คำโปรยปกหลัง เล่ม 1

สถานีใต้ทะเลนานาชาติแปซิฟิกเหนือ ณ ระดับความลึกสามพันเมตร

เป็นสถานที่ที่รวบรวบเหล่านักวิจัยและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ

พัคมูฮยอนเพิ่งมีโอกาสได้ย้ายมาเป็นทัตนแพทย์หน้าใหม่ของที่นี่

เขาเพียงต้องการใช้ชีวิตพนักงานเงินเดือนอย่างสงบสุข

ทว่าผ่านไปแค่ห้าวันก็เกิดเหตุน้ำรั่วจนต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น

ท่ามกลางความมืดมิดใต้ท้องทะเล

ทุกอย่างตกสู่ความโกลาหลในชั่วพริบตา

어두운 바다의 등불이 되어 นิยายแนวแฟนตาซีเอาตัวรอดชื่อดังของเกาหลีที่นักอ่านผู้คลุกคลีอยู่กับแวดวงนิยายจากประเทศนี้ต้องคุ้นหูคุ้นตากันบ้างจากภาพวาดแฟนอาร์ตของนักวาดหลายๆ ท่าน ตัวเราเองก็เริ่มอ่านนิยายเรื่องนี้จากแฟนอาร์ตของนักวาดที่ติดตามอยู่เช่นกัน ในตอนนั้นนิยายเรื่องนี้ยังตีพิมพ์รายตอนอยู่ในเว็บไซต์ เว็บไซต์ Ridibook และยังไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย ทุกครั้งที่เราเข้าเว็บไซต์นี้ในหมวด webnovel แนวแฟนตาซี จะเห็นเรื่องนี้อยู่อันดับ 1 ในชาร์ตเสมอ แม้แต่ตอนนี้เองที่เรื่องนี้ตีพิมพ์รายตอนจบแล้วก็ยังคงอยู่อันดับต้นๆ ในชาร์ตของหมวดแฟนตาซี

เซ็ตติ้งในเรื่องเป็นยุคสมัยที่สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศบนโลกค่อยๆ พังลง โดยเฉพาะระบบนิเวศทางทะเล มนุษย์ยอมแพ้ในการสำรวจอวกาศและหันมาร่วมมือกันพัฒนาสถานีใต้ทะเลแทน ตัวละครเอก ‘พัคมูฮยอน’ ทันตแพทย์ชาวเกาหลีใต้ได้เข้ามาทำงานที่สถานีใต้ทะเลนานาชาติแปซิฟิกเหนือแห่งนี้ ทว่าในวันที่ 5 ของการมาที่นี่เขากลับตื่นมาพร้อมน้ำทะเลที่ทะลักเข้ามาในห้องพัก เรื่องราวการเอาชีวิตรอดจากทะเลลึก 3000 เมตรที่อันตรายไม่ได้มีเพียงแค่ความกดอากาศที่สามารถบดขยี้ร่างกายให้กลายเป็นชิ้นเนื้อได้ แต่ยังมีความอันตรายที่มาจากมนุษย์จึงได้เริ่มต้นขึ้น

trigger warning : เลือด ศพ ความตาย ใต้สมุทร การจมน้ำ การสังหารหมู่ การเหยียดเชื้อชาติ การคุกคามทางเพศ การฆ่าตัวตาย การใช้ความรุนแรง การกักขัง ที่แคบ ความมืด

(เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาเล็กน้อย)

ในช่วงการปูเรื่องก่อนจะเกิดเหตุระทึกที่น้ำรั่วเข้ามานั้นมีจำนวน 11 บทด้วยกัน อาจจะดูเป็นจำนวนที่มาก แต่ผู้เขียนสามารถทำให้ช่วงที่น่าเบื่อที่สุดของเรื่องอย่างช่วงการปูเรื่องน่าสนใจขึ้นมาได้ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงการบอกเล่าข้อมูลของสถานีแห่งนี้หรือเรื่องราวของผู้คนที่นี่ สิ่งที่ผู้เขียนใส่มาประกอบกันเป็นข้อมูลของสถานีใต้ทะเลแห่งนี้ล้วนทำให้เห็นว่าทุกสิ่งเป็นเหตุเป็นผลกัน และผ่านการคิดของผู้เขียนมาเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การตั้งศูนย์จิตบำบัดที่โซนทะเลลึกแทนที่จะตั้งบนโซนทะเลตื้น นั่นเป็นเพราะ ทะเลยิ่งลึกมากเท่าไหร่จะยิ่งมืดและไม่ได้รับแสงสว่างมากเท่านั้น เหตุนี้อาจทำให้ผู้คนที่ทำงานที่นี่ต้องประสบกับภาวะซึมเศร้าได้ หรือจะเป็นกฎของสถานีแห่งนี้ที่ห้ามสูบบุหรี่ เพราะใต้ทะเลลึกอากาศเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพของโลกในนิยายเรื่องนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นและทำให้ผู้อ่านสามารถจินตนาการถึงความกดดันของตัวละครที่ต้องหนีจากสถานที่อันตรายเช่นนี้ได้มากยิ่งขึ้น และในช่วงการปูเรื่องนี้เองที่เป็นเวลาให้นักอ่านเตรียมตัวเตรียมใจก่อนจะได้ระทึกไปพร้อมกับตัวละคร โดยที่หลังจากบทที่ 12 เป็นต้นไปนักอ่านจะไม่ได้พักจากความรู้สึกนั่งไม่ติดเก้าอี้จากการอ่านเรื่องนี้นั่นเอง

นิยายเรื่องนี้จะใช้การเล่าแบบมุมมองบุคคลที่ 1 นั่นก็คือตัวละครเอกอย่างพัคมูฮยอน ในตอนแรกเราคิดว่าการบรรยายแบบนี้ก็เป็นเช่นเดียวกันกับนิยายที่มาจากประเทศเกาหลีเรื่องอื่นๆ อย่างเช่นเรื่อง ขอทีผมคนนี้อยากหนีจากบทพระรอง หรือเรื่อง มุมมองนักอ่านพระเจ้า แต่ความจริงแล้วเรื่องที่ยกมานั้นยังมีการบรรยายผ่านมุมมองตัวละครอื่น และยังได้รับรู้ความนึกคิดของตัวละครอื่นอยู่บ้าง ต่างกับนิยายเรื่องนี้ที่ไม่พบการบรรยายจากตัวละครอื่นเลย ผู้อ่านจะได้รับรู้เรื่องราวและการกระทำของตัวละครอื่นผ่านตัวละครพัคมูฮยอนเท่านั้น สิ่งนี้เองได้ขับเน้น plot และ genre ของเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีการเล่นเกี่ยวกับการย้อนเวลา เมื่อตัวละครหลักย้อนเวลากลับมาและผู้อ่านได้รับรู้ทุกสิ่งในมุมมองพระเจ้า ความสนุก ความตื่นเต้น และความระทึกที่จะได้จากการเอาชีวิตรอดไปพร้อมกับตัวละครก็จะหายไป ในมุมกลับกัน หากผู้อ่านได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจำกัดอยู่แค่ในมุมมองของตัวละครเอก เมื่อตัวละครย้อนเวลากลับมาแทนที่ผู้อ่านจะเบื่อและหมดความตื่นเต้นก็จะกลายเป็นเกิดความผูกพัน อยากเอาใจช่วยตัวละคร และอยากติดตามการเอาชีวิตรอดของตัวละครแทนแม้ว่าจะต้องย้อนเวลากลับมาอีกสักกี่ครั้ง นี่เองทำให้เห็นว่าการที่ผู้เขียนตั้งใจเลือกใช้การเล่าแบบนี้ได้ผ่านการคิดของผู้เขียนมาอย่างดี

ตอนนี้ที่เล่มลิขสิทธิ์ในไทยออกมาแล้ว 3 เล่ม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน เล่ม 1 และเล่ม 2 วางขายพร้อมกัน แต่ตอนจบของเล่ม 2 มีความค้างคาและทิ้งความสงสัยให้แก่ผู้อ่าน ต่างจากเล่ม 3 ที่มีการเผยปมเรื่องให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น และตอนจบไม่ได้ค้างเท่าเล่มก่อนหน้า หากไม่อยากให้อารมณ์ค้างและอยากได้ความต่อเนื่องในการอ่าน  ในตอนนี้ที่เล่ม 3 วางขายแล้วจึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากลองเปิดใจอ่านเรื่องนี้ดู

สุดท้ายพัคมูฮยอนจะสามารถขึ้นสู่แสงสว่างเหมือนสีของหน้าปกที่ทะเลค่อยๆ ตื้นขึ้น หรือจะวนกลับมากลับมาดำดิ่งสู่ทะเลลึกอันมืดมิด สามารถไปตามอ่านกันได้ทั้งแบบรูปเล่ม และ E-Book ทั้ง 3 เล่ม

ช่องทางการซื้อ E-Book : https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=332747&page_no=1https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=332747&page_no=1