เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DEFENDER คืนล้างโลกSamanthachiew
CALEB & THE SHADOW.

  • คืนนั้นฉันตั้งใจฆ่า -- อย่างเจตนา และอย่างไม่ลังเล --


    เคเลบพูดประโยคนั้นออกมา ได้ยินเสียงตนเองดังชัดเจน ราวกับว่ามันก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง ทั้งๆที่มันอาจจะดังไม่เกินไปกว่าเสียงกระซิบเท่านั้น

    เขามองใบหน้าอันขาวซีดตรงหน้า และพูดต่อไปโดยไม่หลบสายตาอีกฝ่ายว่า “ไม่มีคืนไหนที่ฉันลืมว่าฉันได้ทำอะไรลงไป” เคเลบสูดลมหายใจเข้าลึก

    “ไม่มีคืนไหนที่ฉันลืม --”

    นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนของชายคนนี้ในเงามืดมาโดยตลอด -- รู้สึกราวกับว่ามีใครสักคนลอบมองมาจากมุมมืด ไล่ทันความคิดของเขา และรับรู้ได้ถึงความลับอันดำมืดที่เขาพยายามเก็บซ่อนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดในใจ

    การมีอยู่ของชายคนนี้ ทำให้อดีตตามมาหลอกหลอนเขาทุกค่ำคืน

    เคเลบมองดูบาดแผลตามเนื้อตัวอีกฝ่าย -- ไล่สายตาไปตามเนื้อหนังที่เป็นแผลเหวอะ รอยกัดลึกที่ลำคอ และกระดูกที่แหลกสลายเกือบทั้งร่าง ไปจนถึงกะโหลกที่ยุบผิดสัดส่วนนั่น

    เคเลบจ้องมองอยู่นาน ราวกับทุกรายละเอียดกำลังฟื้นคืนกลับขึ้นมาจากในอดีต -- ดวงตาสีดำเข้มยังคงไม่ละสายตาไปจากร่องรอยของบาดแผลตรงหน้า ที่เขาจดจำได้ว่าอยู่บนตัวของริเวอร์ ในครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเช่นกัน --

    บาดแผลเดียวกันกับที่เขาเคยสร้างเอาไว้บนผิวเนื้ออ่อนนั่นด้วยท่อนไม้ และกระบอกปืน -- เคเลบหยุดสายตาที่รอยกระสุนข้างขมับอีกฝ่าย

    “ฉันจะลืมได้อย่างไร” เคเลบกระซิบ “นายคือฉัน และฉันคือนาย -- และริเวอร์ก็คือลูกของเรา จริงไหม”

    ยิ่งมองนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเห็นสิ่งที่ทำกับลูกตัวเองมากขึ้นเท่านั้น -- ยิ่งเห็นตราบาปตัวเองมากขึ้นเท่านั้น --

    ยิ่งทำให้เขาเห็นริเวอร์มากขึ้นเท่านั้น

    เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง --

    ราวกับว่าช่วงเวลาในอดีตจะตามมาหลอกหลอนชายทั้งสองอีกครั้ง เคเลบดำดิ่งไปกับฝันร้ายในความทรงจำ ในขณะที่ชายร่างสูงคล้ายจะบันดาลโทสะมากขึ้นเรื่อยๆ

    จนในที่สุดความอดทนนั้นก็หมดลง กำปั้นสีแดงตะปุ่มตะป่ำของชายร่างสูงหวดเข้าที่สันกรามของเคเลบอย่างรุนแรง ใบหน้าอันอัปลักษณ์ของเขาราวกับจะบิดเบี้ยวผิดรูปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม  ชื่อของลูกชายที่ถูกเอ่ยถึงขึ้นมานั้น ราวกับจะจุดเพลิงโทสะให้ระเบิดขึ้นภายในตัวเขาจนแทบมอดไหม้

    ริเวอร์

    “แกทำให้เราทุกข์ทรมาน!!!” ร่างสูงคำรามลั่น “แกฆ่าเขาทำไม!!!”

    เคเลบปล่อยให้ร่างตนสั่นคลอนไปกับแรงกระแทกนั่น ดวงตาสีดำจ้องมองไปยังเงาสะท้อนตรงหน้าต่างที่แตกร้าว มองเห็นร่างของตนเองสั่นเทิ้มอยู่เพียงลำพังในห้องเล็กแห่งนี้ -- ปราศจากร่างสูงของชายตรงหน้า และปราศจากใบหน้าที่บิดเบี้ยวนั่น

    เขาในตอนนี้ดูน่าสมเพช โดดเดี่ยว และทุกข์ทรมาน --

    ภายใต้ท่าทีอันนิ่งเฉยนั้น ดวงวิญญาณของเขากลับแหลกสลายจนใกล้ดับสูญ -- สุดท้ายแล้วนั้น เขาก็ไม่ได้เป็นอะไร นอกจากชายสูงวัยที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างแสงจันทร์ และเงามืดอย่างเพียงลำพัง

    “แกรู้ว่าแกทำอะไรลงไป” ชายในเงามืดคำราม “แกรู้ความจริง ว่าริเวอร์ยังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่  เขาถึงถูกปิศาจร้ายนั่นกัดซ้ำสองได้! แต่แกก็ไม่กล้าพอที่จะไว้ชีวิตเขา! แกมันขี้ขลาด  เป็นพ่อที่อ่อนแอ เป็นสามีที่ล้มเหลว! --”

    ใจของเคเลบสั่นสะท้านไปกับคำพูดอันรุนแรงนั่น

    “แกทำให้เขาไม่ได้บอกลาเธอ -- แกไม่ได้บอกเธอ” ชายในเงามืดคำรามรอดไรฟัน “แกโกหกแมรี่โกลด์! แกบอกเธอว่าลูกแกจมน้ำ แกโกหกว่าการตายของเขามันไม่ใช่เพราะแก!!! ทั้งๆที่แกคือฆาตกรที่ฆ่าลูกตัวเอง!!!

    ร่างสูงนั้นคล้ายจะโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้น

    “แกไม่ได้บอกแมรี่โกลด์  แกไม่ได้บอกเธอว่าแกฆ่าเขาทิ้งกับมือตัวเอง แกไม่กล้าเล่าความจริงให้เธอฟังว่าแกฆ่าลูกในไส้ไปด้วยน้ำมือของตัวเอง!!” เขาตะคอกลั่นไปทั่วทั้งห้อง และตอนนี้ ฉันคือตราบาปของแก คือฝันร้ายที่แกเห็นในตอนลืมตาตื่น คือนรกที่แกหนีไม่พ้นในยามหลับไหล!!! แกทำแบบนั้นทำไม!!! แกทำให้เราต้องตกนรกทั้งเป็นแบบนี้ทำไม!!!

    คำพูดอันรุนแรงนั่นตอกย้ำเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเคเลบ

    ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ดูเหมือนจริงมากยิ่งขึ้น จนเขาแยกแยะระหว่างความจริงกับจิตใต้สำนึกตนเองไม่ออกอีกต่อไป

    หากแต่คำพูดเหล่านั้นถูกต้องทุกอย่าง ราวกับดังมาจากก้นบึงในใจเขาก็ไม่ปาน ชายคนนี้คือตราบาป คือฝันร้าย และคือนรกที่ต้องเขาเผชิญทุกวินาทีที่ยังมีชีวิตอยู่รอดบนโลกใบนี้

    เขาไม่กล้าบอกความจริงแมรี่โกลด์ -- ไม่ได้บอกเธอว่าเขาตัดสินใจฆ่าเขาทิ้ง

    ไม่แม้แต่ให้โอกาสริเวอร์มีชีวิตอยู่ต่อไป ในแบบที่เขาให้โอกาสแมรี่โกลด์เช่นในตอนนี้

    เขาทำลายโอกาสอันริบหรี่นั้น ด้วยกระสุนปืน

    ถึงตรงนี้เคเลบก็คล้ายจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อสำนึกได้ว่ามันคือปืนกระบอกเดียวกันกับที่เขายิงลั่นไปก่อนหน้านั้น และการยิงของเขาในตอนนั้นก็เป็นต้นเหตุให้ฝูงปิศาจมุ่งหน้าตรงมาที่พวกเขาตั้งแต่แรก

    เขาคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ริเวอร์มีจุดจบแบบนั้น

    ทั้งหมดมันเป็นเพราะเขา

    เขาปิดบังเรื่องนี้มานาน พยายามเก็บซ่อนมันไว้ในมุมที่ดำมืดที่สุดในใจ พยายามที่จะปิดกั้นมันจากตัวเอง และแมรี่โกลด์

    จนกระทั่งตอนนี้ --

    เคเลบได้ตัดสินใจ ว่าจะไม่วิ่งหนีเงามืดอีกต่อไปแล้ว

    “ทำไม” ชายในเงามืดตะคอกลั่น ใบหน้าอันบิดเบี้ยวที่อยู่ห่างจากเขาไปไม่ถึงคืบดูผิดสัดส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ  “แกพยายามหนีฉัน หนีอดีต และความจริงนี้มานาน -- ทำไมแกถึงเพิ่งกล้าเผชิญหน้าฉัน -- ทำไมถึงเป็นตอนนี้!”

    วินาทีนั้น ดวงตาของเคเลบเป็นประกายเจิดจ้าขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว และแปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งเฉยอีกครั้งหนึ่ง

    ริมฝีปากหยักของเคเลบค่อยๆเผยอ แล้วเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “เพราะฉันคิดว่าคืนนี้อาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่ฉัน และแมรี่โกลด์จะยังมีชีวิตอยู่” เคเลบกระซิบ

    “นี่อาจเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะยังมีชีวิตอยู่รอดบนโลกที่จบสิ้นไปแล้วใบนี้”

    ตอนนั้นเองที่ร่างสูงเพิ่งสังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนร่างของเคเลบ

    แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาภายในห้อง เผยให้เห็นท่อนขาอันแข็งแรงของเคเลบข้างหนึ่ง ที่มีรอยกัดบริเวณข้อเท้า!

    ดวงตาสีเขียวของชายในเงามืดสบมองกับดวงตาสีดำเข้มของเคเลบ -- คราวนี้ราวกับจะยาวนานชั่วกัลปวสาน ทั้งๆที่มันอาจจะผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

    เขาโดนกัดในหมู่บ้าน --

    ภาพใบหน้าเด็กชายที่ฉุดรั้งข้อเท้าเขาไว้ฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง คมเขี้ยวนั้นฝังลึกเข้ามาที่ข้อเท้าเขาอย่างรวดเร็ว

    เขาติดเชื้อแล้ว

    สำนึกนั้นทำให้ชายทั้งสองสูดลมหายใจดังครืดคราดออกมามาจากแผงอกพร้อมกัน ราวกับเป็นคนๆเดียวกันก็ไม่ปาน

    เขากำลังจะกลายร่าง

    “ดูสภาพของเรา” เคเลบกระซิบ “เราต่างเป็นพ่อที่ล้มเหลว เราต่างปกป้องลูกของเราไม่ได้ เราต่างฆ่าเขาด้วยมือของเราเอง และตอนนี้เราก็ต่างติดเชื้อแล้วเหมือนๆกัน --”

    เราจะต่อสู้ไปเพื่ออะไร -- เคเลบตั้งคำถามขึ้นมาในใจ -- เราจะฉุดรั้งความเป็นมนุษย์ในตัวเองให้อยู่ต่อไปได้เพื่ออะไร ในเมื่อทุกอย่างดูราวกับได้จบสิ้นไปแล้ว --

    เคเลบผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ

    “โลกใบนี้ --” เขากระซิบต่อไป “โลกใบนี้ไม่เหลือพื้นที่ให้มนุษย์อย่างเราอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันจบลงแล้ว -- มนุษย์ได้ตายจากไป และฟื้นกลับมาใหม่ในคราบปิศาจ -- และมนุษย์ที่ยังอยู่ ก็เป็นปิศาจร้ายในคราบมนุษย์ --  เราจะทำร้ายกันเอง และฆ่ากันเองในท้ายที่สุด”

    ภาพของโจรป่าที่ซุ่มทำร้ายพวกเขาฉายชัดขึ้นมาในใจ

    สุดท้ายแล้ว มนุษย์จะสู้กันเองเพื่อความอยู่รอด --

    แล้วลูกเขาจะมีชีวิตอยู่บนโลกอันโหดร้ายนี้อย่างเพียงลำพังไปได้อีกนานเท่าไหร่ หลังจากที่เขากับแมรี่โกลด์ตายไปแล้ว

    หนึ่งวันหรือ -- แม้แต่หนึ่งวันก็ช่างดูยาวนาน จนเขานึกภาพไม่ออก

    เคเลบสูบยาสูบอีกครั้ง สีหน้านิ่งสนิท ราวกับจมดิ่งอยู่กับความคิดของตนเอง  ในขณะที่ชายในเงามืดจ้องมองเขาโดยไม่พูดอะไรออกมา

    “นั่นทำให้ฉันคิดที่จะฆ่าแมรี่โกลด์ทิ้ง” เคเลบพูดออกมา ราวกับสารภาพบาป “ฉันคิดจะฆ่าให้เธอตายไปพร้อมกับลูกในท้อง --” มือหนาขยับกระบอกปืนเล็กน้อย “และฉันจะยิงตัวตายตามไปเป็นคนสุดท้าย”

    จะได้จบเรื่องกันเสียที -- จะได้พ้นทุกข์กันไปเสียที

    แล้วเคเลบก็ขยับตัว หลังจากที่นิ่งเงียบไปนาน

    เคเลบปล่อยยาสูบลงบนพื้นพรม บดขยี้มันด้วยปลายเท้าอย่างไม่ไยดี แล้วลุกขึ้นมาเป็นครั้งแรก

    ร่างสูงผุดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้บุนวมอย่างช้าๆ แผ่นหลังยืดเหยียดตรง สองเท้าก้าวเดินมาข้างหน้า จนเกือบประชิดร่างของอีกฝ่าย

    จนกระทั่งปากกระบอกปืนอันเย็นเฉียบจ่อเข้าที่ขมับอันบิดเบี้ยวนั่น -- อย่างแน่นิ่ง ไม่สั่นไหว


    เคเลบมองไปยังเงาสะท้อนหน้าต่าง มองเห็นกระบอกปืนนั้นจ่อขมับตนเอง และดวงตาสีดำที่ดูนิ่งจนน่ากลัวของตนเอง

    บางทีความตายอาจจะเป็นทางออกสำหรับทุกอย่าง


    ชายผู้มาเยือนจ้องมองเคเลบ สองเท้าไม่ถอยหนี หรือสั่นระริกแต่อย่างใด -- เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม ท่าทีสงบนิ่งปราศจากความหวาดกลัวใดๆ จนแทบจะกลายเป็นเยือกเย็น

    “ยิงเลย” เขากระซิบ เฝ้ารอเวลาให้เคเลบลั่นไกปืนในความมืด “นายคิดถึงช่วงเวลานี้มานานแล้วนี่”

    จะรออะไรอยู่อีก --

    แวบหนึ่ง เขารู้สึกว่านิ้วมือของเคเลบคล้ายจะขยับ และลั่นไกจริงๆ   หากแต่วินาทีถัดมา กระสุนปืนนัดนั้นกลับไม่ได้ดังขึ้น

    สุดท้ายแล้วเคเลบไม่ได้ลั่นไกปืน

    เคเลบเงยหน้าขึ้น จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเขียวของอีกฝ่าย -- สีเดียวกันกับที่เขาเคยมองเห็นในดวงตาของแมรี่โกลด์ และลูกชายของเขา --

    ฉับพลันนั้นเคเลบรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง

    แววตาสีเขียวที่เขามองเห็นนั่น ราวกับจะฉุดรั้งให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาจากเงามืดของตนเอง


    เคเลบนิ่งตะลึง -- ตื่นตกใจกับความคิดของตัวเอง

    เขาค่อยๆลดกระบอกปืนลงจากขมับ


    “แกยังต้องอยู่เพื่อลูกในท้อง --” ชายในเงามืดกระซิบออกมา “เขาต้องมีโอกาสได้เกิดมาบนโลกใบนี้ --”

    เขาจะทำผิดพลาด พรากชีวิตลูกไปอีกไม่ได้

    เคเลบค่อยๆถอนลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

    “ยังไม่จบลง” ชายในเงามืดกระซิบ “เรื่องราวยังไม่จบลงแค่นี้ --”

    “ยังมีเวลา” เคเลบกระซิบต่อ น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นแผ่วเบา คล้ายจะเตือนตัวเอง -- ไม่กี่ชั่วโมงก่อน แมรี่โกลด์ยังได้กลิ่นเนื้อมนุษย์จากตัวเขาอยู่ นั่นหมายความว่าเขายังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ในตัว

    เขายังพอมีเวลา เขายังยื้อตัวเองเอาไว้ได้ และเขายังสู้กับความเดรัจฉานในตัวไหว

    แมรี่โกลด์ยังต้องการเขา ลูกในท้องยังต้องการเขา

    เขาจะมาแพ้ที่นี่ ในตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด --


    เขาต้องไม่แพ้ -- ไม่แม้แต่แพ้ภัยตัวเอง


    เคเลบกะพริบตา --  ยิ่งสติสัมปชัญญะที่กลับเข้าสู่ร่างเขามากขึ้นเท่าไหร่ ร่างของชายในเงามืดก็คล้ายจะเลือนรางหายไปมากกว่าเดิม

    กลับมา -- เขาบอกตัวเอง -- กลับมาเคเลบ

    เคเลบพยายามควบคุมสติตนเองอีกครั้ง -- กระทั่งกลับมาเป็นตัวเองเช่นเดิมอย่างมั่นคงและหนักแน่น

    ฉับพลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากทางด้านนอกหน้าต่าง

    ดวงตาสีดำเข้มคู่นั้นมองข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของตัวห้อง ร่างทั้งร่างยืนนิ่งไม่ไหวติง มือที่กำกระบอกปืน และท่อนไม้เกร็งแน่นขึ้นมาจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามท่อนแขน ท่าทีดูระวังตัวอย่างชัดเจน

    เขาค่อยๆก้าวเดินไปบนผืนพรม ระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงลั่นของไม้กระดาน ดวงตายังคงจ้องมองไปยังความมืดสลัวตรงหน้า ราวกับกำลังพินิจมองอะไรบางอย่าง

    หากแต่สายตาเขาเริ่มพร่าเลือนมากขึ้นเล็กน้อย -- การมองเห็นเขาเริ่มแปรเปลี่ยนไป

    แต่เขาแน่ใจในสัญชาตญาณตนเอง -- บ้านหลังนี้ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว

    พวกปิศาจร้ายกำลังข้ามชายแดนป่ามาถึงที่นี่แล้ว

    เคเลบเก็บกระบอกปืนกลับเข้าไปในเสื้อคลุม -- ตอนนี้ปืนไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไปแล้ว เสียงกระสุนที่ดังขึ้นมีแต่จะดึงดูดพวกมันให้มาที่นี่เร็วขึ้นและมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

    บทเรียนราคาแพงสอนเขาไว้แบบนั้นเมื่อหกดือนก่อน --

    เคเลบกำชับท่อนไม้ในมือแน่น -- ร่างทั้งร่างนิ่งสนิทอีกครั้ง เมื่อหูแว่วได้ยินเสียงบางอย่างมาจากทางด้านหลังตนเอง -- เขาหันมาทางประตูด้านหลังเล็กน้อย จิตใต้สำนึกบอกดังลั่นว่า

    เงียบ -- มีใครอื่นกำลังซ่อนตัว และจ้องมองเราอยู่ที่นี่ -- ในห้องแห่งนี้ --

    แล้วหลังจากนั้น เขาก็พบกับเจคอบ มนุษย์ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ร่างปิศาจที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in