เดรโกถือโอกาสแวะไปเยี่ยมเยือนและทักทายว่าที่พ่อตาแม่ยายในอนาคตกับครึ่งวีล่าของเขา และเป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำความรู้จักกับยานพาหนะที่มีชื่อว่าจักรยาน เขาได้ยินเกี่ยวกับเครื่องจักรสองล้อนี่มาตั้งแต่ช่วงที่เขายังเป็นพ่อมดน้อย แต่ยังไม่เคยได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ชนิดนี้จริง ๆ มาก่อน
หน้าตามันดูประหลาดนักในสายตาของเขา มันไม่ได้ทำงานเหมือนเจ้าม้าเหล็กที่ใช้สิ่งที่เรียกว่าน้ำมันเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน เจ้าจักรยานนี้ขับเคลื่อนโดยสองขาของครึ่งวีล่าที่ส่งแรงถีบให้กลไกเครื่องจักรทำงานแล้วล้อก็หมุนไปด้านหน้าโดยมีเขานั่งซ้อนท้ายอย่างรู้หน้าที่
โอ้ ไม่เอาน่า พ่อมดขี่จักรยานเป็นที่ไหนกัน
ได้ยินเสียงคนงามบ่นยืดยาวมาตามลม จักรยานคันไม่ใหญ่ไม่เล็กขับเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้าเพราะมีสัมภาระชิ้นโตนั่งซ้อนท้าย ดูเหมือนแฮร์รี่ของเขาจะตัดสินใจได้แล้วว่าธุระของมารดาค่อยไปจัดการวันอื่น
"คุณไม่ฟังผมเลย บอกไม่ให้ตามมาก็ยังดึงดังจนผมไม่มีทางเลือก" อีกฝ่ายว่าในขณะที่พ่อมดยกขาขึ้นเกาะกับแท่นวางเท้า สองมือกระชับไม้เท้าหัวมังกรวางขนานบนท่อนขา เขาไม่อยากให้เท้าและไม้เท้าของเขาถูกลากไปตามพื้นดินตอนอีกฝ่ายพยายามพาเขาไปที่บ้านหรอก
ใช่ เดรโกถูกปฏิเสธไปเป็นสิบครั้งยามที่เขาเอ่ยปากขอไปสวัสดีบิดามารดาของคนงาม ดวงจันทร์ของเขาบอกว่าไม่เสียงแข็งตลอดสิบครั้งด้วยกัน แต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ปฏิเสธเขาแบบจริงจังไม่ได้ เพราะเขายืนกรานอย่างหนักแน่น
เธอจะพาฉันไป หรือให้ฉันไปจ๊ะเอ๋คุณพ่อคุณแม่เธอเองดีล่ะ
เดรโกบอกไปแบบนั้น และมันทำให้อีกฝ่ายไม่มีทางเลือก แฮร์รี่ที่รักของเขาส่งสายตาค้อนขวับมาให้แล้วพาเขามายังจักรยานที่ถูกทิ้งไว้ข้างทางในที่สุด ได้ยินแว่ว ๆ จากริมฝีปากอีกฝ่ายว่าโชคดีที่ไม่ถูกขโมยไปด้วย
เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้
"แฮร์รี่ของฉัน" ระหว่างทาง จู่ ๆ พ่อมดก็ส่งเสียงเรียก "ฉันพาเราหายตัวไปที่บ้านของเธอดีไหม"
บนไหล่ข้างหนึ่งของพ่อมดมีรอยมือแดง ๆ รอยหนึ่งซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้า นี่เป็นบทลงโทษจากคนงามของเขา ก็น่าดีใจอยู่หรอกที่ร่างกายของเขาได้รับรอยประทับจากอีกฝ่าย แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นรอยแดงเล็ก ๆ จากอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฝ่ามือ
ท้ายที่สุดคนงามก็ใช้แรงฮึดที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนปั่นจักรยานจนมาถึงที่หมาย มันเป็นหมู่บ้านในเขตนอกเมือง เขาได้ยินอีกฝ่ายพูดอย่างนั้นตอนพาเขาเข้ามาด้านใน ผ่านบ้านหลังเล็กกระจ้อยร่อยในสายตาของเขาไปหลายหลัง พ่อมดมองว่ามันน่าสนใจดีที่บ้านทุกหลังมีสวนดอกไม้แข่งกันบานสะพรั่งเป็นของตัวเอง
จักรยานหยุดลงที่หน้าบ้านที่เหมือนบ้านหลังอื่น ๆ แตกต่างเพียงตรงด้านหน้ามีป้ายแกะสลักด้วยตัวอักษรวิจิตร House POTTER อยู่ แฮร์รี่ไล่เขาลงจากจักรยานก่อนจะจูงยานพาหนะนั่นเข้าไปในโรงรถที่เปิดประตูทิ้งไว้
เดรโกทำตัวเป็นแขกที่ดี เขาเดินตามเจ้าบ้านต้อย ๆ จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไปในตัวบ้านได้
"พ่อครับ แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว และ เอ่อ —" ครึ่งวีล่าอ้ำอึ้ง ก่อนจะเอ่ยต่อให้จบประโยค "เรามีแขกด้วย"
พ่อมดยืนนิ่งพร้อมถือไม้เท้าคู่ใจอย่างสง่างามอยู่ตรงประตูบ้านก่อนอนาคตพ่อตาแม่ยายของเขาจะเยี่ยมหน้าออกมาจากห้องครัวและห้องนั่งเล่น มิสเตอร์และมิสซิสพอตเตอร์มีสีหน้าตกใจก่อนที่คนทั้งคู่จะรีบเดินออกมาดึงลูกชายสุดที่รักให้ห่างจากเขาไปหลายก้าว
บนใบหน้าของเดรโกประดับรอยยิ้มเบาบางอย่างสุภาพ เขาไม่อยากให้ว่าที่พ่อตาแม่ยายของเขามีความประทับใจแรกติดลบ และไม่อยากให้บรรยากาศแรกพบกระอักกระอ่วนสักเท่าไร
"สวัสดี" พ่อมดวาดมือแล้วโค้งลงอย่างมีมารยาท แววตาสีซีดเรียบเฉยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ทำให้คนมองหยุดหายใจ "ฉันคือวอร์ล็อคจากป่าอีกฟาก — เดรโก ลูเซียส มัลฟอย — ยินดีที่ได้พบผู้ให้กำเนิดดวงจันทร์ผู้งดงามของฉัน"
เป็นมิสเตอร์พอตเตอร์ที่งดงามจนน่าแปลกใจนั่นเองที่เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเขา สมกับเป็นวีล่า แต่ความงามนั้นไม่ทำให้หัวใจเขาสั่นสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว เดรโกไม่ได้กลิ่นหอมใด ๆ นอกจากกลิ่นของครึ่งวีล่าของเขา ชายหนุ่มยิ่งมั่นใจ ความรักของเขาไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
"วอร์ล็อคไม่ควรมาที่นี่" เป็นประโยคที่คล้ายจะได้ยินบ่อย ๆ จนทำให้เดรโกหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยขอโทษอย่างขอไปทีเมื่อรู้ว่าตัวเองเสียมารยาทออกไป
"ไม่ต้องกังวลไปวีล่า ฉันไม่เป็นอันตราย" พ่อมดเอ่ย "ฉันแค่อยากจะมาทำความรู้จักพวกคุณที่เป็นผู้ให้กำเนิดแฮร์รี่เท่านั้น"
ครึ่งวีล่ากระแอมขึ้นมา เดรโกจึงหยุดพูดไปมากกว่านี้ ดวงตากลมสีมรกตหันมามองสบกับเขา ข้างในนั้นมีคลื่นความรู้สึกที่เขาไม่เคยเห็นสั่นไหวอยู่
"เขาเป็น... คนที่ดวงดาวบอกครับ" ดวงจันทร์ของเขาหันไปบอกพ่อกับแม่ของเจ้าตัว ก่อนจะได้รับสีหน้าที่ตื่นตกใจยิ่งกว่าตอนพบหน้าเขาอีกหลายเท่าตัว
หลังจากบ้านพอตเตอร์คุยอะไรกันก็ไม่รู้แล้วปล่อยให้เขาเข้าไปนั่งรอในห้องนั่งเล่น พอตเตอร์ทั้งสามก็ตรงมานั่งล้อมเขาอยู่ข้าง ๆ ดูเหมือนมิสเตอร์และมิสซิสพอตเตอร์จะมีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดจนเดรโกเกิดความสงสัยขึ้นมา
"ที่แท้ก็เป็นเนื้อคู่ของเจ้าลูกชาย" พอตเตอร์คนพ่อกล่าวขณะยกชาอัสสัมขึ้นจิบ "ดวงดาวไม่เคยผิดพลาดหรอก ผมรู้ดี"
"ถ้าฉันเองไม่ได้ศึกษาเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่ได้พบเจอกับตัว ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกันค่ะ" พอตเตอร์คนแม่กล่าวเสริม
เอาล่ะ ตอนนี้พ่อมดไม่รู้ว่าคนเหล่านี้พูดถึงเรื่องอะไร แต่ได้ยินคำรื่นหูอย่างเนื้อคู่เขาก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันคงเป็นเรื่องที่ดี และอาจเป็นไปในทิศทางเดียวกับความรู้สึกของเขา แม้เดรโกจะไม่ได้แสดงสีหน้าโง่งมว่าไม่เข้าใจแต่คนงามของเขาก็ยังใจดีขยายความให้
"วีล่าทุกคนมีเนื้อคู่ และคุณเป็นเนื้อคู่ของผม"
คำพูดสั้น ๆ แต่ได้ความหมายทำให้ใจพ่อมดเต้นระรัว ราวกับกำลังจะยืนยันว่าเรื่องราวของครึ่งวีล่ากับเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
"ฉันก็แน่ใจว่าเธอคือเนื้อคู่ของฉัน" พ่อมดเอ่ยตอบคล้ายคนเหม่อลอย เขาแน่ใจจนไม่รู้จะแน่ใจได้มากกว่านี้ได้อย่างไร ถ้าทำได้ก็อยากจะผูกพันธะแล้วแต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
"ว่าแต่คุณมากับจักรยานเห่ย ๆ ของแฮร์รี่เหรอ" มิสเตอร์พอตเตอร์ถาม ใบหน้าที่คล้ายคลึงครึ่งวีล่าทำให้เขารู้สึกสบายตายามได้มอง เส้นผมสีเงินถูกตัดสั้น ช่างผิดแผกจากวีล่าที่เคยได้ยินมาจริง ๆ
"มันไม่ได้เห่ยครับพ่อ" คนงามของเขาย้อนทันควัน ดวงตาสีเดียวกับมารดาจ้องคนเป็นพ่อเขม็ง แต่พอตเตอร์คนพ่อกลับไม่ให้ความสนใจ ยังคงสนทนากับเดรโกต่ออย่างออกรสชาติเหมือนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ระแวงเขาหนักหนา
"เออ ผมมีบางอย่างที่สงสัย ถ้าพูดถึงการเดินทางนะ มันจริงไหมที่พวกพ่อมดแม่มดใช้ไม้กวาดในการเดินทาง ผมได้ยินเรื่องเล่ามาว่าอะไรก็ได้ขอแค่มีด้านให้จับ มีความยาวพอให้นั่งก็สามารถใช้เป็นพาหนะได้"
"ฉันเดาว่านั่นคงเป็นข้อสงสัยยอดนิยมของคนนอกสินะ" เดรโกเอ่ย นิ้วโป้งของเขาถูหัวมังกรแกะสลักบนไม้เท้าแผ่วเบา
"ไม่มีอะไรขับเคลื่อนได้โดยไร้พลังงาน ไม้กวาดพ่อมดก็เช่นกัน" เขาอธิบาย "ไม้กวาดถูกร่ายด้วยเวทมนต์เหาะเหินจึงทำให้มันบินได้ แต่หากพวกคุณถามฉันว่าใช้ไม้กวาดในการเดินทางไหม ฉันคงต้องตอบว่าแล้วแต่ความชอบ"
"พวกเราบางคนชอบเดินทางกับสัตว์วิเศษ บางคนชอบเดินทางด้วยไม้กวาด แต่สำหรับตัวฉัน ฉันนิยมใช้สองเท้าในการเดินทางมากกว่า แต่ถ้ารีบหน่อยและมีระยะทางไม่ไกล ฉันจะเลือกหายตัว"
"แล้วคุณทำให้ไม้กวาดที่บ้านผมลอยได้หรือเปล่า" พอตเตอร์คนพ่อยังคงถามอย่างตื่นเต้น ถึงกับลุกไปหยิบไม้กวาดจากด้านนอกมาให้เลยทีเดียว เดรโกคิดว่าเพราะเวทมนต์ของพวกเขาต่างกัน วีล่าผู้นี้จึงสนใจเวทมนต์ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายแขนงมากกว่า
เขาพยักหน้าก่อนจะมองไปยังไม้กวาดด้ามนั้น พ่อมดมองแล้วพึมพำคาถาในใจ ในวินาทีที่ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง ไม้กวาดในมือของมิสเตอร์พอตเตอร์ก็ค่อย ๆ เคลื่อนไหวจนดึงตัวผู้จับขึ้นไปห้อยต่องแต่งกลางอากาศด้วย
"คาถาเหาะเหินไม่ใช่คาถาถาวร ดังนั้นมันจึงมีวันหมดอายุ สำหรับไม้กวาดของคุณ ฉันจำกัดเวลาของมันไว้ที่ห้านาที ดังนั้นคุณจะลองเล่นกับมันสักหน่อยก็ได้" พ่อมดกล่าวก่อนจะละสายตาเพื่อหันไปมองคนงามของเขาให้มากขึ้น
เดรโกเผยรอยยิ้มที่ยากจะแปลความหมายออกมา
"แล้วเธอล่ะแฮร์รี่ของฉัน อยากจะลองขี่ไม้กวาดบินกับพ่อมดสักหน่อยไหม"
TBC.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in