Bad Guys
ประเภท : อาชญากรรม / แอคชั่น / ระทึกขวัญ ช่อง ocn ปี 2014 11 ตอน
นักแสดงนำ
- Kim Sang Joon (ผลงาน Rebel / The Jingbirok: A Memoir of Imjin War)
- Ma Dong Suk (ผลงาน Police Unit 38 / ภาพยนตร์ Train To Busan)
- Park Hae Jin (ผลงาน Cheese In The Trap / Man To Man / Doctor Stranger)
- Jo Dong Hyuk (ผลงาน Rude Miss Young-Ae SS 15 / Inspiring Generation)
- Kang Ye Won (ผลงาน Man Who Dies to Live / Baek Hee Has Returned)
เรื่องย่อ
โอกูทัก (รับบทโดย คิมซังจุน) ตำรวจบ้าดีเดือดตัดสินใจตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษ ที่รวมเอานักโทษในเรือนจำที่มีความสามารถ มาทำงานร่วมกัน ทั้ง นักฆ่า นักเลง และฆาตกรต่อเนื่อง นอกจากประโยชน์ของการทำงานจับกุมคนร้าย ความจริงโอกูทักเองมีความสงสัยบางอย่างที่ต้องการพิสูจน์ เมื่อ อีจองมุน (รับบทโดย พัคแฮจิน) ฆาตกรต่อเนื่องหนึ่งในสมาชิกของทีม เป็นคนฆ่าลูกสาวของเขา แต่นั่นอาจไม่ใช่ความจริง...?
ตัวอย่าง
Bad Guys: City of Evil
ประเภท : อาชญากรรม / แอคชั่น ช่อง ocn ปี 2018 16 ตอน
นักแสดงนำ
- Park Joong Hoon (ผลงาน ภาพยนตร์ Radio Star / Hanji)
- Joo Jin Mo (ผลงาน Woman with a Suitcase / Empress Ki)
- Yang Ik Joon (ผลงาน Mystery Queen / Scholar Who Walks the Night)
- Kim Moo Yul (ผลงาน My Beautiful Bride / Chosun Police SS2)
- Ji Soo (ผลงาน Strong Woman Do Bong Soon / Fantastic / Moon Lovers)
เรื่องย่อ
เมื่อการทำงานของอัยการมิได้อยู่เพียงในห้องพร้อมกองเอกสาร แต่ต้องออกแรงลงพื้นที่ และจัดการกับเหล่านักเลงลูกน้องเจ้าของกิจการใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงกินของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อัยการขาลุยอย่าง อูแจมุน (รับบทโดย พัคจุงฮุน) จึงตัดสินใจสละงานสบายบนโต๊ะ จับมือกับเจ้าของร้านอาหารอดีตนักเลงหัวไม้ พนักงานสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วเรียกตัวอัยการรุ่นน้องมาทำงานแทน
ตัวอย่าง
เรตติ้งเฉลี่ย 3 - 4 % (ทั้ง 2 ภาค)
***สำหรับเรตติ้งของรายการช่องเคเบิ้ลเช่น tvN OCN หรือ JTBC เวลาจะบอกว่ามากหรือน้อยหากต้องการเทียบกับช่องหลักก็มักจะให้นำเรตติ้งมาคูณ 2 - 3 โดยประมาณ***
ซีรี่ส์เรื่องนี้น่าจะเป็นซีรี่ส์ ocn เรื่องแรกๆที่เป็นที่รู้จักของแฟนซีรี่ส์เกาหลีชาวไทย ด้วยกระแสปากต่อปากถึงความบ้าดีเดือด รุนแรงทั้งการใช้ภาษา และการใช้กำลัง โดยทุกตอนเราจะต้องได้ดูฉากแอคชั่นมันๆกันตลอด
2 ภาคจะมีลักษณะการเล่าเรื่องต่างกันอยู่บ้าง โดยภาคแรกจะเน้นไปที่คดีฆาตกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งตัวคดีหลักของเรื่องที่เป็นเรื่องราวของพระเอก คดีย่อยๆ และเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว ส่วนภาค 2 จะต่างออกไป ตรงที่ตัวคดีหลักจะเป็นการเปิดโปงการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แม้จะมีเรื่องการฆาตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่คดีหลักของเรื่องเป็นการโกงกิน ซึ่งส่วนนี้จะทำให้นอกจากแอคชั่นที่เราเห็นได้จากทั้ง 2 ภาค ยังได้เห็นส่วนของกระบวนการตามล่าหาความจริงเพื่อนำมาใช้ในทางกฎหมาย การหลอกล่อและสะท้อนคุณธรรมของคนทำงานด้านการบริหารบ้านเมือง และระบบอัยการ (ส่วนตัวรู้สึกว่าภาค 2 การเล่าเรื่องเจ๋งกว่า ทั้งการล่อหลอกคนดู และลำดับการเล่า)
อัยการหนุ่มน้อยจากภาค 2 ตัวแทนความหวังของสังคมยุคใหม่ที่ประชาชนสามารถเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของเจ้าหน้าที่(?)
ส่วนตัวรู้สึกว่า ภาคแรกเป็นการเล่าเรื่องในระดับบุคคลเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นพัฒนาการภายในจิตใจตัวละครที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงระหว่างที่ทำงานร่วมกัน เปลี่ยนความสงสัย เป็นความไว้ใจ และกลับมาเชื่อมั่นในความดีอีกครั้ง ในขณะที่ภาค 2 เรื่องจะเล่าในระดับสังคมมากขึ้น คือสื่อให้เห็นถึงการทำงานขององค์กร ความเป็นอยู่ของประชาชนที่เป็นผลจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ (ถ้าโกงบ้านเมืองก็เดือดร้อน) ให้ตัวเอกแต่ละตัวเป็นตัวแทนของกลุ่มบุคคลต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการ นายทุน ชาวบ้าน ฯลฯ ซึ่งถ้ามองในระดับสังคม ถือว่าเรื่องนี้กระทุ้งความเป็นจริงออกมาแสดงกันแบบกระแทกหน้ากันเลยทีเดียว
ส่วนของฉากแอคชั่นรู้สึกว่าภาค 2 ดร็อปลงมาจากภาคแรกนิดหน่อย ในเชิงภาพ (แต่บวกคะแนนความซับซ้อนและความร้ายกาจของตัวร้ายภาค 2 ที่เล่นคดีคอร์รัปชั่นเลยดูสเกลใหญ่ขึ้น) (อาจจะเพราะภาค 2 เน้นการตะลุมบอนไปซะมาก เลยไม่ค่อยมีแอคชั่นคมๆสวยๆ แบบตัว-ตัว หรือแบบโดนรุม) และแม้ว่าหลายคนจะเสียดายที่นักแสดงจากภาคแรก ไม่ได้มารับบทต่อในภาค 2 และเปลี่ยนนักแสดงทั้งหมด ยกทีม ไม่เหลือ แต่นัักแสดงทุกคนก็แสดงความดราม่าของตัวละคร และเล่นฉากแอคชั่นได้ดีมากๆ ทุกคน บอกเลยว่าเท่มากกกกกกกกก (ภาคแรกมอบใจให้พี่นักฆ่า ภาค 2 ป๋าจูจินโมเท่มาก)
พี่นักฆ่ามาดเข้มจากภาค 1 ที่มาให้เห็นหน้าในฉากจบภาค 2 เดาว่าถ้ามีภาค 3 ก็อาจจะได้พี่เค้ามาร่วมทีมด้วย
แต่ระดับความเครียดขอยกให้ภาค 2 ชนะขาดไปเลย เพราะนอกจากจะไร้ตัวฮาอย่างคุณมาดงซอก ที่รับบทตัวฮาหลักของภาคแรก ด้วยความที่หัวหน้าแก็งค์ภาค 2 เป็นอัยการ ลักษณะการทำงานเลยดูมีกระบวนการและมีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง เจ้านาย นักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวคดีก็ค่อนข้างจะมีความพลิกแพลง และผลัดกันรับ ผลัดกันสู้ตลอด
สิ่งโดดเด่นของเรื่องนี้คือฉากต่อสู้ ซึ่งซีรี่ส์เกาหลีถ้าจะมาแนวสืบสวน ส่วนมากก็จะไม่ได้เห็นฉากต่อสู้มากนัก แต่จะไปในทางของการแก้ไขคดีมากกว่า แต่เรื่องนี้จะได้ดูฉากต่อสู้เยอะมาก ทั้งแบบตัว-ตัว หรือแบบตะลุมบอน ซึ่งซีรี่ส์หมวดนี้ความจริงแล้วมีไม่มากนัก
สายโหดห้ามพลาด จัด 2 ภาคไปเลย!!!!
ป๋าจูจินโม จากภาค 2
สามารถรับชมซีรี่ส์ทั้ง 2 ภาค พร้อมซับไทยลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix ค่ะ
ปล. ความเกี่ยวข้องระหว่าง 2 ภาคมีน้อยมาก สามารถดูแยกกัน หรือเลือกดูเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ตามชอบ แต่ถ้าชอบความระห่ำของฉากแอคชั่น แนะนำว่าดูทั้งสองภาคไปเลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in