“Vixx ได้เจาะลึกเข้าไปในการสร้างบทเพลงสไตล์ East Meets West แบบที่เราไม่คาดคิด” Billboard
“บทเพลงที่พิสูจน์ว่าพวกเขาคือclass act (บุคคลหรือสิ่งที่แสดงความเป็นเลิศอันน่าประทับใจและมีสไตล์) ที่แท้จริง” Dazed
“Shangri-La มีเอกลักษณ์แบบที่เราแทบไม่เคยได้ยินในเคป๊อบหรือโลกของR&B และนี้ยังเป็นหนึ่ง MV ที่ดีที่สุดของ K-Pop ในปี 2017” fuse.tv
ศิลปินวง Vixx เป็นบอยแบรนด์จากเกาหลีใต้ที่รู้จักในฐานะ Concept-dolด้วยการวางคอนเซปท์อันน่าสนใจในทุกครั้งที่คัมแบคทำให้แฟนๆต่างรอคอยเพลงใหม่จากหนุ่มๆทั้ง6 อยู่เสมอ โดยในปี 2017 นี้ถูกวางให้เป็นปีแห่งการฉลองครบรอบ 5 ปีของการเดบิวต์ซึ่งคอนเซปท์สำหรับมินิอัลบั้มล่าสุดของพวกเขาก็ได้ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องราวของการกำเนิดเช่นเดียวกันแต่สำหรับวิกซ์แล้วพวกเขาได้ตีความเรื่องการเกิดไปไกลว่าความบริสุทธิ์หรือความเป็นเด็กแต่สร้างความแปลกใจด้วยคอนเซปท์ Birth flower และ Birth flower ผ่านบทเพลง Shangri-La / 도원경(桃源境) ที่พูดถึงเรื่องราวของชายหนุ่มผู้หลงใหลในตัวหญิงสาว ราวกับมนุษย์ผู้หลงเข้าไปยังเมืองShangri-La
แน่นอนว่า Shangri-La ไม่ใช่ชื่อโรงแรมแต่คือดินแดนสมมุติที่ปรากฏในนวนิยายเรื่อง LostHorizon ของเจมส์ ฮิลตัน โดย Shangri-La ในภาษาธิเบตหมายถึงทางนำไปสู่ดวงตะวันและดวงจันทร์โดยดวงจิตหรือดินแดนอีกด้านหนึ่งของโลก(ข้อมูลจาก Sanook ) ทำให้ Shangri-La นั้นไม่ต่างกับแดนสวรรค์หรือดินแดน ณ โลกคู่ขนานที่อาจจะมีอยู่จริงแต่หากคุณเดินออกไปจากShangri-La ที่แห่งนี้จะหายไปตลอดกาล
ซึ่งหลังจากที่เราหาข้อมูลของ Shangri-Laทำให้พบว่ามิวสิควีดีโอได้ถ่ายทอดและสร้างสรรค์ดินแดนสวรรค์แห่งนี้อย่างสวยงามไม่เพียงแค่นั้นภาพของ MV ยังได้ผสมผสานเรื่องราวที่จะเป็นความจริงก็ไม่ใช้เป็นความฝันก็ไม่เชิงได้อย่างรื่นไหล ซึ่งจุดนี้เองคือ Concept หลักของเพลงที่ต้องการสื่อถือ2 สิ่งที่อยู่ขนานกันไม่ว่าจะความจริงหรือความฝัน พระอาทิตย์หรือพระจันทร์ไปจนถึงความเป็นหญิงและความเป็นชาย
สิ่งที่เราประทับใจที่สุดสำหรับ MV นี้คือการทำลายกำแพงของMasculinity แหวกคติความเป็นชายของสังคมตั้งแต่แนวเพลง ฉากหลังที่เต็มไปด้สนดอกไม้การใช้ชุดผ้าไหมไปจนถึง Performant ที่นำพัดมาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ Vixxได้ก้าวข้ามค่านิยมทางเพศที่ค่อนข้างถูกจำกัดสุดๆในสังคมเกาหลี
อีกหนึ่งสิ่งที่อยากพูดถึงคือเทคนิคการถ่ายภาพของมิวสิควีดีโอต้องบอกว่าทั้งมิวสิควีดีโอนั้นไม่ได้ใช้ CG เลยตลอดช่วงเวลากว่า 3 นาทีครึ่งนั้นผู้กำกับใช้มุมกล้องและวีธีการจัดไฟล้วนๆ
มาพูดถึงเพลงกันบ้างสำหรับเพลง Shangri-La นั้นเป็นเพลงในแนว Exotic/R&B-Electronic ที่ได้ผสมกลิ่นอายOriental ด้วยกายากึม เครื่องดนตรีเครื่องสายดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งสามารถเรียบเรียงเพลงให้ออกมาลื่นไหลและรู้สึกถึงความหรูหรา ด้วยดนตรีที่ค่อนข้าง Minimalist ทำให้เราสามารถได้ยินเสียงร้องที่เพิ่มความสมูทของเพลงได้อย่างชัดเจน(ซึ่งน่าประทับมากที่พวกเขาไม่ Auto Tune) ถึงดนตรีโดยรวมจะค่อนข้าง Minimalist เพราะการใช้เครื่องสายเป็นหลักรวมถึงการซินธิไซเซอร์ทำให้ภาพรวมของเพลงยังคงความEpic ได้
สำหรับตัวเอกของเพลงนี้จริงๆแล้วคือเนื้อเพลง แม้ภาพรวมของ MV และดนตรีจะดีมากพอที่การันตีคุณภาพของเพลงได้แต่ถ้าคุณเข้าเนื้อเพลงของShangri-La จะยิ่งทำให้เราทราบซึ้งกับบทเพลงได้มากขึ้น เนื่องจากแปลไทยอาจไม่ได้อรรถรสจึงเอาเนื้อเพลงภาษาอังกฤษมาเป็นตัวอย่าง
I’m drunk on you,
leaning on a distant scent.
Leaving time behind,
looking at you.
When the white moon rises,
I look at you reflected in the moon.
My days and nightsare all you,
you fill them in (without a gap).
Every breath I hear
makes me think that it’s you.
Paint it in more,in stronger colors.
This night is spreading deeper inside of me
so I cannot escape.
I close my eyes and look for you within myself.
I get drunk, even drunker.
I want to fall deeper into this dream.
You come to me
and sink into only me.
CR. http://itshysterie.tumblr.com/post/160690361938
เราเชื่อว่าหลายคนอาจยังมีอคติกับวงการ K-Pop แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาศิลปินหลายวงก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่เพียงแค่ Vixx เท่านั้นแค่ยังมีศิลปินอีกมากมายที่ทุ่มเทกำลังทั้งหมดของเขาไปกับการทำเพลงหากคุณลองเปิดใจและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ จะรู้ว่าดนตรีดีๆยังมีอีกมากมายไม่ใช้แค่ใน Billboard Chart
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in