เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DEFENDER คืนล้างโลกSamanthachiew
RIVER & THE LAST DEFENDER.


  • ฆ่ามัน!

    กำจัดมันทิ้งเสีย!

    นางแม่มด!


    ริเวอร์ลืมตาขึ้น เมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากทางนอกตัวบ้าน สติค่อยๆกลับเข้าร่างของเขาทีละนิด จนกระทั่งรับรู้ได้ในที่สุด ว่ามันคือเสียงเดียวกันกับคนที่พยายามจะฆ่าเขาทิ้งเมื่อวาน

    พวกเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นกลับมาที่นี่อีกครั้ง!

    ริเวอร์รีบขยับตัว ชันตัวขึ้นมาจากพื้นไม้อันเย็นเชียบ แล้วมองหาร่างของอัลบาในความมืดสลัว หากแต่ภายใต้ผืนผ้าห่มนี้ กลับปราศจากร่างของเธอ

    โครม!

    เสียงกระแทกดังขึ้นอย่างสั้นๆ และรุนแรงท่ามกลางความเงียบสงัด

    ริเวอร์นิ่งชะงัก ก่อนจะรีบขยับตัวในทันทีที่ได้ยินเสียงร้องตื่นตกใจ และเสียงโต้เถียงกันของกลุ่มคน! เด็กหนุ่มลุกขึ้น โผวิ่งออกไปสู่ภายนอก ดวงตาคู่โตเพ่งมองผ่านความมืดอย่างร้อนรน ก่อนจะมองเห็นร่างของอัลบาที่ค่อยๆล้มลงพื้น

    ริเวอร์ปราดวิ่งเข้าไปโอบกอดร่างของอัลบาไว้แน่น ตื่นตกใจกับหยาดเลือดสีแดงเข้มที่ไหลอาบไปทั่วท้ายทอย และลำคอของเธอ

    ริเวอร์พยายามกดบาดแผล และห้ามเลือดที่ไหลทะลักออกมา หากแต่มันก็ไม่เป็นผล -- ยิ่งเขาพยายามมากเท่าไหร่ ฝ่ามือของเขาที่ประคองศีรษะเธอเอาไว้ก็ยิ่งอาบท่วมไปด้วยเลือดสีแดงฉานมากขึ้นเท่านั้น

    ริเวอร์จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเรียวเล็กตรงหน้า มองตอบสายตาที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ -- แวบหนึ่งเขาได้ยินเธอกระซิบบอกอะไรบางอย่างกับเขา ริมฝีปากบางที่เผยอออกนั้น เปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา จนแทบจะปลิวหายไปกับสายลม

    เด็กหนุ่มก้มหน้าลงเข้าไปใกล้เธอ ฟังถ้อยคำกระซิบนั่น -- 

    เธอพูดมันออกมาอย่างสั้นๆด้วยรอยยิ้มอันเบาบาง -- จากนั้นดวงตาสีน้ำตาลก็ค่อยๆลอยเคว้งไป 

    ริเวอร์จ้องมองใบหน้าอันขาวซีดที่ค่อยๆว่างเปล่า จนกระทั่งแน่นิ่งไปในอ้อมแขนเขา


    เธอจากเขาไปแล้ว


    สำนึกนั้นราวกับจะทำลายจิตใต้สำนึกของเขาให้พังทลายลง พริบตานั้นริเวอร์สูญสิ้นการควบคุมตนเอง เด็กหนุ่มตะเบ็งเสียงออกมาดังลั่น -- อย่างรุนแรง และยาวนาน -- ราวกับว่ามันดังออกมาจากก้นบึงของใจก็ไม่ปาน

    การสูญเสียคนที่รักเขาคนเดียวที่มีอยู่ ทำให้ประตูบางอย่างในตัวเขาพังทลาย และถูกเปิดออกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

    ทันใดนั้น เขาก็ลุกขึ้นมาจากพื้นดินโคลน หมุนตัวมาเผชิญหน้ากับชายทั้งห้าที่แตกตื่นไปกับท่าทีของเขา -- ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่จ้องมองพวกเขามานั้นเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ และความเคียดแค้น ท่าทีอันนิ่งเฉยก่อนหน้า แปรเปลี่ยนเป็นความดุร้าย และดูน่าสะพรึงกลัวในพริบตา!

    ริเวอร์เดินตรงไปทางพวกเขาอย่างช้าๆ -- ไม่เร่งรีบ --

    หากแต่ความดำมืดที่ปรากฏขึ้นในแววตาสีเขียวคู่นั้นกลับชัดเจน จนชายทั้งห้าสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่กำลังย่างกรายเข้ามา

    แวบนั้นพวกเขาสัมผัสได้ถึงปิศาจร้ายที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

    ฉับพลันนั้นริเวอร์ก็เร่งฝีเท้า โผกระโจนเข้าใส่เอ็ดการ์เข้าเต็มแรง!

    มัดกล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาแข็งแรงทรงพลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เสียหลักล้มลง แม้ว่าชายร่างใหญ่จะออกแรงฟาดเขาด้วยท่อนไม้แรงเพียงใด หรือพยายามกระชากร่างเขามากเท่าใดก็ตาม

    ริเวอร์แผดเสียงดังลั่น เสียงทุ้มต่ำก้องกังวานไปทั่วทั้งชายแดนป่า  ใบหน้าอันขาวซีดแหงนเงยขึ้น เผยให้เห็นคมเขี้ยวที่งอกขึ้นมา และเส้นเลือดสีดำที่ปูดโปนไปทั่วทั้งใบหน้า แววตาสีเขียวดูเหี้ยมเกรียมขึ้น ราวกับดวงตาของสัตว์ปิศาจที่ไร้ซึ่งความเป็นคน!

    เด็กหนุ่มทั้งสี่ต่างผวาไปกับภาพที่เห็น สองเท้าก้าวถอยหนี พร้อมกับเปล่งเสียงร้องโหยหวนออกมากับภาพที่เห็น

    ช่วยด้วย!! เอ็ดการ์ร้องลั่น เมื่อถูกกรงเล็กฝังลึกลงไปในลำคอของตนเองช่วยฉันด้วย!!

    หากแต่ไม่มีใครกล้าขยับตัวเข้าไปใกล้

    วินาทีนั้นริเวอร์ไม่ได้ยินเสียงอะไรอื่นอีก ทั้งหมดที่เขาต้องการได้ยินและเห็น คือชิ้นเนื้อและคราบเลือดของชายคนนี้เท่านั้น!!!

    เขาไม่ปรารถนาอะไรอื่นอีก นอกจากความตาย และจุดจบของบรรดาผู้คนที่น่ารังเกียจเหล่านี้!!

    ตาย!!!

    ตายไปเสีย!!!

    ริเวอร์คำรามลั่น ออกแรงบีบลำคอของชายเบื้องล่างตนเองแน่น -- เรี่ยวแรงมหาศาลพลันระเบิดออกมาจากภายในร่างของเขา ทรงพลัง และรุนแรง ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด!  ยิ่งใบหน้าอัปลักษณ์ของชายคนนั้นแดงก่ำ และสั่นเทิ้มมากเท่าใด เขาก็ยิ่งออกแรงได้มากขึ้นเท่านั้น!

    ริเวอร์แสยะยิ้มออกมา พอใจกับภาพที่เห็น

    มันทำให้เขารู้สึกมีพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลถลอกของริเวอร์บิดเบี้ยวไปด้วยเพลิงแค้น จนแทบจะกลายเป็นคนละคนกับเด็กหนุ่มคนเมื่อวาน คนที่ไม่ต่อสู้ขัดขืนใดๆ นิ่งเฉยแม้ว่าจะถูกทำร้าย หรือแม้แต่ถ่วงน้ำด้วยก้อนหินสู่ก้นแม่น้ำลึก -- เด็กหนุ่มคนที่ไม่ต่อสู้กับใคร แม้ว่าจะกำลังเผชิญหน้ากับความตายคนนั้น --

    พริบตานั้นเส้นกั้นบางๆระหว่างเงามืด และแสงสว่างในตัวริเวอร์ได้ขาดสะบั้นลง และถูกทำลายจนกลายเป็นเพียงซากปรักหักพังในก้นบึงหัวใจอันดำมืด

    เขากลายเป็นคนอีกคนไปแล้ว

    เขากลายเป็นสิ่งที่โหดร้ายมากกว่านั้นไปแล้ว

    ปิศาจ! บรรดาเด็กหนุ่มกรีดร้อง เข่าอ่อนจนแทบจะล้มทรุดลงบนพื้น มันคือปิศาจร้ายจริงๆอย่างที่พวกเขาบอก!!!

    วินาทีนั้น ริเวอร์รู้สึกราวกับถูกฟาดด้วยท่อนไม้เข้าที่กลางหน้า

    ร่างทั้งร่างนิ่งชะงัก -- รู้สึกด้านชาไปชั่วขณะ ราวกับกะโหลกศีรษะได้แตกกระจาย และอารมณ์ที่ระเบิดออกมานั้นได้มลายหายไปจากตัวของเขา --

    ความรู้สึกนึกคิดที่คุ้นเคยได้กลับเข้ามาในโสตประสาทของเขาอีกครั้ง

    ริเวอร์ -- เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น -- เด็กหนุ่มหอบหายใจ นิ่งฟังเสียงนั้น ก่อนจะรับรู้ได้ว่ามันคือเสียงของตัวเขาเอง

    ริเวอร์ --

    ริเวอร์เบิกตาโพลง จ้องมองใบหน้า และลำคอหนาของเอ็ดการ์ที่เป็นแผลเหวอะ และอาบไปด้วยเลือด -- เขากะพริบตาสองสามครั้ง ก่อนที่จะมองเห็นภาพรอบตัวชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

    เด็กหนุ่มร่างยักษ์ทั้งสี่ร้องไห้ และล้มทั้งยืน สภาพดูอ่อนปวกเปียกราวกับเป็นเด็กเล็กที่ไร้ที่พึ่ง -- ความกล้าอันน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ทำให้พวกเขาออกแรงคลานมาตามพื้นดิน และช่วยกันลากร่างของเอ็ดการ์กลับไป พยายามถอยห่างออกมาจากริเวอร์ให้เร็วที่สุด

    ริเวอร์ชันตัวลุกขึ้นมาจากดินโคลน จ้องมองร่างของเอ็ดการ์ที่ใกล้หมดสติ และบรรดาเด็กหนุ่มที่มองเขามาด้วยสายตาตื่นกลัว ก่อนจะมองไปตามฝ่ามือของตนเองที่เปื้อนไปด้วยเลือด และเศษชิ้นเนื้อ

    พลันเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาว่า

    กลับมา ริเวอร์ -- คราวนี้มันเป็นเสียงของอัลบา

    เสียงนั้นคล้ายจะปลอบประโลมให้เขาสงบขึ้น

    ลมหายใจของริเวอร์ค่อยๆดังเบาลง และช้าลง จนเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ -- สติสัมปชัญญะที่กลับมาทำให้เขารับรู้ถึงการมีตัวตนที่แท้จริงของตนเองอีกครั้ง -- เสียงกรีดร้องคำราม และอารมณ์อันรุนแรงที่ไร้การควบคุมนั้นหายไปในพริบตา

    ตอนนั้นเองที่ริเวอร์ได้ยินเสียงกระซิบสั่งเสียของอัลบาดังขึ้นมาอีกครั้ง 

    ริมฝีปากบางที่เผยอออก แล้วค่อยๆเปล่งเสียงออกมานั้นเอ่ยกับเขาว่า อย่าลืมสัญญา

    ลมหายใจของริเวอร์ขาดห้วงไปชั่วขณะ -- คำสั่งเสียของอัลบาทำให้เขาได้ยินคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอดังก้องกังวานขึ้นมาอีกครั้ง


    สัญญาว่าเธอจะไม่ลืมเรื่องราว เธอจะจดจำพ่อและแม่ของเธอ จดจำเรื่องราวของพวกเขา และจดจำการมีอยู่ของตัวเอง

    สัญญาว่าเธอจะไม่ลืม สัญญาว่าเธอจะเชื่อในความจริงนี้ด้วยความเชื่อทั้งหมดที่เธอมีในตัวเอง  ริเวอร์


    ริเวอร์หลับตาลงแน่น หวนนึกถึงทุกสิ่งอย่างที่กลายเป็นความทรงจำอันดำมืดของตนเอง --


    เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เธอจะไม่เหลืออะไรอีกเลย

    แม้แต่ตัวตน และการมีอยู่ของตัวเอง --


    เขาผ่านการทดสอบ -- ริเวอร์บอกตนเอง -- เขาไม่ได้สูญเสียความเป็นมนุษย์ให้กับใครทั้งนั้น

    เขาไม่ได้แลกการเสียสละของพ่อแม่ ให้กับความเดรัจฉานในตัวเอง

    ริเวอร์สูดลมหายใจเข้าลึก ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วมองดูชายทั้งห้าที่เริ่มวิ่งหนีเขาไปยังความมืดของชายแดนป่า

    พลันเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมกับแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน -- สั่นไหวรุนแรงมากขึ้น และชัดเจนยิ่งขึ้น จนทั้งริเวอร์และชายทั้งห้าต่างหยุดนิ่ง แล้วมองสำรวจไปรอบตัว

    เสียงนั้นดังยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ -- ยิ่งใกล้เข้ามามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดังก้องกังวานมากยิ่งขึ้น ราวกับมาจากที่สูงสักแห่ง โอบล้อมและปิดกั้นพวกเขาเอาไว้ไม่ให้มีทางหนีอื่นใดๆอีกต่อไป

    “เกิดอะไรขึ้น!!!” เอ็ดการ์และเด็กหนุ่มทั้งสี่ร้องออกมาอย่างตื่นกลัว ในขณะที่หันมองไปรอบตัวอย่างขวัญผวา “เสียงอะไรกัน!!!”

    วินาทีนั้นริเวอร์ก็รับรู้ได้ ว่ามันคือแรงสั่นสะเทือนเดียวกันกับที่อัลบาเคยสัมผัสได้มาก่อน

    มันสั่นสะเทือน -- อัลบาเคยพูดไว้เช่นนั้น


    ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยมีเหตุผลของมันเสมอ


    แล้วเมื่อเสียงกระซิบของอัลบาเลือนหายไปจากสตินึกคิดของเขา ริเวอร์ก็ได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน

    คลื่นยักษ์ที่สูงพ้นยอดไม้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา และมันกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และน่าเกรงขาม -- ริเวอร์ไม่ได้ยินเสียงใดๆอีกต่อไป นอกจากเสียงคลื่นน้ำที่ดังสนั่น และเสียงกระแสลมอันรุนแรง

    ท่อนไม้ และก้อนหินพัดปลิวไปตามแรงลม ผิวน้ำจากแม่น้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

    เสียงกรีดร้องของชายทั้งห้าแว่วดังขึ้นมากับกระแสลมพายุนั่น -- และไม่นานนัก ริเวอร์ก็ไม่ได้ยินเสียงพวกเขาอีก ไม่แม้แต่เห็นเงาของร่างพวกเขา

    ริเวอร์ตระหนักได้ว่าตนกำลังยืนอยู่เพียงลำพัง ปราศจากอัลบา ปราศจากเรื่องเล่าของเธอ และปราศจากความทรงจำในอดีตทั้งหลาย

    ไม่มีอีกแล้วเงามืด และเสียงเกลียดชังทั้งหลาย

    ไม่มีแม้แต่โรคร้าย และความอดอยาก


    มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น


    ริเวอร์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่วิ่งหนี หรือแม้แต่ขยับถอยสักก้าว  -- เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของพ่อเขามาก่อน จนในที่สุดก็พบสิ่งที่ต้องการ

    มันคือยาสูบมวนหนึ่ง

    แม้จะไม่เคยสูบมาก่อน หากแต่ริเวอร์ก็ยกมันคาบไว้ที่ริมฝีปาก

    เขาจุดยาสูบอย่างช้าๆ สูบมันเข้าเต็มปอด -- ก่อนที่จะเฝ้ามองคลื่นยักษ์ที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ตรงหน้า

    จากนั้นคลื่นยักษ์ที่สูงเทียมฟ้าเข้าโอบล้อมเขาจากทุกด้าน กวาดต้นหญ้าทุกต้นหายเข้าไปในเกลียวคลื่น และเคลื่อนใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว จนริเวอร์รู้สึกเหมือนเป็นเพียงมดตัวเล็กๆที่พร้อมจะถูกบดขยี้ 

    ริเวอร์ปล่อยยาสูบลงกับพื้น และดับมันด้วยปลายเท้า 

    เฝ้ามองคลื่นยักษ์ที่เข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงอันดังสนั่น

    แล้วในที่สุดมันก็ปะทะร่างเขาอย่างแรง แรงกระแทกนั่นราวกับจะดับทุกสตินึกคิด แล้วจากนั้น ทุกอย่างก็ดับมืดไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in