เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Love story at 35,000 ftIfIStay
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Chapter 10
  • ก๊อกๆๆๆ…

    เรย์เปิดประตูห้องก็พบผู้หญิงคนนึงยินถือช่อดอกไม้ช่อหนึ่งรออยู่

    “คุณฟุรุยะใช่มั้ยคะ?”

    “ค่ะ ดิฉันเอง”

    “มีคนฝากไว้ให้คุณค่ะ เขาฝากบอกอีกด้วยว่า วันนี้ตั้งใจทำงานด้วยนะคะ”

    “อ่อค่ะ ขอบคุณค่ะ”

    เรย์รับช่อดอกไม้นั้นมา เธออ่านข้อความบนการ์ด “The Catcher in the Rye” 

    (แปลเป็นชื่อไทยคือ จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น นวนิยายขายดีตีพิมพ์ปี 1951 ผลงานของ J.D. Salinger ติดอันดับ Best-loved American novels ของศตวรรษที่ 20 อ้างอิงจากเว็บไซต์ theguardian) 

    ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าใคร... 

    เมื่อวันก่อนที่เกิดเรื่องขึ้น เขาก็พยายามทำทุกอย่างให้เธอไม่เครียดหรือกังวล แม้จะดูกวนประสาทไปหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดี คิดแล้วก็แอบยิ้มกับตัวเอง เขาดูแลเธอดีขนาดนี้คงต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว 

    เรย์มาบินด้วยความเบิกบานใจเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่เพิ่งเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แต่เธอกลับรู้สึกมีความสุขและอุ่นใจที่ได้อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกับเขา

    หลังจบไฟล์ท อากาอิถามเรย์ว่า

    “คุณจะเข้าบริษัทมั้ย?”

    “ค่ะ ฉันว่าเข้าไปคุยเลยดีกว่า แล้วคุณล่ะคะ? จะไปด้วยกันมั้ยคะ?”

    เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่บริษัทจะต้องเรียกพบลูกเรือในไฟล์ทอยู่แล้ว เรย์คิดว่าคงเป็นการดีกว่า ถ้าเธอเข้าไปรายงานตัวที่บริษัทถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองก่อน

    “ไปเลยก็ได้ครับ คุณไปยังไง?” 

    “ว่าจะไปรถบัสบริษัทค่ะ คุณล่ะ?”

    “ไปกับผมก็ได้นะ ผมเอารถมา”

    “งั้นรบกวนด้วยนะคะ”

    “ยินดีครับ”

    ระหว่างทาง เรย์คิดว่าทุกคนคงเม้าท์เรื่องที่เธอถูกลวนลามบนไฟล์ทเป็นแน่แท้ เธอคงต้องตอบคำถามเรื่องนั้นหลายรอบแน่ๆ แต่พอมาถึงบริษัท talk of the town กลับเป็นหัวข้อที่เธอกับอากาอิคบกันแทน

    พอเห็นสายตาหลายคู่มองมาทางเธอ เรย์ก็รู้สึกแปลก แต่แล้วก็มีมือใหญ่อันแสนอบอุ่นมากุมมือเธอไว้ ท้าทายสายตาทั้งหลายที่มองมา

    “ไม่เป็นไรนะ”

    อากาอิส่งสายตาพร้อมรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้ แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปติดต่อกับส่วนงานของตัวเอง

    พวกเขาเขียนรายงานกันหลายหน้ากระดาษ บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วส่งให้แผนกที่รับผิดชอบการสอบสวนดำเนินการต่อไป

    --------------------------------------------

    “เป็นยังไงบ้างครับคุณเจ้าของร้าน วันนี้เหนื่อยมั้ย?”

    อากาอิเดินเข้าร้านกาแฟมา ตอนนี้ใกล้เวลาปิดร้านแล้วจึงไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไร เขานั่งลงตรงเคาท์เตอร์ตรงข้ามกับเธอพอดี

    “เฮ้อออ เหนื่อยมากเลยค่ะ แต่ก็สนุกดี”

    “ขอบคุณมากนะคะที่วันนี้อุตส่าห์มาช่วยช่วงกลางวัน ดูท่าทางลูกค้าสาวๆ จะชอบคุณมากเลยนะคะ สนใจมาทำพาร์ทไทม์ที่นี้มั้ย?”

    เรย์ส่งยิ้มกวนๆ ให้เขา 1 ที

    "ค่าจ้างเป็นอะไรดีครับ?”

    “แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะคะ?”

    “อยากได้คุณ”

    พูดไม่พูดเปล่า ดันยื่นหน้ามาใกล้ๆ เธออี๊กกกกก เรย์ทำตาเบิกโพลง กัดปากจนเป็นเส้น เหมือนคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ไม่ใช่ว่าเธอปฏิเสธเขาหรอกนะ แต่นี่มันในร้านกาแฟ!!! แถมอาซึสะก็อยู่หลังร้านอีก มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะเท่าไรเลย

    “ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่า”

    “คุณหัวเราะอะไรน่ะ?”

    “คุณทำหน้าตลกจัง” ชายหนุ่มยังหัวเราะต่อไปเรื่อย

    “คุณแกล้งฉันใช่มั้ยเนี่ย?” 

    ‘ฮึ่ยยยยย โกรธ!!! งอน!!! ไม่คุยด้วยแล้วตาบ้า!!!’

    เธองอนตุ๊บป่องๆ ทำเสียงดังปึงปัง ไม่มองหน้าเขาอีกเลย ส่วนคนขี้แกล้ง เหมือนจะรู้ตัวเลยตามมาง้อถึงในเคาท์เตอร์

    “นี่ คุณ ไม่งอนหน่าาาา”

    เรย์ไม่ตอบ ปากยังคงเบ๊ะอยู่

    “พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันมั้ย?”

    “...”

    “ไปดิสนีย์แลนด์กัน”

    “...”

    เรย์ไม่ตอบ แต่ชะงักไปนิดนึง 'อยากไปอ่ะ ไม่ได้ไปนานแล้ว' แต่ต้องสงวนท่าทีไว้ก่อน เดี๋ยวคนตัวโตจะได้ใจ

    “เดี๋ยวผมไปรับที่ห้องตอนเช้านะ”

    เขาสวมกอดเธอจากด้านหลัง เอาคางมาเกยมาหัวไหล่มนของเธอ 

    “อย่าโกรธผมเลยนะครับ... เรย์… เรย์จัง...”

    เขาขโมยหอมแก้มเธอ 1 ฟอดใหญ่ๆ จากนั้น ค่อยประคองดวงหน้าสวยหวานมารับจุมพิตของเขา หวังปัดเป่าความขุ่นเคืองในใจของสาวเจ้าหายไป

    “อะ… เอ่อ… คือ…”

    ทั้งสองสะดุ้งโหยง ผละออกจากกันทันที

    “ค...ค่ะ คุณอาซึสะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

    “วันนี้งานเสร็จแล้ว ฉันขอกลับก่อนนะคะ ขอโทษที่รบกวนค่ะ” 

    ตอนนี้อาซีสะหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน พอพูดจบเธอก็วิ่งจู๊ดออกจากร้านไปทันทีโดยไม่รอคำตอบจากเจ้านายเลย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in