เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลบทสัมภาษณ์Ryuuseisan★彡
[แปลบทสัมภาษณ์] Liella! เพย์ตัน นาโอมิ จากนิตยสาร LoveLive!Days Vol.19
  • บทสัมภาษณ์เพย์ตัน นาโอมิซัง
    ~จุดเริ่มต้นของทั้ง 3 คน~

    มิซากิ นาโกะ・Liyuu・เพย์ตัน นาโอมิ

             เพย์ตัน นาโอมิซัง ผู้รับบทเป็นเฮอันนะ สุมิเระที่เป็นที่รู้จักด้วยประโยค “กาแล็คซี่!” การที่บอกว่าตัวเองเป็น “คนที่อยู่ในเงามืด” มาก่อนนั้นบังเอิญซ้อนทับกับสุมิเระอย่างพอดิบพอดี แสดงให้เห็นถึงอีกมุมของเธอที่คาดไม่ถึงมาก่อน


    “เพราะเคยสัมผัสความล้มเหลวมาก่อน เลยอยากเป็นคนที่เข้าใจสุมิเระจังที่สุดอยู่เสมอ”

    เด็กสาวที่อยู่ในเงามืดมาตลอด ใฝ่ฝันถึงไอดอลที่เปล่งประกายอยู่ในแสง

    — เพย์ตันซังเคยมีประสบการณ์เป็นไอดอลมาก่อนสินะคะ ช่วยบอกถึงเหตุผลที่มาตั้งเป้าเป็นไอดอลหน่อยค่ะ
             เป็นเหตุผลที่เรียบง่ายมากๆ เลยค่ะ! เพราะชอบการร้องการเต้นมาตั้งแต่เด็กๆ เลยคิดมาตลอดว่าในอนาคตอยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับดนตรีค่ะ ต่อมาตอนประมาณป.1 ก็ไปเห็นไอดอลที่กำลังร้องเพลงในทีวีเข้าเลยคิดว่า “ดีจัง ฉันก็อยากเป็นบ้าง!” เลยเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ คนที่เปล่งประกายในฐานะไอดอลมีสิ่งที่ฉันไม่มี เลยคิดว่าอยากเปล่งประกายให้ได้แบบนั้นบ้าง ที่จริงแล้วฉันเป็นคนที่สื่อสารกับคนอื่นไม่เก่งแบบสุดๆ มาตั้งแต่เด็กแล้ว คุยกับคนอื่นไม่เป็นแบบที่จะโดนมองว่า “เด็กคนนี้เป็นอะไรไหมนะ?” ยิ่งกว่าเข้ากับคนแปลกหน้าไม่ได้ซะอีกค่ะ คิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนที่อยู่ในเงามืดเลยใฝ่ฝันว่าอยากเป็นคนที่แสงส่องถึงมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วค่ะ

    — สำหรับเด็กขี้อายแล้วถือเป็นความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกครั้งใหญ่เลยสินะคะ
             จากนั้นก็คิดว่า “ฉันเองก็อยากยืนอยู่ในแสงบ้าง” เลยเริ่มอยากเป็นหัวหน้าห้องและอยากเข้าร่วมทีมเชียร์แต่ก็ไม่กล้าสมัครสักที นอกจากนี้ตอนป.4 ยังเคยลองเริ่มเล่นเปียโนเพราะอยากเล่นในการประกวดร้องเพลงด้วยค่ะ ถึงจะเข้ารอบออดิชั่นของในห้องแต่ก็กลัวที่จะต้องยืนบนเวทีอยู่ดีเลยบอกไปเองเลยว่า “ไม่เอาแล้วค่ะ” แล้วหนีมาค่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังนึกเสียใจอยู่เลยค่ะ สุดท้ายแล้วเด็กที่เล่นเปียโนเก่งในห้องก็ได้รับเลือก... เลยนึกเกลียดตัวเองค่ะ มีแค่ตอนนั้นเลยค่ะที่รู้สึกเกลียดตัวเองจริงๆ

    ลองกลับเข้าเส้นทางสายไอดอลอีกครั้ง! การพบกับสุมิเระที่คล้ายกับตัวเอง

    — มาพบกับซีรีส์ LoveLive! ได้อย่างไรเหรอคะ?
             ตอนอยู่ป.6 ค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เข้ากับคนรอบข้างไม่ได้ เลยตั้งใจว่าจะสอบเข้าโรงเรียนเอกชนม.ต้นจะได้อยู่คนละโรงเรียนกันไปค่ะ พยายามอ่านหนังสือที่ไม่ถนัดไป ร้องไห้ไปอยู่ทุกคืนเลยล่ะค่ะ... แล้วตอนนั้นเอง พอถึงวันสิ้นปีก็คิดว่าไหนๆ แล้วดูทีวีดีกว่าเลยดูรายการประชันดนตรีขาวแดงกับที่บ้านและได้พบกับ μ's ซังในตอนนั้นค่ะ โดนความน่ารักของยาซาวะ นิโกะจังขโมยหัวใจไปตั้งแต่อนิเมชั่นก่อนเริ่มเลยค่ะ หลังได้ดู Performance ของ μ's ซังหัวใจก็เต้นรัวไม่หยุด ตื่นเต้นแบบสุดๆ ว่า “นี่แหละไอดอลที่อยากเป็น!” ตั้งแต่ได้รู้ว่า “ทั้งน่ารักแล้วก็เก่งทั้งร้องทั้งเต้นตั้งขนาดนี้ แต่ที่จริงแล้วเป็นเซย์ยูซังเหรอเนี่ย!” ก็ยิ่งตกหลุมรักเข้าไปอีกเลยค่ะ ติดถึงขนาดที่ว่าเปิดดู Performance ของ μ's ซังทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนเลยค่ะ เพราะอัดเอาไว้ด้วย

    — ตอนที่ได้ยินเรื่องการออดิชั่น「LoveLive! Superstar!!」นี่รู้สึกอย่างไรบ้างคะ?
             ตกใจมากเลยค่ะที่มีคำเชิญออดิชั่นส่งมาที่ต้นสังกัด แต่ฉันมีประสบการณ์เป็นไอดอลมาก่อน แถมพอลองเป็นจริงๆ ก็ได้รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นไอดอลเลย คิดว่าไอดอลคือสิ่งที่สาวญี่ปุ่นน่ารักๆ เป็นกัน แต่ฉันเป็นลูกครึ่งอเมริกาเลยรู้สึกว่าเรื่องนั้นเป็นปมด้อยมาตลอด... ทั้งกังวลและเจ็บปวดเรื่อยมา คนรอบข้างก็บอกว่า “ลูกครึ่งน่ะไม่ไหวหรอก” แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากยอมแพ้เลยใฝ่ฝันที่จะเป็นไอดอลมาตลอดค่ะ แต่หลังจากได้เป็นไอดอลจริงๆ แล้ว ด้านเงามืดของตัวเองกลับโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในอีเว้นท์ Greeting คนที่เป็นที่นิยมจะมีแต่คนเรียกตลอด ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น เลยคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าเพราะตัวเองเป็นคนมีปัญหา เพราะเกิดเรื่องนั้นขึ้นเลยคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับเป็นไอดอลแล้วล้มเลิกไปค่ะ

    — แต่ก็ตัดสินใจแน่วแน่เลยใช่ไหมคะว่าจะสมัคร?
             โดนถามมาว่า “จะออดิชั่นเป็นคนไหน?” โดยไม่มีแม้แต่เวลาให้มาลังเลเลยค่ะ (หัวเราะ) พออ่านรายละเอียดของเฮอันนะ สุมิเระก็มีเขียนไว้ว่า “เป็นที่รู้จักในระแวกใกล้ๆ แต่พอเข้าวงการแล้วไม่ได้รับบทตัวหลักและไม่มีเพื่อนเลยตัวคนเดียว” ฉันคิดว่าเหมือนตัวเองยังไงไม่รู้เลยหลงเสน่ห์ของสุมิเระจังเข้าค่ะ เพราะชอบคนที่ชอบทำตัวเหนือกว่าคนอื่นด้วยเลยรวบรวมความกล้าตัดสินใจแล้วบอกออกไปว่า “อยากเป็นคนนี้ค่ะ ฉันสมัครค่ะ!”

    — เผชิญหน้ากับการออดิชั่นอย่างไรบ้างคะ?
             ซ้อมอย่างเดียวเลยค่ะ! เพราะคิดว่าซ้อมเท่าไหนผลลัพธ์ก็จะออกมาเท่านั้นเลยคิดถึงเรื่องนั้นเป็นอันดับแรกเลยค่ะ อ่านซ้ำๆ อ่านซ้ำๆ แล้วก็ไปที่ต้นสังกัดเพื่อขอคำแนะนำ คิดแต่เรื่องสุมิเระจังอยู่ทุกวันเลยค่ะ (หัวเราะ) แล้วตอนออดิชั่นรอบสตูดิโอก็ตั้งใจว่าต้องบอกให้ได้ว่า “ฉันถนัดการร้องเพลงค่ะ” เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำมาตลอด ฉันไปคาราโอเกะกับคุณแม่แล้วให้คอยแนะนำให้อยู่ทุกวันเลยค่ะ เพราะคุณแม่เล่นเปียโนมาตลอดเลยจะค่อนข้างจู้จี้เรื่องดนตรีค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็ตอนคัดเลือกรอบที่สองบังเอิญเป็นช่วงกลับจากเลิกเรียนพอดีเลยไปในชุดนักเรียนทั้งๆ แบบนั้นเลยค่ะ เพราะอยากแสดงความเป็นนักเรียนสาวม.ต้นตัวจริงเหมือนอย่างสุมิเระจังค่ะ

    — ได้ยินว่าเจอกับดาเตะ ซายุริซังในการคัดเลือกรอบสุดท้ายระหว่างรอด้วย พอจะจำได้ไหมคะ?
             จำไม่ได้เลยค่ะ แต่พอซายุรินมาบอกถึงได้นึกออกค่ะ! เพราะตื่นเต้นจนขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียวเลยนั่งตัวแข็งอยู่ที่เก้าอี้หน้าล็อบบี้ แล้วก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงที่ทั้งเสียงแล้วก็หน้าตาน่ารักมากๆ นั่งอยู่แล้วมาทักจากข้างๆ ว่า “สวัสดีค่ะ” ฉันเลยตอบกลับไปว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ดูจากการทักทายแล้วก็คิดว่าเป็นเด็กธรรมดา (ไม่ได้อยู่ในวงการ) แต่ไม่นึกเลยว่านั่นจะเป็นซายุรินค่ะ ดีใจมากๆ เลยที่ซายุรินจำได้ เพราะฉันตื่นเต้นจนความทรงจำปลิวหายไปหมดเลยค่ะ...

    — ตอนรอบสุดท้ายคิดไหมคะว่าจะผ่าน?
             เลวร้ายมากเลยค่ะ ตอนแนะนำตัวรอบสุดท้ายดันลนเข้าเลยเผลอพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงไป ทั้งๆ ที่มาชอบ (LoveLive!) ตั้งแต่ดูงานขาวแดงตอนป.6 แท้ๆ แต่กลับเผลอพูดออกไปว่า “ชอบตั้งแต่ดู LoveLive! Fes ค่ะ”... เพราะตื่นเต้นเลยทำอะไรลงไปก็ไม่รู้ค่ะ

    — แต่ก็ได้รับแจ้งว่าผ่านสินะคะ
             ตอนที่รู้ว่าผ่านคือกระโดดจนตัวลอยเลยค่ะ! ในเชิงฟิสิกส์เลยล่ะนะคะ! แถมยังได้เป็นสุมิเระจังด้วย น้ำตาร่วงไม่หยุดเลยค่ะ ดีใจมากจริงๆ แล้วก็คิดว่าดีแล้วที่ไม่ยอมแพ้เรื่องออดิชั่นไป ตั้งแต่ผ่านการออดิชั่นของLoveLive! Superstar!!ก็รู้สึกว่าความรู้สึกต่อคนรอบข้างว่าตนเองมีปมด้อยก็ลดลงนะคะ ก่อนหน้านี้เอาแต่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่า “คนนั้นมีความพยายามมากเลยเนอะ เก่งจัง ส่วนคนนั้นก็มีความสามารถด้านกีฬาแท้ๆ แต่ยังเรียนเก่งอีก สุดยอดเลยเนอะ ถ้าเทียบกับตัวเองแล้ว...” แต่ฉันเองก็ทำอะไรที่น่าภูมิใจได้แล้วเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนนั้นฉันไม่กลัวที่จะดูผลการเรียนตัวเองอีกเลย แล้วไม่รู้ทำไมเกรดเองก็ดีขึ้นนิดนึงด้วยค่ะ คิดว่าเพียงแค่มองในแง่บวกมากขึ้น ตัวเองก็เหมือนจะเปลี่ยนไปหน่อยๆ ล่ะค่ะ

    อยากเป็นคนที่เข้าใจสุมิเระที่สุดอยู่เสมอ ทั้งสองคนที่ลองพยายามท้าทายความฝันที่ไขว่คว้าไว้อีกครั้ง

    — หลังจากผ่านการออดิชั่นและได้ทำกิจกรรมต่างๆ มาถึงตอนนี้ ความรู้สึกต่อสุมิเระเปลี่ยนไปบ้างไหมคะ?
             ตั้งแต่ TV อนิเมะเริ่มก็จะเห็นด้านที่มีทิฐิสูงและทำตัวเหนือกว่าคนอื่น แต่ด้านที่มืดมนเองก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในตัวของสุมิเระค่ะ การที่อยากเป็นตัวเอกแต่กลับไม่ได้เป็นนั้น ไม่ว่ายังไงก็ทำให้คิดว่า “เป็นคนที่อยากเปล่งประกายเหมือนกันทั้งคู่” สินะล่ะค่ะ คิดว่ามีจุดที่เข้าใจกันมากกว่าคนอื่นๆ ด้วย และเพราะเคยสัมผัสความล้มเหลวมาก่อนเหมือนกันเลยอยากเป็นคนที่เข้าใจสุมิเระจังที่สุดอยู่เสมอ ตอนนี้ก็คิดจากใจเลยค่ะว่า “ขอบคุณที่มาพบกันนะ”

    — มีความฝันหรือเป้าหมายอะไรในฐานะ Liella! ไหมคะ?
             ตอนนี้อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ก่อนอื่นเลยคืออยากได้ยินเสียงคอลของทุกคนที่อุตส่าห์เป็นกำลังใจให้ค่ะ! แล้วก็อยากทำให้ทัวร์ในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีและสานต่อไปสู่งานอื่นในอนาคตค่ะ จะพยายาม...เพื่อที่จะทำให้ทุกคนที่มากันใจละลายให้ได้นะคะ (หัวเราะ) แล้วก็อยากให้ทุกคนที่เป็นลูกครึ่งเหมือนกันกับฉันมั่นใจในตัวเองว่า “ตัวเองก็สามารถเป็นไอดอลได้” ค่ะ เพื่อที่จะสามารถมอบความหวังให้กับคนอื่นได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี จากนี้ก็จะพยายามชาเลนจ์งานต่างๆ ต่อไปอย่างเต็มกำลังนะคะ

    — สุดท้ายนี้ช่วยฝากอะไรถึงผู้อ่านทุกคนหน่อยค่ะ!
             หลังจากได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้วอาจจะมีคนที่รู้สึกว่า “ไม่เหมือนเปจังที่คิดไว้เลย” ก็เป็นได้ แต่จุดที่สดใสร่าเริงในรายการสดเองก็เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน และส่วนที่มืดมนนิดๆ นี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉันเช่นกันค่ะ เพราะคิดว่าถ้าสามารถสื่อสิ่งนี้ออกไปได้ก็คงดีเลยเล่าออกมาค่ะ ตอนนี้กำลังพยายามซ้อมอย่างเต็มกำลังเพื่อเตรียมพร้อมสู่ทัวร์ที่กำลังจะมาถึงเลยค่ะ แน่นอนว่ารู้สึกกังวลอยู่ด้วย แต่จะพยายามเพื่อสลัดความรู้สึกนั้นออกไปแล้วสนุกอย่างเต็มที่ไปพร้อมกับทุกคนนะคะ! ตั้งตารอที่จะได้พบกันเลยค่ะ!

    เพย์ตัน นาโอมิซัง ผู้รับบทเป็นเฮอันนะ สุมิเระ

    เพย์ตัน นาโอมิ
    เล่าให้ฟังว่าชอบดนตรีและอนิเมะตั้งแต่เด็ก และติดอนิเมะหรือมังงะที่มีเด็กสาวทำกิจกรรมต่างๆ ตกหลุมรักยาซาวะ นิโกะจาก μ's ตั้งแต่แรกพบ ซีนที่ชอบคือ「LoveLive!」ภาค 2 ตอนที่ 11 ตอนที่นิโกะบอกว่า “ต้องทำต่อไปนะ!” เพื่อให้ μ's ยังคงอยู่ต่อไป

    นิตยสาร LoveLive!Days Vol.19 วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2021


    【SPOT】TV Anime『Love Live! Superstar!!』ED「Mirai wa Kaze no You ni」



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in