23/08/64
คำเตือน : มีเนื้อหาสปอยล์
สวัสดีค่ะ ฉันมาดูหนังเรื่องนี้ได้เพราะกำลังหาอะไรดูระหว่างกินสุกี้ที่ทำเองในมื้อกลางวันค่ะ อร่อยมาก และ หนังเรื่องนี้มีในดิสนี่ย์ พลัสค่ะ ฉันอยากให้ไปลองดูกันนะคะ มันคุ้มค่าแก่การดู และทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่างมากจริงๆ
ตลอดสุดสัปดาห์มานี้ฉันดูหนัง/ซีรี่ส์อยู่บ้าง ฉันดู sleepy hollow/ captain marvel / the day after tomorrow มาค่ะ เสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูสลีปปี้ฮอลโล่ว ที่ฉันรู้สึกว่ามันสนุกแค่ช่วงแรก อืม ฉันอาจจะเขียนรีวิวทีหลัง ถ้าสามารถกลั้นใจดูจนจบ 4ซีซั่น ไม่รู้สิคะ ฉันอาจจะไม่กลับไปดูแล้ว บอกตามตรงว่ามันค่อนข้างจะน่าเบื่อกับความไม่จบไม่สิ้นของเนื้อเรื่อง *หัวเราะ* ส่วนอีกสองเรื่องที่เหลือก็สนุกนะคะ แต่มันยังไม่น่าประทับใจจนอยากเอามาเขียนนอกจาก บรี ลาร์สัน เท่มากๆ กับ ถ้าวันนึงเกิดเหตุการณ์ไซโคลนยักษ์ก่อตัวที่ไทยเราคงจะได้ตายกันหมดแน่นอน
เข้าเรื่องดีกว่า hidden figures เป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงค่ะ จากหญิงสาวผิวดำสามคนที่ทำงานเป็นนักคำนวณให้กับองค์กรนาซา ซึ่งตัวละครหลักมี 3 ตัว คือ โดโรธี วอห์น แคทเทอรีน จอห์นสัน และ แมรี่ แจ็คสัน สามคนนี้เป็นเพื่อนกันที่ทำงานแผนกเดียวกัน แล้วแต่ละคนก็มีความถนัดแตกต่างไป โดโรธีมีความเป็นผู้นำ ใฝ่รู้ เธอมีความรู้เรื่องการซ่อม เครื่องยนต์ใดๆ แถมเธอยังกลายเป็นหัวหน้าแผนกที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคิดนวณ imb ในตอนท้ายด้วย เพราะเธอศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมในด้านนี้มา ส่วนแคทเธอรีนมีความสามารถในการคำนวณมากๆ ก็เลยได้ไปช่วยคำนวณเกี่ยวกับการสร้างจรวดด้วย คนสุดท้ายคือ แมรี่ แจ็คสัน จริงๆแล้วเธออยากเป็นวิศวกร เธอก็เลยไฟต์เพื่อให้ได้เป็นค่ะ
ในเรื่องที่เราประทับใจมันมีหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเหยียดสีผิวของสหรัฐอเมริกาในอดีต ประมาณปี19xx อะไรสักอย่าง ฉันลืมไปแล้วล่ะค่ะ *ถอนหายใจ* ฉันอาจจะสังเกตไม่มากพอ ก็นะ ก็ไม่ได้จะเอาไปหเขียนรายงานส่งอาจารย์ที่ไหนนี่นา จริงไหม?
ในตอนนั้นเป็นช่วงที่ชาวผิวดำพยายามลุกขึ้นมาประท้วงอยู่เนืองๆในเรื่องการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมที่มีต่อคนผิวดำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เห็นภาพชัดมากๆเลยค่ะ ทั้งการมีห้องน้ำแยกคนขาวดำ ก๊อกน้ำแยก แม้แต่ร้านหนังสือยังมีโซนแยกหนังสือสำหรับคนดำ ถ้าเจอว่าแอบไปโซนหนังสือของคนผิวขาวก็จะถูกไล่ออกมา ไหนจะตอนนั่นรถบัส ที่คนดำมีสิทธิ์นั่งได้แค่เบาะหลัง ทุกๆที่จะมีป้ายแบ่งแยกคนขาวคนดำตลอด
คนขาวในอดีตปฏิบัติกับคนดำไว้แย่มาก ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ใช่ว่าจะไม่มี
ตัวเอกทั้งสามคนพยายามต่อสู้หนักมากเพื่อที่จะสามารถยืนหยัดในความเป็นตัวของตัวเอง แลแสดงให้เห็นว่า คนผิวดำแถมเป็นผู้หญิงแบบฉันมันก็สามารถไปในจุดที่ต้องการได้เหมือนกันย่ะ อะไรประมาณนี้ ซึ่งระหว่างทางพวกหล่อนก็พบอุปสรรคมากมาย เราที่เป็นคนดูก็พลอยหัวเสียตามไปด้วยตอนที่ได้ดู
ไม่ว่าจะเป็นแคทเทอรีนที่มาทำงานตึกฝั่งตะวันออก แต่มันไม่มีห้องน้ำสำหรับคนผิวดำเลย เธอจึงต้องวิ่งไปฝั่งตะวันตกเพื่อเข้าห้องน้ำ พร้อมกับหอบงานไปทำด้วย ซึ่งมันทำให้เธอไม่อยู่กับที่ แล้วคุณแฮริสันที่เป็นหัวหน้าก็สสงสัยว่าเธอหายไปไหนบ่อยนักตั้งนาน ซึ่งในห้องทำงานที่มีชายล้วนและเลขาที่เป็นผู้หญิงนั้นไม่มีใครสนใจเลยว่าเธอจะออกไปไหนนานขนาดนั้น
แม้กระทั่งเรื่องการดื่มน้ำ ไอ้พวกผู้ชายผิวขาวมันยังไม่อยากจะดื่มน้ำร่วมถังกับผูัหญิงคนดำเลยค่ะ แคเทอรีนได้ดื่มน้ำจากเหยือกโง่ๆที่ต้องหมั่นเติมเท่านั้น ฉันดูแล้วก็เกลียดหน้าไอ้ผู้ชายผิวขาวพวกนั้นมากๆ
และแล้วก็มาถึงฟางเส้นสุดท้ายของแคทเทอรีนที่เริ่มทนไม่ไหวกับความเหยียดหยามนี้แล้ว มันเป็นวันที่ฝนตก และแคทเทอรีนก็ต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำ พร้อมกับงาน ซึ่งกว่าเธอจะกลับมาก็กินเวลานาน จนแคทเทอรีนกลับมา อีตาแฮริสันมันก็ถามว่าแต่ละวันเธอหายไปไหนเนี่ย เธอหายไปอย่างต่ำคราวละ40นาทีเลย ซึ่งแคเทอรีนก็ระเบิดเลย มันเป็นเพราะไอ้พวกผิวขาวๆโง่ๆที่ไม่มีห้องน้ำสำหรับคนผิวดำไง กาน้ำก้ยังจะกินคนละเหยือกอีก ต้องใส่กระโปรงคลุมเข่า ห้ามใส่เครื่องประดำเว้นแต่สร้อยมุก ส้นตีนเถอะ เงินเดือนคนผิวดำแบบฉันมันแอฟฟอร์ดสร้อยมุกมาใส่เหมือนพวกคุณไม่ได้หรอก ขอโทษละกันนะถ้าต้องหายไปบ่อยๆ (อันนี้เขียนเองทั้งหมดนะคะ แต่ความรู้สึกของแคทเทอรีนและเนื้อหามันจะประมาณนี้แหละ ลืมอีกแล้ว ;-;)
แฮริสันที่รู้เรื่องทั้งหมดก็เข้าใจค่ะ จริงๆแล้วแอริสันเป็นคนที่ อืม ค่อนข้างเปิดรับมั้งคะ เขาไม่ได้แสดงออกมาเป็นพิเศษว่าลุกน้องคนนี้เก่ง ลูกน้องคนนี้ดี แต่เขาก็ให้โอกาสหมดอ่ะค่ะ ซึ่งพอเขารู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราทำตัวงี่เง่ากับเพื่อนมนุษยืด้วยกันขนาดไหน เขาก็ลงมือตระเวนเลาะป้ายหน้าห้องน้ำออกหมดเลยค่ะ เพราะป้ายห้องน้ำมันจะเขียนแยกเนาะ ห้องน้ำคนขาวคนดำ พอเลาะเสร็จเขาก็บอกทุกคนว่า เราคือองค์กรนาซา จะไม่มีห้องน้ำผิวขาวผิวดำอีก เพราะทุกคนแม่งก็ฉี่สีเดียวกันหมด
มันก็ดูเป็นอีกก้าวนึงของการลบเส้นแบ่งคนดำคนขาวหรือเปล่านะ
ขณะที่แมรี่เองก็พยายามไปเรียนวิศวะในเวอร์จิเนียที่พวกเขาอยู่นี่แหละค่ะ แต่เขาไม่อนุญาติให้คนผิวดำเรียน เธอก็เลยฟ้องศาลจนสามารถเข้าไปเรียนได้ในช่วงภาคค่ำ เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ เพราะเธอเป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่สามารถเรียนในโรงเรียนคนผิวขาวได้ ขณะที่โดโรธีเองก็พยายามเรียนรู้ไอ้เครื่องคำนวณด้วยตัวเองแล้วก็เอาไปสอนคนในแผนกคำนวณด้วยเพื่อที่ไม่ให้ลูกทีมของเธอทุกคนตกงาน
ค่า สุดท้ายนาซ่าก็ทำสำเร็จ พวกเขาปล่อยยานขึ้นไปโคจรรอบโลกโดยมีผู้พันเกลนด์เป็นผู้ขับยาน คุณเกลนด์ก็มีนิสัยดีค่ะ เขาไม่เหยียดใครแล้วก็ยอมรับในความสามารถของทุกๆคน
ซึ่งผู้หญิงสามคนนี้ก็เป็นผู้บุกเบิก เป็นแรงบันดาลใจใดๆในการให้ผู้หญิงและคนผิวดำทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของตัวเอง ดูจบก็ประทับใจมากเลยค่ะ เนื้อเรื่องมันมีมากกว่านั้นเยอะ แต่เลือกเขียนเฉพาะส่วนที่พอจะจำได้ ซึ่งมันน่าจะเป็แกนหลักเลยแหละ
หนังยาวประมาณ2ชม.นิดๆค่ะ สนุกมาก ไม่มีช่วงทีี่น่าเบื่อเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in