เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyiriszky
ผู้ชายบนไฟล์ทบินญี่ปุ่นเที่ยวแรก
  • ลาก่อนประเทศไทย ใช่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากหนีความเฮงซวยของประเทศนี้ ในที่สุดเธอก็ได้ออกเดินทางมาที่ประเทศในฝัน 'ญี่ปุ่น' ดินแดนของธรรมชาติ วัฒนธรรมโดดเด่น ผู้คนและบ้านเมืองที่เป็นระเบียบ อาหารอร่อย ความฝันของเธอจะเป็นจริงแล้ว

    การนั่งบนเครื่องบินครั้งแรก ไม่ได้ทำให้เธอประหม่า ก่อนจะขึ้นเครื่องได้ศึกษาวิธีการนั่งเที่ยวบินยาว 6 ชั่วโมงมาเป็นอย่างดี ไหนจะอ่านคู่มือแผ่นเล็กที่ใส่ไว้ตรงเบาะด้านหน้า เพลย์ลิสรวมเพลงญี่ปุ่นที่ชอบ ไว้เปิดฟังระหว่างเดินทาง หนังสือเล่มโปรด เธอคิดว่าพร้อมกับการเดินทางครั้งนี้สุดๆ ระหว่างที่เธอกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ผู้คนทั้งคนไทย คนญี่ปุ่น และต่างชาติจำนวนประปรายแต่ยังมีให้เห็น สายตาเป็นประกายกับครั้งแรกทั้งการขึ้นเครื่อง และการจะได้ไปประเทศที่เธอคลั่งไคล้
    สายตาของเธอก็หยุดไปที่ชายหนุ่มคนหนุ่ม ผมดำของเขาช่างตัดกับใบหน้าเรียวเล็กและขาวนั่นมาก เขาใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงสแล็คสีดำกำลังจัดกระเป๋าเข้าช่องสัมภาระอย่างคล่องแคล่ว เธอประเมินเขาว่าต้องมาคนเดียวแน่นอน เพราะหลังจากใส่กระเป๋าที่ดูน่าจะเป็นของเขาเสร็จ ก็กลับมานั่งที่ เพราะถ้าหากมากับคนรักคงต้องนำอีกใบมาวางไว้ข้างกัน 'คนญี่ปุ่นแน่นอน' เธอคิด และสนุกกับการประเมินว่าใครเป็นคนชนชาติอะไร แต่คุณคนนี้น่ะ คนญี่ปุ่นแน่นอน เธอภูมิใจ เพราะเป็นแบบนิปปอนบอยที่เธอเคยเห็นในซีรีส์ญี่ปุ่น

    แถวที่เขานั่งถัดจากเธอไปประมาณสามที่นั่ง โดยที่เขานั่งริมฝั่งซ้ายตรงที่นั่งโซนตรงกลาง ส่วนเธออยู่ที่นั่งริมฝั่งขวาทำให้เธอแอบมองเขาบ่อยๆ 'เอ๋ นี่มันหนังสือแปลแต่เป็นเวอร์ชันต้นฉบับหนิ แหงละเขาเป็นคนญี่ปุ่นต้องอ่านญี่ปุ่นสิ' เธอชักสนุกกับการแอบสังเกตเขาเงียบๆ

    เวลาผ่านไปประมาณครึ่งหนึ่งของการเดินทาง คุณนิปปอนบอยเสื้อขาว ได้ลุกขึ้นและเดินไปห้องน้ำ พร้อมกลับมากับกลิ่นบุหรี่ 'หืม บนเครื่องบินเขาห้ามสูบบุหรี่หนิ' ใช่ ถูกต้องแล้ว หลังจากนั้นก็ได้มีการประกาศของแอร์โฮสเตสว่ามีข้อห้ามเรื่องการสูบบุหรี่บนเครื่อง ส่วนเธอผู้รู้ความลับบนเครื่อง เพราะขณะนั้นคนส่วนใหญ่หลับกันหมดแล้ว และคงมีเพียงเธอที่สนใจทุกการเคลื่อนไหวของเขา 'หน้ายังละอ่อนอยู่เลย ทำไมถึงติดบุหรีขนาดนั้นนะ' เธอคิด และปล่อยไปดีกว่าคงไม่ใช่หน้าที่ของเธอเท่าไหร่ และหากไม่ใช่เขาที่สูบ เธอคงทำให้เขาจำได้เพราะไปใส่ร้ายเขาซะงั้น

    ในที่สุดก็มาถึงประเทศญี่ปุ่นหลังผ่านไฟท์บินมายาวนาน และสังเกตเขาไปปเกือบหกชั่วโมง (ในระหว่างนั้นเธอก็มีแอบงีบบ้าง) ตอนที่ถึงเวลาเอากระเป๋าจากช่องใส่สัมภาระออก แน่นอนเธอไม่พลาดการสังเกตเขา ที่คิดว่าคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้สังเกต เพราะเมื่อเครื่องลงจอด ทุกคนต้องแยกย้าย และเราคงไม่มีทางได้พบกันบนแผ่นดินแปลกหน้าที่กว้างใหญ่แห่งนี้หรอก
    ท่วงท่าการเอากระเป๋าออกของเขาช่างกระฉับเฉง แต่หลังจากเขาเอากระเป๋าออกมา เขากลับนั่งลงอยู่กับที่ เธอนึกสงสัยว่าทำไมไม่เดินออกไปกันนะ เธอจึงไม่ได้ใส่ใจหรือคิดอะไรมาก และได้เวลานำกระเป๋าของเธอออกบ้างแล้ว หลังจากเอาออกมาเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินออกไปตามทางเดิน คุณนิปปอนบอยเสื้อขาวคนนั้น ก็ลุกขึ้นมาพร้อมเดินเข้ามาในแถว

    ซึ่งเป็นตอนที่เธอเดินไปตรงนั้นพอดี กลายเป็นว่าเขาเดินอยู่หลังเธอ 'หืม' เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขารอให้เธอออกหรือเปล่า หรือเป็นแค่จังหวะ ระหว่างทางเดินออก เธอก็คิดมากมาย หรือเขาจะจับได้ว่าเธอสังเกตเขานานกว่า 6 ชั่วโมงนะ

    และแล้วเธอก็รู้สึกถึงสัมผัสที่ไหล่ ชายหนุ่มนิปปอนบอยเอามือแตะเธอ 
    พยายามสื่อสารและพูดภาษาญี่ปุ่นกับเธอ ซึ่งเธอแปลไม่ออก
    เขาชี้ไปที่เชือกรองเท้า ปรากฏว่ากำลังหลุดหลุ่ยอยู่ เธอจึงก้มลงไปผูกและเงยหน้าขึ้นมา พร้อมจะกล่าวขอบคุณ 
    เขาคนนั้นหายไปแล้ว หายไปท่ามกลางการเบียดเสียดของผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสาร

    "さようなら。"
    อาริกาโตะโกไซมัส
    และคำภาษาญี่ปุ่นที่เธอจำได้ก็ได้ใช้ทันทีที่ถึงประเทศนี้
    เธอกล่าวขอบคุณไปกับอากาศ ขอบคุณคุณคนที่ทำให้ไฟล์ทบินแรก 6 ชั่วโมงของเธอ ถูกจดจำไปยาวนานกว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆที่ได้ร่วมเดินทางด้วยกัน 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in