เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WHAT NAMFA READwhatnamfathinks
#น้ามฟ้าอ่าน : รีวิว The Song of Achilles (2011)

  • The Song of Achilles 
    Author: Madeline Miller



    เป็นการเขียนรีวิวที่เราคาดว่าน่าจะไม่ยาวมาก แถมยังไม่รู้ด้วยว่านี่มารีวิวหรือมาอะไร น่าจะเป็นเหมือนการฟังเราบ่นในเวอร์ชั่นตัวอักษรมากกว่า แหะ ๆ เริ่มเลอ 



    เรื่องย่อ

    The Song of Achilles (หรือที่ต่อไปเราจะเรียกสั้น ๆ ว่า tsoa) เป็นการนำเหตุการณ์ช่วงหนึ่งในมหากาพย์ Iliad มาเล่าและเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบ fiction โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์และเรื่องราวของสองตัวเอก ดำเนินเรื่องด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1 ซึ่งก็คือ Patroclus กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เขาได้ประสบ ตั้งแต่วัยเยาว์ที่ได้พบเจอกับ Achilles ไปจนถึงวัยรุ่น และวัยที่เริ่มเติบโต ความรู้สึกของทั้งคู่ที่ค่อย ๆ ก่อตัว การพัฒนาของความสัมพันธ์ที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายมาเกี่ยวข้อง และแน่นอนว่าก็ต้องมีสงครามกรุงทรอย ที่จะพรากทุกอย่างไปจากทั้งคู่



    บ่น + รีวิว + วิเคราะห์ตัวละคร ปน ๆ กันไป (แยกหมวดหมู่ไม่ถูก y - y)

    จากที่เขียนไปตรงเรื่องย่อว่า tsoa ดำเนินเรื่องด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1 ซึ่งก็คือตัวพาโตรคลัส เราค่อนข้างนับถือคนที่เขียนอะไรสักอย่างด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1 คนเดียวได้ตลอดเรื่อง เพราะส่วนตัวรู้สึกว่ามันยากมากในการบรรยายอะไรสักอย่างด้วยมุมมองของคนคนเดียวจนกระทั่งบทสุดท้าย แต่คุณ Madeline ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ทำได้ และเขียนออกมาได้ลื่นไหลมาก ๆ ในฐานะผู้อ่าน เรารู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในหัวสมองของเขา ได้รับรู้ และเข้าใจทุก ๆ แง่มุมที่พาโตรคลัสเป็น เรื่องที่เขาพบเจอตั้งแต่เด็ก ความคิด ทัศนคติ ความเป็นห่วงที่มีให้ไบรเซอิส ความรักที่มีให้อคิลลิส etc บรรยายออกมาได้ดีมาก ๆ จริง ๆ 

    พาโตรคลัสเป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนด้วยความรักอย่างแท้จริง อ่านไปก็จะ เอ้อ พูดถึงอคิลลิสอีกแล้ว นึกถึงอคิลลิสอีกแล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงวินาทีที่ตัวเองลำบากจะแย่ ก็ยังคิดถึงอคิลลิส อย่างที่บอกไปว่า ผู้อ่านเหมือนได้เข้าไปในสมอง จิตใจ และตัวตนของพาโตรคลัสจริง ๆ เราจะรับรู้ความคิด ความรู้สึกของเขาผ่านทางการบรรยายนี้ อันนี้ต้องอ่านจริง ๆ เพราะถ้าเราเขียนรายละเอียดอะไรไปก็จะเหมือนการสปอยล์เนื้อเรื่อง ตอนอ่าน เราจะได้ก้าวไปกับพาโตรคลัสในทุก ๆ step ของชีวิต เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ และความรักที่เขามีให้อคิิลลิสก็จะสื่อออกมาอย่างชัดเจนผ่านทุก ๆ ตัวอักษร 

    อคิลลิส ชื่อเรื่องก็เขียนอยู่ว่าเป็น "The Song of Achilles" สำหรับเรา song ที่ว่านี่ "ไม่ใช่" การพยายามอวยยศสรรเสริญอคิลลิสว่าเป็นวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ว่องไว รบเก่ง ฆ่านายพลที่แข็งแกร่งที่สุดผู้ที่แทบจะหาใครเทียบไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นหัวหอกของกรุงทรอยอย่างเฮคเตอร์ได้ เราคิดว่าผู้เขียนอยากจะสื่อให้เห็นว่าอคิลลิสก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่แม้จะมีเชื้อสายเทพเจ้า (เพราะแม่ของอคิลลิสเป็น lesser goddess) และออกจะตกเป็นเหยื่อของโชคชะตาที่น่าเศร้าเสียด้วยซ้ำ ด้วยความที่ตำนานกรีกเนี่ย พวกเหล่าเทพ เทพี ใคร ๆ ก็แล้วแต่ คือจะมีอารมณ์ความรู้สึกกันหมดเลย บรรดาเทพนั้นมีอารมณ์รักใคร่ เศร้าสร้อย โกรธ เกลียดแค้น โมโห ดังนั้นเหล่าเทพก็เลือกข้าง และไม่มีเทพองค์ใดเลยที่อยู่ข้างอคิลลิส ยกเว้นแม่ของเขา ที่ไม่ว่าจะพยายามทำทุกวิถีทางยังไงก็ไม่สามารถช่วยลูกชายของตนได้อยู่ดี อคิลลิสเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ต้องโดนบีบบังคับให้เลือกทางเดินที่มีเพียงแค่สองทางในชีวิต ทางแรกคือการมีชีวิตที่รุ่งโรจน์หากแต่แสนสั้น และอีกทางคือการได้ใช้ชีวิตยาวนาน แต่ก็จะไร้ซึ่งการจดจำ ซึ่งสำหรับเรา choices ที่ว่านี่มันเลือกยากมากเลยนะ แล้วอคิลลิสล่ะ? เราเคารพการตัดสินใจของเขานะ อีกอย่างคือเราประทับใจพาโตรคลัสมาก ๆๆๆๆ อีกแล้ว อย่างที่เขียนไว้ว่าเขารักอคิลลิสมากจริง ๆ และความรักนี้ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน ผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่พาโตรคลัสทำ การอยู่เคียงข้างอคิลลิสตลอด

    กลับมาที่ประเด็นเรื่อง song ใหม่ ที่เราเขียนไว้ว่าสำหรับเรามันไม่ใช่การอวยยศสรรเสริญอคิลลิส แล้วมันคืออะไรล่ะ? เราเขียนไปแล้วว่าอคิลลิสก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ชีวิตต้องถูกคำทำนายขีดเส้นทางให้เลือกแค่สองทาง และการเลือกของเขาก็นำไปสู่ glory ที่บรรดามนุษย์ยังคงบอกกล่าวเล่าขานกันจนถึงทุกวันนี้ แต่ glory ที่ว่านั้นคืออะไร หลายคนจดจำอคิิลลิสในฐานะวีรบุรุษผู้แข็งแกร่ง เด็กชายที่โดนแม่จับจุ่ม Styx River เลยทำให้ผิวกายแข็งแกร่งดุจเหล็ก นักรบที่ฆ่าศัตรูได้ไม่เลือกหน้า จะว่าอย่างนั้นเราก็ เออ ก็ได้ โอเค เราไม่ได้ปฏิเสธความจริงที่ว่าอคิลลิสฆ่าคน ฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เพราะ "คำทำนาย" ที่เขาต้องเลือกนั่นน่ะหรือที่ทำให้อคิลลิสเป็นแบบนี้ (เราคิดว่าน่าจะมีเรื่องค่านิยมของยุคสมัยที่เรียกว่า ârete เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ในหนังสือไม่ได้เขียนไว้ เราก็เลยจะไม่พูดถึง) ถ้าลองอ่านท้าย ๆ เล่ม เราว่าหลายคนก็คงจะคิดเหมือนเรา ว่าอคิลลิสไม่สมควรถูกจดจำว่าเป็นแค่นักรบ เกิดมาเพื่อรบ ๆ ฆ่า ๆ พาชาวกรีกให้ชนะกรุงทรอย แต่มันยังมีอีกหลายสิ่งที่น่าจดจำเกี่ยวกับเขา เส้นผมสีทองปลิวไสว ดวงตาสีเขียว เสียงอันไพเราะยามที่อคิลลิสร้องเพลงในตอนที่ดีดพิณ ความรักที่มีให้พาโตรคลัสจนเป็นแรงผลักดันให้ทำบางสิ่งบางอย่าง หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อคิลลิสเลือกทำในช่วงสงครามกรุงทรอย ไม่ว่าจะเป็นเพราะความรู้สึกใด ๆ ก็แล้วแต่ เราอยากให้อคิลลิสเป็นที่จดจำในแง่นี้ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่จดจำแค่ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นเครื่องจักรสังหาร เพราะเขามีค่ามากกว่านั้นจริง ๆ 

    สำหรับความสัมพันธ์ของพาโตรคลัสและอคิลลิส คงต้องเรียกว่าเป็น love story with tragic ending ก็แล้วกัน เราร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลตอนช่วงท้าย ๆ ของเรื่อง ถ้าใครไม่อยากร้องไห้เราก็ไม่อยากจะแนะนำให้อ่าน แต่เนื้อเรื่องทั้งหมดมันก็ดีมาก ๆๆๆๆ จริง ๆ จนไม่อยากให้พลาด ดังนั้นไปอ่านเถอะ 5555555 การบรรยายของคุณ Madeline คือดีมากกกกกกกก ภาษาสวยหมดจด ช่วงครึ่งแรกคือเขิน ยิ้มแก้มแตก มันอ่อนโยน นุ่มนวลในหัวใจไปหมด แต่พอเป็นช่วงที่เริ่มตึงเครียด เริ่มมีจุดพลิกผันอะไรแบบนี้ เขาก็พาผู้อ่านอินไปได้ตลอดเลยเหมือนกัน เราอยากจะยกโควทหลายโควทมาแปะไว้ในบทความรีวิวนี้สุด ๆ แต่ก็จะยิ่งสปอยล์หนักเข้าไปใหญ่ อยากให้ไปอ่านและซึมซับเองน่าจะดีที่สุดแล้ว

    ถ้าจะถามเราว่า แล้วสรุปพาโตรคลัสกับอคิลลิสเป็นอะไรกัน เราก็ต้องบอกก่อนว่า ถ้าจำไม่ผิด ใน Iliad ก็ไม่ได้ระบุความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไว้อย่างชัดเจน ส่วนเรื่อง position ของความสัมพันธ์นั้นก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ เช่น นักปราชญ์อย่าง Plato และ Aeschylus ก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน อะไรทำนองนี้ ใน tsoa ก็ไม่ได้เขียนไว้ชัดเจนโต้ง ๆ แหละว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน แต่จากการรับรู้ผ่านมุมมองความรู้สึกของพาโตรคลัส คำพูด การกระทำของตัวละคร เราว่าก็น่าจะชัดเจนแล้วนะว่ายังไง ๆ ก็มากกว่าเพื่อนแน่นอน มากกว่าแบบมากกกกกก มากกกกกกกกกก เลย ต้องไปอ่านเอง (อีกแล้ว) ถึงจะรู้ 
  • รวม ๆ แล้ว เราชอบนิยายเล่มนี้มากถึงมากที่สุด เหมือนได้ติดตามชีวิตคนสองคนในทุก ๆ แง่มุม ตั้งแต่วัยเยาว์ไปจนถึงผู้ใหญ่ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาข้องเกี่ยว เรียกได้ว่าเป็นการนำ Iliad มา retell ได้แบบไม่น่าเบื่อเลยสักกะติ๊ด ทุกหน้า ทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร มีความหมายและมีคุณค่ามาก ๆ เราว่าการเอา mythology มาเรียบเรียงและเขียนใหม่แบบนี้เป็นอะไรที่งดงามนะ ถ้าสมมติว่าไม่อินกับความรัก ความสัมพันธ์ของสองตัวละครหลัก ประเด็นอื่น ๆ ในเรื่องก็ยังมีคุณค่าอยู่ดี เหมือนเราได้เห็นทัศนคติของคนยุคนั้นที่เขาถ่ายทอดออกมาผ่านตำนาน (เช่น ทัศนคติที่มีต่อผู้หญิง เป็นต้น) รวมถึงการแสดงให้เห็นถึง "ความเป็นมนุษย์" ของทุก ๆ ตัวละคร ทั้งผู้ที่เป็นอมตะและไม่เป็นอมตะ เพราะแม้แต่เหล่าเทพก็ยังมีอารมณ์ความรู้สึก และเราว่านี่เป็นเสน่ห์ของเทวตำนานกรีกมาก ๆๆๆ 

    นอกเหนือจากที่เราเขียนไปข้างต้น, เนื้อเรื่องที่กินใจและ captivating มาก ๆ , ความสัมพันธ์ที่สวยงามของพาโตรคลัสและอคิลลิสแล้ว นิยายเรื่องนี้ก็ยังมีตัวละครอีกเยอะแยะมากมายรวมถึงสตอรี่ที่น่าสนใจเยอะแยะเต็มไปหมด มีหลายตัวละครมากที่เราอยากจะพูดถึง ทั้ง Thetis, Briseis (ที่ deserve better ทั้งคู่ ทำไม myth กว่า 80% ของทุกเรื่องบนโลกต้องใจร้ายกับตัวละครหญิง), Hector (ที่เราบ่นกับเพื่อนไปว่าต้องคอยตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้น้องชาย; ปารีส), และแน่นอนว่า Odysseus /วาดหัวใจยี่สิบดวง แต่เวิ่นไปก็จะออกนอกทะเล แต่เอาเป็นว่าชี cunning มาก ๆ ประทับจัย เขิน ขอฟื้นฟูสภาพจิตใจจาก tsoa ก่อน สัญญาว่าจะอ่าน Circe ให้ได้เลอ /เกี่ยวก้อย


    ขออนุญาตยกหนึ่งในโควทที่เราชอบมาก ๆ จากหนังสือมาหนึ่งท่อน แม้จะเลือกยากมากก็ตาม จริง ๆ เราเคยแปลไว้แล้ว แต่ไม่กล้าแปะ เพราะกลัวเก็บความได้ไม่สละสลวยเท่าที่คุณ Madeline ต้องการจะสื่อ งั้นแปะไว้แค่ออริจินัลก็แล้วกัน:


    Perhaps in some other life I could have refused, could have torn my hair and screamed, and made him face his choice alone. But not in this once. He would sail to Troy and I would follow, even into death. 

    -


    Goodreads 4.4/5 
    #น้ามฟ้าอ่าน ให้ 100000000/5 ขอบคุณค่ะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in