เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกเป็นบรรทัดaoonilicious
01 พี่
  • "เห้ย ไออุ่น เสื้อเอ็งนี่ใช้เตารีดหรือครกตำวะ"

    ประโยคคำถามจากพี่คนหนึ่งส่งมาทวงถามคำตอบจากฉัน
    มันเป็นประโยคสามัญธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
    เป็นประโยคที่ฉันจดจำได้ดี
    ประโยคที่ได้ยินทีไรก็ยิ้ม

    ...

    ฉันยังจำวันแรกที่เจอกับพี่โก้, ผู้สื่อข่าวหน้าตาดุดัน ขึงขัง นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ ซึ่งฉันแอบดูทีหลังจึงรู้ว่าพี่โก้กำลังดูเว็บไซต์ขายกล้องถ่ายรูปอยู่
    "อืม พี่เขาน่าจะชอบถ่ายรูป" ฉันนึก

    สัปดาห์แรกของการฝึกงานในฐานะผู้สื่อข่าวฝึกหัด ผ่านไปอย่างเกร็งๆ ด้วยเหตุผลที่ฉันยังใหม่กับที่นี่ ใหม่กับการทำงานจริงในสถานีโทรทัศน์อันใหญ่โตโอฬาร มันทำให้ฉันรู้สึกตัวเล็กจิ๋ว แต่ยังโชคดีที่พี่ๆ ใจดีกับฉันทุกคน

    ถึงเวลาที่ฉันต้องออกไปทำข่าวกับพี่โก้ ฉันจำความรู้สึกสัปดาห์นั้นได้ดี
    ทุกวัน, ตลอดระยะทางในรถข่าว พี่โก้มักจะถามทุกครั้งว่า "ไหน วันนี้มีข่าวอะไรมานำเสนอพี่บ้าง อะ ว่ามา"
    แน่นอน ฉันรู้สึกกดดัน ต้องยอมรับก่อนเลยว่า ฉันไม่ได้ดูทีวีหรอกนะ อาศัยอ่านข่าวในอินเตอร์เนต ทวิตเตอร์เอา แต่การเล่าข่าวให้พี่โก้ฟังไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะพี่โก้จะคอยถามคำถามนู่นนี่นั่นตลอด เพื่อจะเช็คว่า ไอ้ที่เราอ่านมานะ เรารู้จริงไหม เราเข้าใจมันหรือเปล่า

    อืม ฉันรู้สึกกดดันมากพอสมควร

    "ประเด็นนี้ล่ะ" "แล้วคนนั้นพูดว่าไงบ้าง"
    "ใช่เหรอ แน่ใจเปล่า" พี่โก้ส่งคำถามมาให้ฉันอย่างต่อเนื่อง ฉันเครียดและกดดันจนแทบร้องไห้ แต่ไม่ได้หรอก ฉันจะปล่อยให้นำตาไหลในรถไม่ได้ มันตลกเกินไป

    แล้วสัปดาห์นั้นก็ผ่านไปอย่างทุลักทุกเล

    ฉันไม่ได้เจอพี่โก้นานพอสมควร จนกระทั่งฉันดูตารางงาน สัปดาห์ถัดไป จะเป็นฉันที่คู่กับพี่โก้อีกครั้ง

    เอาล่ะ บอกตามตรงฉันรู้สึกเครียดตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาต้องไปเลยแหละ

    ...

    วันเวลาผ่านไปรวดเร็วแบบไม่ถามไถ่ว่าฉันเตรียมใจมาหรือยัง
    "สวัสดีค่ะพี่โก้ นี่อุ่นนะคะ วันนี้พี่โก้อยู่เวรเช้าใช่ไหมคะ หนูไปด้วยนะ มีหมายที่ไหนเหรอคะ"
    ฉันโทรศัพท์หาพี่โก้แต่เช้าตรู่ เพื่อจะได้ไม่พลาดนัด

    ฉันมาถึงออฟฟิศแบบใจตุ้มต่อม กลัว กังวลไปหมดทุกอย่าง

    แต่น่าแปลกใจ, ครั้งนี้ที่ฉันต้องไปกับพี่โก้ เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าฉันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
    พี่โก้ชวนฉันพูดคุยเรื่องข่าวเหมือนเดิม ถามคำถามเหมือนเดิม แต่ฉันไม่ได้เครียดเหมือนเดิมแล้ว
    ฉันสามารถยิงมุข ตบมุขกับพี่โก้ได้อย่างไม่มีเกราะ ไม่มีภูเขาน้ำแข็งในใจมากั้นขวาง
    เราหัวเราะ เราแซวกันไปมา บรรยากาศในรถช่างตลบอบอวลไปด้วยความสนุกเฮฮา
    เราพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง เพลง หนัง ข่าว ความรัก ชีวิต ไปจนถึงเรื่องทะลึ่งทะเล้น

    "สัปดาห์หน้าเอ็งก็ไม่ได้เจอพี่แล้วดิ เพราะเอ็งฝึกเสร็จแล้ว พี่ก็เข้าเวรดึกแล้วด้วย" พี่ก็ตัดบท
    ยอมรับอย่างจริงใจว่าตอนที่ฉันได้ยินประโยคนี้ ฉันรู้สึกโหวงๆในใจยังไงก็ไม่รู้
    จริงๆ แล้วฉันแอบน้ำตาซึมด้วยแหละ จริงยิ่งกว่านั้นคือพี่โก้ก็เห็น และแซวจนฉันน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม

    ไม่รู้สิ ที่ผ่านมาฉันอาจจะรู้สึกเครียดๆ เวลาอยู่กับพี่โก้ อาจเพราะฉันรู้สึกกดดัน กดดันไปหมดทุกอย่าง

    แต่กลับกลายเป็นว่าวันนี้ ความกดดันนั้นมันระเหยไปไหนหมดไม่มีใครรู้ เหลือไว้แค่เพียงความผูกพัน

    ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลาแค่สองเดือนจะทำให้ฉันรู้สึกผูกพันกับพี่ๆ ได้มากขนาดนี้
    ไม่น่าเชื่ออีกเช่นกัน แค่สองสัปดาห์ที่ฉันได้ร่วมติดตามทำข่าวกับพี่โก้, พี่ที่ฉันรู้สึกกลัวในวันแรกที่ได้เจอ, กลายเป็นพี่ที่สอนอะไรฉันตั้งมากมาย

    "พี่ไม่สอนให้เขียนข่าว แต่พี่อยากให้เอ็งจับประเด็นให้เป็นมากกว่า"
    วั"นนี้ไม่คุยเรื่องข่าวนะ เอาเรื่องชีวิตดีกว่า"
    "แล้วนี่เอ็งคิดยังว่าจบไปจะทำอะไร เอ็งมีเวลาอีกแค่สี่เดือนนะ เอ็งต้องวางแผนได้แล้ว"
    "เอ็งยังอยากเป็นนักข่าวอยู่ไหม"
    "พี่อะเสียดายนะ ถ้าเอ็งจะออกจากวงการนี้ไป ตอนนี้เรามีโอกาสอยู่ในวงการนี้แล้วพี่อยากให้เอ็งลองคิดดูดีๆ ถ้าออกไปแล้วมันกลับเข้ามายากนะ"
    "พี่หวังว่าอีกสักสองเดือน พี่จะเห็นเอ็งจับไมค์เดินอยู่ในวงการนี้นะ"
    "วันสุดท้าย เอ็งค่อยมาตอบคำถามพี่อีกทีว่าเอ็งอยากเป็นนักข่าวอยู่ไหม"
    ...

    พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายมี่ฉันจะได้ออกไปทำข่าวกับพี่โก้
    พี่โก้ขู่ฉันใหญ่เลยว่าพรุ่งนี้ฉันจะต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแน่ๆ

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
    แต่ที่รู้คือตอนนี้ฉันรู้สึกดีใจมาก ดีใจที่ได้รู้จักกับพี่โก้ ดีใจที่พี่คอยสอนฉัน แม้ว่าเราจะเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ดีใจที่พี่เมตตาคอยสอนหนูเสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

    ขอบคุณพี่โก้ที่ช่วยเปิดโลกให้เด็กกะโปโลอย่างหนูเติบโต และรู้จักตัวเองมากขึ้น จากทุกๆคำถามของพี่ มันกระตุ้นให้หนูต้องคิด ต้องตั้งคำถาม โดยเฉพาะเรื่องอนาคตของตัวหนูเอง

    พรุ่งนี้ ไม่ว่าหนูจะร้องไห้หรือไม่
    แต่ถ้าวันนึงพี่มีโอกาสได้อ่านสิ่งที่หนูจดบันทึกไว้วันนี้
    หนูอยากให้พี่โก้รู้ว่าหนูขอบคุณมากๆสำหรับทุกคำสอน

    ไม่จริงหรอกที่พี่ชอบบอกว่า คนอย่างพี่จะไปสอนใครได้
    พี่รู้ไหมว่าคนอย่างพี่นี่แหละที่สอนให้คนอื่นรู้จักเติบโตได้ และได้อย่างดีมากด้วย

    อย่างน้อยที่สุดก็หนูคนนึงแหละ

    "เห้ย ไออุ่น เสื้อเอ็งนี่ใช้เตารีดหรือครกตำวะ"

    ...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in