เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I_Whyn Journalsi_whyn
[Book Journal] ลิ่วเหยา


  • ชื่อหนังสือ      :  ลิ่วเหยา [3 เล่มจบ]

    นักเขียน         :  Priest พีต้า

    นักแปล          :  Bou Ptrn

    ประเภท          :  Fiction - Yaoi/Danmei, Fantasy, Action

    เรท                 :  G

    tag                  :  จีนโบราณ, เทพเซียน

    Trigger           :  Death การเสียชีวิต





     คำโปรยหลังปกเล่ม 1 


    เหยียนเจิงหมิง ศิษย์พี่ใหญ่ผู้มีชาติกำเนิดร่ำรวยสูงส่ง

    เมื่อตอนอายุเจ็ดขวบ หนีออกจากบ้านแล้วถูกอาจารย์ที่เจ้าเล่ห์เพทุบายเก็บได้

    ต่อมาก็กลายเป็น 'ที่พึ่งของสำนัก' 'ผู้สนับสนุนของเจ้าสำนัก' และ 'ศิษย์เอกเปิดขุนเขาแห่งสำนักฝูเหยา'

    เขาเป็นบุรุษรูปงามที่มีผมสีดำยาวสยาย เป็นคุณชายเหยียนผู้ไม่เอาไหน เจ้าสำอาง หลงตัวเอง ปากร้าย

    จนบรรดาศิษย์น้องแอบเรียกว่า 'เจ้าแม่' แต่ในยามคับขัน เขาคือศิษย์พี่ใหญ่ที่พึ่งพาได้


    เฉิงเฉียน ศิษย์คนที่สามของสำนักฝูเหยา เป็นเด็กฉลาด ความจำดี

    มีใบหน้าน่ารักแต่เย็นชา รูปร่างเจริญเติบโตเชื่องช้าตามอายุไม่ทัน

    เขาสุขุมรอบคอบ ขยันหมั่นเพียร เห็นตนเองเป็นคนงานน้อย ข้ารับใช้น้อย...

    เพียงแต่คนในครอบครัวไม่เคยเห็นเขาเป็นบุตรชาย

    ดังนั้นเมื่อถูกขาย เขาจึงตามชายแปลกหน้าท่าทางเหมือนนักต้มตุ๋นไปจนถึงเขาฝูเหยา

    และได้พบกับศิษย์พี่ศิษย์น้อง ผู้ร่วมลิขิตฟ้า ร่วมชะตากรรม





     รีวิวเบื้องต้น 


    ลิ่วเหยาเป็นนิยายแนวบำเพ็ญเซียนที่ลงรายละเอียดการเข้าสู่มรรคาแบบถึงพริกถึงขิง ไม่ใช่แค่การกล่าวถึงหรือเป็นพร๊อพประกอบเรื่อง แต่ฉายลึกลงถึงการเติบโตของตัวละครในวิถีแห่งมรรคา

    เป็นนิยาย slow build ที่ค่อย ๆ พานักอ่านเดินไปกับช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิตตัวละคร ผ่านเหตุการณ์บีบบังคับมากมายเพื่อเติบโตขึ้น และซ่อนปมวับ ๆ แวม ๆ ให้ติดตาม

    และแน่นอนว่าความสัมพันธ์พระนายก็เป็นแนว slow burn ค่อย ๆ บ่มเพาะความรู้สึกที่ไม่มีชื่อเรียกระหว่างกัน ผ่านเหตุการณ์มากมายสู่บทสรุปลึกซึ้งแนบแน่น

    ตัวละครในเรื่องไม่ได้มีเยอะมาก แม้แต่ setting เองก็ค่อนข้างเข้าใจง่าย เรื่องราวจะค่อย ๆ พาไปรู้จักกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เอง แม้เรื่องราวจะซับซ่อนแต่มีอารมณ์ขันสอดแทรกอยู่เรื่อย ๆ

    โดยส่วนตัว เราแยกไม่ออกว่าควรจะจัดว่าเป็นแนว Slice of Life ดีหรือเปล่า (ฮา) แต่จะอธิบายมุมมองในพาร์ทสปอยล์

    โครงสร้างเรื่องมีสัดส่วนประหลาด ปูปมยาวนาน ตัดจบกลับสั้นงอ ส่วนตัวอีกเช่นกัน เราชอบเล่ม 2 และ 3 มากเป็นพิเศษ โดยภาพรวมค่อนไปทางชอบมากกว่าไม่ชอบ





    * * *


    หลังจากนี้มีสปอยล์ !!!


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - [ spoiler alert ! ] - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    เป็นบันทึกความคิดเห็นและการตีความส่วนตัว




     สำนักฝูเหยา 

    ก่อนจะลงเรื่องราว ขอแนะนำตัวละครในสำนักก่อน

    เหยียนเจิงหมิง - ศิษย์พี่ใหญ่เจ้าสำอาง  สืบทอดวิญญาณกระบี่คืนฝักอันแข็งแกร่ง ภาษาศีลคือ ขัดเกลา

    หลี่อวิ๋น ศิษย์พี่สองผู้สนใจในวิชาพิสดาร  ภาษาศีลคือ หนักแน่น 

    เฉิงเฉียน (Main Character)ศิษย์พี่สามผู้เคร่งขรึม เข้าสู่จิตปฐมด้วยจิต ครองกระบี่คมเกร็ดน้ำค้าง  ภาษาศีลคือ อิสระ (เจ้าน่ะ รู้ดีอยู่แก่ใจ คำพูดที่เหลือข้าไม่กล่าวแล้ว ข้าให้ความอิสระแก่เจ้าเป็นภาษาศีล)

    หานยวน - ศิษย์น้องสี่ที่เอาแต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ โดนวิชาวาดวิญญาณ สู่มังกรปีศาจแห่งยุค  ภาษาศีลคือ หินผา (เจ้ากระฉับกระเฉงเป็นนิสัย เสียตรงเหลาะแหละ ด้วยเหตุนี้ข้าจะให้คำว่า 'หินผา' แก่เจ้าเป็นภาษาศีล เพื่อเตือนสติเจ้า มรรคาสวรรค์ห้ามหาทางฉวยโอกาส ห้ามเย่อหยิ่งทะนงตน ห้ามจิตใจว้าวุ่น ภายหน้าต้องตั้งมั่นในความคิดจิตใจอยู่เสมอ)

    หานถาน (สุ่ยเคิง) - ศิษย์น้องหญิงที่ฟักออกมาจากไข่มาร ภาษาศีลคือ ธรรมชาติ


    อาจารย์หานมู่ชุน - อาจารย์สายตรงของศิษย์ทั้งห้าข้างต้น

    ปรมาจารย์ถงหรู - อาจารย์ของหานมู่ชุน เป็นปรมาจารย์แห่งยุคก่อนที่กระทำความผิด เดินวิถีมาร ต้นกำเนิดเรื่องราวมากมายในภายหลัง

    เจี่ยงเผิง - ลูกศิษย์คนแรกของถงหรู ศิษย์พี่ของหานมู่ชุน เข้าสู่มรรคาปีศาจ ถือตะเกียงกัดกร่อนวิญญาณ


    ที่ต้องมาใส่ไว้หลังสปอยล์ เพราะกว่าเนื้อเรื่องจะเฉลยว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไรไว้ก็นานมาก ๆ เหมือนเป็น RC ระหว่างทาง


    ..เรื่องนี้ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายแล้ววนอยู่ที่สำนักฝูเหยานี้เอง..



     ชำระสำนัก 


    เล่ม 1 หน้า 245 ผู้บรรลุมู่ชุนกล่าวกับเฉิงเฉียน

    "ผู้มีโทษมิอาจอภัย ต้องให้สหายร่วมสำนักชำระสำนักด้วยตัวเอง... 
    นี่คือสาเหตุที่สำนักเรา มีศิษย์ทรยศมาก แต่ยังคงมีที่หยัดยืนในหมู่เซียน"



    ที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ว่าตลอดเวลาที่อ่าน เราสงสัยมาตลอดว่าปมของเรื่องคืออะไรกันแน่ เหมือนนักเขียนไม่ได้แง้มมาให้เรารู้เลย (อาจจะเป็นเรามองไม่ออกก็ได้ - ฮา, แต่นี่เป็นอุปสรรคต่อการอ่านของเรามาก ๆ ไม่พูดถึงภาษาแปลซึ่งมีคนพูดไปเยอะแล้วละกัน) ก็เลยคิดว่า อาจจะเป็นแค่ Slice of Life การเติบโตของตัวละครเฉย ๆ ?

    แต่จนกระทั่งอ่านถึงตอบจบ (!!!) 
    เราถึงเพิ่งจะเข้าใจว่า เส้นเรื่องทั้งหมดของเรื่องนี้ มุ่งสู่การ ชำระสำนัก นั่นเอง !!!

    ฝูเหยาเป็นสำนักเซียนลึกลับที่มีภารกิจซ่อนเร้นคือการเฝ้าหุบปีศาจในใจ กับภูมิหลังประวัติศาสตร์อันโชกโชนของบรรพบุรุษรุ่นก่อน ๆ ที่เดินบนมรรคาปีศาจ จนต้องให้ศิษย์ในสำนักคอยแก้ไข

    ตั้งแต่ต้นเรื่อง มีการพูดถึงเหตุผลที่สำนักฝูเหยายังคงอยู่ได้ แม้ว่าฝูเหยารุ่นต่อรุ่นจะบังเกิดมาร/ปีศาจ แต่สุดท้ายแล้วก็จะมีศิษย์ที่มาชำระสำนักและสืบทอดสำนักต่อไปนั่นเอง


    ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์ถงหรูทะลายจิตของเจี่ยงเผิงในตะเกียงกัดกร่อนวิญญาณ

    อาจารย์หานมู่ชุนฝังจิตปฐมของปรมาจารย์ถงหรูด้วยวิญญาณของตัวเอง

    หรือการที่เฉิงเฉียนและเหยียนเจิงหมิงยกหินสารพัดนึกกลับสู่แท่นไม่เสียใจในตอนจบ..


    นี่กลับเป็นเป้าหมายของเรื่องราวทั้งหมด ?!?


    เราก็ไม่แน่ใจว่าเราเข้าใจถูกมั้ย แต่พอค้นพบจุดนี้ กลับรู้สึกว่าฟันเฟืองที่ฝืดเคืองค่อย ๆ ขยับไหวและเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดได้..ในที่สุด....



    ถึงกลับต้องไปอ่านเล่มหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมารู้สึกยืดย้วยเข้าใจไม่ได้ ใหม่อีกรอบหนึ่ง....





     'ตกตาย' กับ 'เหินหาว' มีอันใดแตกต่างหรือ? 


    เล่ม 3 หน้า 370 เสียงในใจเฉิงเฉียน


    "หมื่นพันความคิดไม่จำเป็นต้องเอ่ยชัด 

    เจ้าก็คือชะตาผูกมัดที่แข็งแกร่งจนมิอาจทำลายในโลกิยะของข้าแล้ว" 



    ปุถุชนหันเข้าหาวิถีแห่งเซียน ละทิ้งโลกิยะ ไม่ใช่เพื่อเหินหาวสู่มรรคาสวรรค์หรอกหรือ?


    มรรคาสวรรค์คือสิ่งใด

    ความอมตะแท้จริงคือสิ่งใด


    มหามรรคาไร้รูป ไร้รัก ไร้นาม 

    ยังนับว่ามีชีวิตหรือ?

    (เล่ม 3 หน้า 369)



    ปมเรื่องราวทั้งหลายในนิยาย ไม่ใช่ว่าเกิดจากการแสวงหาความเป็นอมตะ สุดท้ายกลับตกตายกันไปทั้งหมด?


    เราเข้าใจว่าแก่นของเรื่องนี้ คือการสะท้อนชีวิตของผู้คน และเปรียบเทียบกับมรรคาสวรรค์?

    เหมือนสุดท้ายนักเขียนตั้งคำถามว่า ชีวิตที่แท้จริงคือชีวิตแบบไหน


    ตัวละครเหยียนเจิงหมิง แต่แรกเริ่มก็คือวัตถุนิยมคนหนึ่ง รักสบาย เอาแต่ใจ ใช้ชีวิตหรูหราอวดเบ่ง หนักไม่เอาเบาไม่สู้ แต่เพราะเหตุการณ์บีบคั้น จึงยอมเติบโตขึ้นมาเล็กน้อย ข่มกลั้นความเอาแต่ใจไว้ลึก ๆ แต่ความดื้อดึงนี้เองที่ทำให้เข้าสู่วิญญาณกระบี่รวดเร็วกว่าผู้ใด?


    ในขณะที่เฉิงเฉียนที่แต่เริ่มเคร่งขรึมขวานฝ่าซาก ไม่ยินดียินร้ายต่อชีวิตและผู้คน กลับเติบโตมาเพื่อที่จะรู้สึก 'ผูกพัน' อย่างลึกซึ้งกับใครสักคน?


    ปรมาจารย์ถงหรูที่เข้าสู่บาดาลเหนือ ยินยอมละทิ้งมรรคาสวรรค์เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่เอาไหนคนหนึ่ง?


    หากตายโดยไม่เสียดายได้ ก็นับว่าเหินหาวแล้วกระมัง

    (เล่ม 3 หน้า 377)



    เผิงท่องหมื่นหลี่


    เสาะหาทั่วแดน


    ไม่เป็นดังหวัง


    รุ่งเรืองเสื่อมถอย


    คืนสู่สัตย์จริง



    อนิจจา ชีวิตก็แค่นี้...






    [End]


    ภาพ Cover มาจาก Radio Drama (ภาพสวยมาก)



    เช่นเดิม


    เขียนในสิ่งที่เข้ามากระทบความคิด ฉุกใจอะไรก็ต่อยอด 

    เป็นความคิด ณ วันนี้ พรุ่งนี้อาจเปลี่ยนแล้ว



    สิงหาคม 2564




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in