในแต่ละปี​ ☺️