Author’s Note : ตอนต่อก็จะหน่วงๆนิดหน่อยตามชื่อตอน ยังไงก็ขอให้คนอ่านสนุกนะคะ เพราะคนแต่งก็สนุกค่ะ อยากให้สนุกด้วยกัน
Pairing : Thor x Loki
Rate : 15+
Warning : LGBT , Boy's Love , ฟิควาย , *Spoiler Alert* for Thor : Ragnarok
Edit : 19/12/2017 @19:08 - เกลาสำนวนให้อ่านลื่นขึ้นค่า อ่านทวนดูเองแล้วบางทีมันห้วนๆไป หรืองงๆก็อยากปรับใหม่
………………………………………………………………..
………………………………………………………………..
เป็นเวลาสายมากแล้ว กว่าเปลือกตาขาวซีดของบุตรแห่งลอเฟย์จะเปิดออกอย่างเชื่องช้า เผยให้ดวงตาสีเขียวเหม่อลอยรับเอาภาพของโลกรอบตัวสะท้อนกลับเข้าไปในนั้นอีกครั้ง
โลกิ ลอเฟย์ซัน เพิ่งจะเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับโลกใบใหม่ได้ไม่นาน ก็กลับต้องมารู้สึกเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางอีกครั้ง ทันทีที่ใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อวาน...
...ธอร์อยู่ที่นี่แล้ว...ที่ซาคาร์... ในห้องคุมขังซึ่งห่างไปไม่ไกลนัก แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ไกลกันคนละกาแลคซี่... ไกลเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมมือถึง…
เมื่ออีกคนโผล่หน้ากลับเข้ามาในชีวิต โลกิพลันรู้ตัวว่าเขาต้องการอะไร
เขาขอแค่ได้อยู่ในสถานที่ซึ่งไม่มีใครจดจำเรื่องเลวร้ายของเขาได้... ไม่ต้องต่อสู้รบรากับใคร… และได้ปกครองซาคาร์... เขายังใจดีพอจะเสนอให้รัชทายาทไร้บัลลังก์อย่างธอร์ได้ปกครองซาคาร์ร่วมกันกับเขาด้วยซ้ำ...
แต่แล้วคำพูดจากปากรัชทายาทแห่งแอสการ์ดก็ปลุกเขาให้ตื่นจากความฝันสวยหรู และกลับสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง มันเป็นการเตือนสติอย่างรุนแรงประหนึ่งตบหน้าเขาฉาดใหญ่ สมกับเป็นฝีมือของเชษฐาผู้ไม่รู้จักความอ่อนโยนคนที่เขารู้จักดีเสียจริงๆ
โลกิแค่นขำออกมาเบาๆกับตัวเอง เขาถอนหายใจแล้วหลับตาลงอีกครั้ง นึกอยากทิ้งตัวนอนนิ่งๆ จนถึงเวลาชมการแข่งขันชิงแชมเปี้ยนในช่วงค่ำวันนี้ แต่ก็ว้าวุ่นใจเกินกว่าจะทนอยู่นิ่งๆได้นาน...
...บางทีหนังสือสักเล่มอาจจะพอช่วยเขาได้...
โลกิตัดสินใจลุกจากเตียงไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ แม้ว่าในหัวจะยังตื้อๆและรู้สึกล้าอยู่มากก็ตาม
เมื่อคืนนี้...กว่าเขาจะได้กลับเข้าห้องตนเองก็ปาเข้าไปเกือบเช้าแล้ว
ในงานปาร์ตี้เมื่อช่วงกลางวัน โลกิได้นัดแนะกับแกรนด์มาสเตอร์จะลอบพบกัน เพื่อมีปาร์ตี้ส่วนตัวสองต่อสองอีกครั้งบนยานคอมมอดอร์กลางดึกสงัดโดยไม่ให้ใครรู้... เรื่องตื่นเต้นแบบนี้เข้าทางแกรนด์มาสเตอร์อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เจ้าของดาวซาคาร์จะพลอยเห็นดีเห็นงามด้วย
แถมคุณคนโปรดยังเพิ่มความตื่นเต้นด้วยเกมการแข่งขันเล็กๆที่ว่า ใครถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยจับได้ก่อนถึงยานถือว่าแพ้ ซึ่งเจ้าตัววางแผนไว้แล้วว่าจะใช้มันเป็นข้ออ้างในการเอาตัวรอดไม่โผล่ไปตามนัด และทิ้งให้อีกคนมัวเมาอยู่กับภาพจินตนาการในหัวซึ่งไม่มีวันเป็นจริง
แต่เอาเข้าจริงแผนการกลับถูกปรับเปลี่ยนทันทีเมื่อธอร์ปรากฏตัวขึ้นกลางงานปาร์ตี้ตอนกลางวัน และอยู่ในฐานะผู้เข้าแข่งขันการประลองชิงแชมเปี้ยน
โลกิรู้จักเชษฐาของเขาดี และรู้ว่าต่อให้ไม่มีโยลเนียร์ รัชทายาทแห่งแอสการ์ดก็มีดีในตัวมากเกินพอที่จะคว่ำนักสู้หน้าไหนก็ตามของแกรนด์มาสเตอร์ได้ จะกังวลอยู่บ้างก็แค่คำสั่งประหารตามอำเภอใจหลังจบการแข่งขัน เพื่อเพิ่มความสยดสยองป่าเถื่อนและปลุกเร้าอารมณ์คนดูตามที่เขาเคยได้ยินมา...
โลกิเคยเห็นสภาพนักรบที่ถูกช็อตไฟฟ้าด้วยเครื่องคุมประพฤติ และเคยเห็นคนโดนคฑาละลายมาบ้าง แม้จะไม่เคยโดนกับตัวเขาก็ประเมินแล้วว่า ธอร์ไม่น่าจะรับมือกับเครื่องมือสองอย่างนั้นได้
...และนั่นคือเหตุผลที่เทพแห่งคำลวงตัดสินใจไปพบเจ้าชีวิตแห่งซาคาร์ตามนัดหมายเมื่อคืนเพื่อต่อรอง…
ดวงตาสีเขียวไล่มองภาพร่างกายเปลือยเปล่าของตนเองซึ่งสะท้อนอยู่ในกระจกบานใหญ่ นิ้วมือเรียวยาวลูบเบาๆ ตามลำคอ ลาดบ่า และเรือนกาย เขานึกเกลียดผิวขาวซีดของตนขึ้นมาก็ตอนนี้ มันขึ้นรอยแดงง่ายแล้วก็ดันจางหายช้าเสียด้วย
โลกิถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แต่พอหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาก็อับอายจนผิวแก้มร้อนผ่าว
...นอกจากธอร์แล้ว...เขาไม่เคยปล่อยให้ใครได้เห็นน้ำตาของเขา...
…เพราะเจ้าพี่บ้านั่นแท้ๆ...
บุตรแห่งลอเฟย์เม้มริมฝีปากบางจนกลายเป็นเส้นตรง แต่ครู่เดียวก็เชิดหน้ากลับขึ้นเป็นปกติ แล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้องอาบน้ำ
...แน่นอนว่าธอร์จะต้องชดใช้ให้เขา...
...และอย่างน้อยความอับอายของเขามันก็แลกมาด้วยข้อตกลงอันคุ้มค่า...
---ℑ---
ท้องฟ้าเหนือแกรนด์อารีน่าของซาคาร์ค่ำคืนนี้สว่างจ้า และมีแสงไฟสาดส่องขึ้นมาเป็นลำ คล้ายคำเชิญชวนให้ผู้คนโดยรอบเข้ามาชมดูมหกรรมความบันเทิงอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้
ยานอวกาศมากมายจอดลอยลำอยู่เหนืออัฒจันทร์อันคราคร่ำไปด้วยฝูงชนซึ่งแห่กันมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมาชมการประลองชิงแชมเปี้ยนอันยิ่งใหญ่
แม้แต่สแคปเปอร์ 142 อดีตนักรบสาววาลคิรี่ในตำนานแห่งแอสการ์ด ซึ่งเคยชมการต่อสู้ชิงแชมเปี้ยนมาแล้วหลายครั้ง ก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไปกับงานในวันนี้ไม่ได้ เมื่อหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน คือบรรณาการซึ่งเธอเป็นผู้ส่งมอบให้แกรนด์มาสเตอร์เองกับมือ ร้ายกว่านั้นก็คือ... เขาเป็นเจ้าชายของดินแดนซึ่งเธอเลือกหันหลังให้นานมาแล้ว...แอสการ์ด...
…จะบุตรแห่งโอดิน... เจ้าแห่งสายฟ้า...เจ้าชายแห่งแอสการ์ดหรืออะไรก็ช่าง สิ่งที่วาลคิรี่ ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ เธอเคยให้สัตย์สาบานจะปกป้องบัลลังก์แห่งแอสการ์ด และแม้ไม่คิดจะปฏิบัติตามคำขอของเจ้าชายจอมโวยวายนั่น แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกสนใจในตัวเขาขึ้นมา
...วาลคิรี่แน่ใจว่ามันไม่ใช่ความสนใจแบบหญิงชายหรืออะไรทำนองนั้นหรอก แต่มันก็ซับซ้อนเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจและให้นิยามมันได้... เธอโทษว่ามันเป็นผลมาจากคำสาบาน ที่ทำให้เลือดในกายของเธอกระหายใคร่รู้ ว่าเจ้าชายแห่งแอสการ์ดผู้นี้จะมีฝีไม้ลายมือเก่งกล้าเพียงใดก็แค่นั้น
อีกฟากหนึ่งของสนามประลองเหนือจากอัฒจันทร์ผู้ชมขึ้นไป เป็นห้องวีไอพีเล้าน์จผนังกระจก ซึ่งสามารถมองเห็นลานประลองได้อย่างชัดเจนในมุมกว้าง
ตรงหน้าประตูทางเข้าของห้องวีไอพี ยามนี้มีร่างของบุรุษหนุ่มผมดำประบ่ายืนอยู่
...โลกิแห่งโยธันไฮม์อยู่ที่นี่ในฐานะคนโปรดของแกรนด์มาสเตอร์... เขามาชมการประลองเพียงเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ความเป็นตายของผู้เข้าแข่งขันไม่ว่าคนไหน ล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเขาทั้งสิ้น...
นั่นคือสิ่งที่เทพแห่งคำลวงพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำๆจนจำขึ้นใจ
โลกิหลับตาลงพยายามลืมภาพใบหน้าเย็นชาของเชษฐาในห้องคุมขัง และเตรียมใจสำหรับอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ซึ่งเขากำลังจะต้องรับมือกับเจ้าของใบหน้านั้นอีกครั้ง...
เสียงโห่ร้องกึกก้องในสนามดังขึ้นโดยพร้อมเพรียง เมื่อภาพสามมิติของแกรนด์มาสเตอร์ขนาดสูงกว่ายอดบนสุดของอัฒจันทร์ปรากฏขึ้นกลางอารีน่า
เสียงกล่าวต้อนรับผู้ชมและเปิดตัวผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายอย่างอารมณ์ดีของแกรนด์มาสเตอร์ เรียกให้เลือดในกายของฝูงชนในสนามเดือดพล่านและคึกคักขึ้นมาทันที
โลกิก้าวเท้าเข้าไปในห้องวีไอพี และจับจองปลายด้านหนึ่งของโซฟาสีขาวตัวยาวในห้องนั้น
สิ้นเสียงประกาศชื่อ ‘เจ้าแห่งสายฟ้า’ ร่างสูงใหญ่ล่ำสันก็ก้าวเดินเข้าสู่ลานประลองอย่างมั่นคง ตามมาด้วยเสียงโห่ไล่อย่างไม่เป็นมิตรนักต่อผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่
มีบางสิ่งที่เด่นชัดและไม่คุ้นตาโลกิเอาเสียเลย นั่นก็คือ... ผมสีทองประดุจแสงแดดของธอร์บัดนี้ถูกไถออกเสียจนสั้นเกือบติดหนังศีรษะ หนวดเครารึก็ถูกเล็มจนสั้นดูสะอ้านตาอย่างบอกไม่ถูก
โลกิได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นโครมครามอยู่ในอกซ้ายจนกลัวว่ามันจะส่อพิรุธให้ใครแถวนั้นได้เห็น ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
สิ่งที่เขาคุยเล่นกับแกรนด์มาสเตอร์เมื่อคืนนี้พลันหวนกลับเข้ามาในความคิด
‘ส่วนที่เจ้าเกลียดที่สุดในตัวพี่ชายบุญธรรมเจ้า?’
‘ผมยาวสีทองนั่น....’
โลกิจำได้ว่าตนเองยักไหล่ เหมือนนึกอะไรได้ก็ตอบไปอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตาของแกรนด์มาสเตอร์คล้ายสงสัย เขาจึงอธิบายต่อ
‘…ไม่รู้สิ... ผมทองตาฟ้า เหมือนเจ้าชายที่หลุดมาจากนิทานก่อนนอน...’
ลอบเห็นสายตาจับผิดของแกรนด์มาสเตอร์ซึ่งมองมาราวกับจับความรู้สึกเขาออก โลกิจึงรีบพูดต่อ
‘...แต่ไร้สมอง หยิ่งยะโส ทะนงตน ชอบใช้ความรุนแรง ชอบข่มขู่ วางอำนาจ ...แต่กลับเป็นที่รัก’
แน่นอนล่ะ ลึกๆแล้วเส้นผมสีดำของเขาเองต่างหากที่เจ้าตัวนึกเกลียด เพราะมันตอกย้ำให้เขารู้สึกแปลกแยกตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ผมสีดำ
โลกิใจหายวาบ เมื่อนึกถึงคำพูดของเขาซึ่งพาดพิงไปถึงดวงตาสีฟ้าคู่สวยของธอร์ เขาคงทำอะไรไม่ถูกทีเดียว หากเขาเป็นต้นเหตุให้เชษฐาต้องสูญเสียมันไป และนึกดีใจที่ไม่มีใครแตะต้องดวงตาคู่นั้น
แล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวแชมเปี้ยนจอมโหดของแกรนด์มาสเตอร์ สิ้นเสียงประกาศชื่อ ‘ยอดมนุษย์มหัศจรรย์!’ ท่ามกลางเสียงเชียร์ต้อนรับกึกก้อง ร่างของอสุรกายยักษ์ใหญ่สีเขียวในชุดเกราะก็พังประตูออกมากลางลาน
“เยสสสสส!!!!”
เสียงตะโกนกึกก้องของธอร์ ทำเอาทั้งอารีน่าพลันเงียบกริบ
ใบหน้าอันคุ้นเคยของแชมเปี้ยนทำเอาโลกิถึงกับชะงักค้าง
...ไม่จริงน่า!... เจ้านั่นมัน!!...
แน่นอนว่าโลกิจดจำฮัล์คได้ เจ้าอสุรกายจากมิดการ์ดผู้จับเทพเจ้าอย่างเขาฟาดกับพื้นไม่นับจนร่างแทบแหลกในการพบกันคราวก่อน ถ้าเจ้านี่ร่วมมือกับธอร์ล่ะก็ อย่าว่าแต่อารีน่าเลย ต่อให้ทั้งดาวซาคาร์ก็คงแหลกละเอียดย่อยยับเป็นผุยผงแน่ๆ
...มันคงไม่ใช่ดาวที่คู่ควรให้เขาปกครองเสียแล้วสิ...
โลกิขยับลุกพรวดเตรียมหนี แต่กลับถูกแกรนด์มาสเตอร์ซึ่งเพิ่งเข้ามาขวางไว้พอดี
“เฮ้ๆๆ จะไปไหนล่ะ?”
เจ้าภาพผู้จัดงานเอ่ยถามยิ้มๆ และยืนบล็อคปิดทางออก ทำให้โลกิจำใจต้องกลับมานั่งที่เก่า
“เฮ้! เรารู้จักกันดี! เป็นเพื่อนร่วมงานกัน!”
เสียงเจ้าพี่ชายจอมบื้อตะโกนป่าวประกาศขึ้นมาจากกลางอารีน่า แถมโบกไม้โบกมือ ส่งยิ้มหน้าบานขึ้นมาให้เขากับแกรนด์มาสเตอร์เสียอีก ทำเอาโลกิถึงกับต้องกระแอมกลบเกลื่อนตอนที่แกรนด์มาสเตอร์หันมามองเขาอย่างสงสัย
“...ข้าไม่คิดเลยว่าตัวเองจะพูดคำนี้ แต่ข้าดีใจที่เจอเจ้านะแบนเนอร์... โลกิ! โลกิยังไม่ตายนะ เชื่อไหมล่ะ เขาอยู่บนนั้น”
ธอร์ชี้ไม้ชี้มือไปทางวีไอพีบ็อกซ์ ไม่วายหันกลับมาตะโกนเรียกอนุชา
“เฮ้! โลกิ! ดูซินี่ใคร!”
และนั่นทำเอาโลกิเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียวเมื่อสายตาของเจ้าตัวเขียวเงยมองขึ้นมา แต่ไม่นานความหวาดกลัวก็เริ่มคลายลง เมื่ออสุรกายยักษ์เปิดฉากจู่โจมเข้าหาธอร์แทนที่จะอาละวาดพังอารีน่าเพื่อหนีออกไปอย่างที่โลกิคิดไว้ในตอนแรก
แม้จะพุ่งตัวหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดในครั้งแรก แต่ธอร์ก็ถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงอัดเข้าอย่างจังจนลอยหวือไถลไปไกล เขาใช้ดาบปักลงกับพื้นเพื่อลดระยะการไถล เมื่อตั้งหลักได้ธอร์ก็กระชากดาบคู่อีกเล่มออกมากำไว้ในมือ ปากยังคงพยายามเรียกสติแบนเนอร์ให้กลับมา แต่ดูเหมือนตอนนี้อีกฝ่ายจะไม่สนใจสิ่งใดนอกจากชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้
แกรนด์มาสเตอร์ปรบมือชอบใจ ในขณะที่โลกิยังคงผวาและลุ้นระทึก
“สนุกละสิ... สนุกละสิ...”
แกรนด์มาสเตอร์เปรยออกมาเบาๆ สายตาจับอยู่ที่การต่อสู้เบื้องหน้า
การจู่โจมครั้งต่อมาของฮัล์คทำเอาดาบคู่ในมือธอร์ดูไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ดาบทั้งคู่ถูกค้อนอันมหึมาในมือฮัล์คกดจนปลายปักฝังลงกับพื้นลานประลอง ท่อนขามหึมาเตะอัดร่างเล็กกว่าของเทพแอสการ์ดปลิวไปกระแทกอั่กเข้ากับผนังอารีน่าจนยุบทะลายเป็นแอ่ง
ฮัล์คขว้างค้อนยักษ์ในมือตามเข้าอัดซ้ำร่างของธอร์ซึ่งยังฝังอยู่ในซากผนัง ดีที่เทพหนุ่มกระโดดหลบลงมาได้เสียก่อน และคว้ามันมาใช้เป็นอาวุธ เหวี่ยงซัดใส่ร่างสีเขียวซึ่งพุ่งโถมเข้าหาให้เป็นฝ่ายครูดไปกับผนังด้านข้างอารีน่าแทนบ้าง
นั่นสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ชมในสนามขึ้นมาทันที เมื่อพวกเขาไม่เคยเห็นใครต่อกรกับแชมเปี้ยนได้ขนาดนี้มาก่อนเลย
เทพแห่งสายฟ้าก้าวเข้าหาอสุรกายร่างยักษ์ซึ่งยังมึนงงอยู่ในซากหักพังของผนังอารีน่า
“เฮ้... เจ้าตัวโต...ตะวันใกล้จะลับฟ้า...”
ธอร์ใช้โค้ดคำพูดของโรมานอฟซึ่งเคยได้ผลในการทำให้แบนเนอร์กลับคืนร่างเดิม เขายื่นมือไปหาฮัล์คช้าๆ และอีกฝ่ายก็ยื่นมือมาหาเขาเช่นกัน
“…ตะวันใกล้จะลับฟ้า...ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าแล้ว...ไม่มีใครทำร้ายเจ้าอีก...”
มือของทั้งสองกำลังจะสัมผัสกันท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งอารีน่า แต่แล้วฉับพลันเจ้ายักษ์ตัวเขียวก็คว้าขาธอร์ แล้วจับเขากระหน่ำฟาดทั้งร่างกับพื้นลานประลองหลายต่อหลายครั้งก่อนจะเขวี้ยงร่างในมือลอยไปไกลอีกฟากของสนาม
“ใช่เลย!! แบบที่ข้าโดนเลย!!!”
โลกิผุดลุกขึ้นยืนตะโกนเชียร์อย่างลืมตัว เมื่อนึกถึงครั้งนั้นที่เขาเคยโดนเจ้ายักษ์เขียวนี่จับฟาดจนเดี้ยงบนตึกสต๊าค แล้วเจ้าพี่บ้ากลับร่วมมือกับเพื่อนชาวมิดการ์ดล้อมจับเขา
“ข้าบ้ากีฬาก็เลยอินไปหน่อย”
โลกิหันไปบอกแกรนด์มาสเตอร์ยิ้มๆ
เอาเข้าจริงยามนี้โลกิรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เมื่อรู้แน่ว่าแชมเปี้ยนสุดโหดที่เขาพูดถึงกัน และคู่ต่อสู้ของเชษฐา คือเพื่อนตัวเขียวชาวมิดการ์ดซึ่งรู้จักกับธอร์ดี เพราะอย่างน้อยเจ้ายักษ์นั่นก็คงไม่ทำร้ายธอร์ถึงตาย ส่วนทางแกรนด์มาสเตอร์เองก็ให้สัญญากับเขาไว้แล้วเช่นกัน
การต่อสู้โรมรันของทั้งคู่ยังไม่จบ เมื่อบุตรแห่งโอดินยังสามารถลุกขึ้นมาเหวี่ยงค้อนยักษ์ต่อกรกับฮัล์คได้อย่างคล่องแคล่วสมศักดิ์ศรีผู้นำทัพแห่งแอสการ์ด
จากค้อนแลกขวาน หมัดแลกหมัดผลัดกันได้เปรียบ จนในจังหวะหนึ่งเทพแห่งสายฟ้าก็พลาดท่าถูกกำปั้นยักษ์ของฮัล์คซัดเข้าใบหน้าอย่างจังจนกระเด็นไปไกล
ยังไม่ทันได้ลุก ร่างใหญ่สีเขียวก็โดดพุ่งตัวตามมาคร่อมตระหง่านง้ำเหนือร่างเทพชาวแอสการ์ด พร้อมกระหน่ำหมัดซัดใส่ใบหน้าอีกคนไม่ยั้งอย่างโกรธเกรี้ยว
กำปั้นยักษ์ทั้งทุบทั้งต่อยสลับกันไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนพื้นอารีน่าไหวสะเทือน กระทั่งหมวกเกราะของธอร์หลุดกระเด็นออกจากศีรษะตามแรงหมัด เจ้ายักษ์นั่นก็ยังไม่หยุด
แน่ล่ะว่าชาวแอสการ์ดมีร่างกายซึ่งอึดถึกและทนมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆมาก โดยเฉพาะเชษฐาของเขาซึ่งเป็นถึงเจ้าชายและจอมทัพแห่งแอสการ์ด
...แต่ทนได้ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บไม่รู้สึก...
โลกิซึ่งเริ่มนั่งไม่ติดอยู่ในห้องวีไอพีถึงกับจิกเล็บลงบนฝ่ามือตนเองแน่นเพื่อข่มความรู้สึกของเขาเอาไว้
นาทีก่อนที่บุตรแห่งโอดินจะสิ้นสติเขาเห็นภาพนิมิตของพระบิดาบนหน้าผามิดการ์ด เหมือนครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกัน แล้วพลังบางอย่างในตัวเขาก็ถูกปลุกให้ตื่น
ดวงตาสีฟ้าครามของธอร์พลันเปล่งแสงสีขาว ร่างกายเขาเองก็มีประกายสายฟ้าแล่นริ้วไปทั่วร่างราวถูกอัดประจุสายฟ้าจนทะลักล้น
ฮัล์คชะงักมอง เพียงพริบตาเดียวก็ถูกหมัดผนวกกับพลังสายฟ้าสวนกลับจนตัวลอยละลิ่วขึ้นฟ้าและตกกลับลงมาสู่พื้นเป็นวิถีโค้ง
ทั้งอารีน่ากลับมาเงียบสงัดอีกครั้งอย่างลุ้นระทึก
โลกิเองก็เพิ่งจะหายใจโล่งขึ้นเมื่อเห็นเชษฐาของตนรอดจากการถูกซ้อมจนยับมาได้ แม้จะยังตกอยู่ในความประหลาดใจในพลังอำนาจใหม่ของเชษฐาตนไม่ต่างจากคนอื่นๆ
แกรนด์มาสเตอร์กลับเป็นฝ่ายนั่งไม่ติดแทนเมื่อเห็นว่าแชมเปี้ยนของตนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ธอร์กับฮัล์คพุ่งตัวเข้าหากันอีกครั้ง
เมื่อเกิดการปะทะพลังสายฟ้าอันใหม่ของธอร์ก็รวมเข้ากับแรงหมัดเกิดเป็นพลังทำลายล้างรุนแรงจนทั้งคู่กระเด็นแยกจากกันอีกครั้ง
เสียงเชียร์ในสนามเริ่มเปลี่ยนข้างมาตะโกนเรียก ‘สายฟ้า!’ ‘สายฟ้า!’ ไม่หยุด
คราวนี้ธอร์เป็นฝ่ายย่างสามขุมกลับเข้าหาฮัล์คอีกครั้ง
แล้วจู่ๆร่างของเทพแห่งสายฟ้าก็เกร็งกระตุกอย่างรุนแรงจนล้มทั้งยืน ต้นเหตุจากรีโมทควบคุมในมือของแกรนด์มาสเตอร์ ซึ่งถูกเลื่อนเปิดเร่งกำลังแรงช็อตไฟฟ้าบนเครื่องคุมประพฤติ ซึ่งฝังอยู่ตรงลำคอธอร์ไปยังค่าสูงสุดเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
โลกิได้แต่หันขวับมามองแกรนด์มาสเตอร์อย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะรีบหันกลับไปดูเชษฐาของตนในสนามประลอง
ร่างสีเขียวของฮัล์คลอยขึ้นสูงจนเกือบจะเป็นระดับเดียวกับยานอวกาศซึ่งจอดลอยลำอยู่ด้านบนแล้ว และกำลังทิ้งตัวลงมาหาร่างของธอร์บนพื้นลานประลองซึ่งยังอยู่ในสภาพซึ่งไม่มีโอกาสหลบการจู่โจมครั้งสุดท้ายของอีกฝ่ายได้
---ℑ---
“ท่านสัญญากับข้า ว่าจะไม่ทำร้ายเขา!”
โลกิพยายามข่มน้ำเสียงตนไว้จากอารมณ์ฉุนโกรธจนเสียงสั่น เมื่อก้าวยาวๆ มาดักหน้าแกรนด์มาสเตอร์ทันตรงทางเดินหน้าห้องวีไอพี
“เปล่านี่... ข้าสัญญาว่า... จะไว้ชีวิตเขา และมอบเขาให้เป็นของเล่นของเจ้า”
ฝ่ายเจ้าเล่ห์กว่ายิ้มปลอบ และยกมือขึ้นโอบแก้มของอีกฝ่าย
“ดูเจ้าทำหน้าเข้าสิ... ข้าขอโทษที่ทำของเล่นใหม่ของเจ้าพัง บางที... เจ้าน่าจะลองรีบไปดู เผื่อว่ามันจะยังพอหลงเหลืออะไรให้เจ้าสนุกได้อยู่บ้าง”
แกรนด์มาสเตอร์ยื่นหน้าหอมแก้มคนตรงหน้า แล้วเดินจากไปทั้งรอยยิ้ม ทิ้งให้เทพแห่งคำลวงยืนกำหมัดแน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับแล้วสาวเท้าอย่างเร่งร้อนไปอีกทาง
---ℑ---
โลกิไล่ถามบรรดาทหารที่ตนพบ สุดท้ายก็ตามไปจนเจอร่างของธอร์ซึ่งยังไม่ได้สติ กำลังถูกผู้คุมสองนายกึ่งลากกึ่งหิ้วออกมาจากอารีน่า
พวกผู้คุมโยนธอร์เข้าไปในห้องพักคนเจ็บซึ่งเป็นห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดกับบริเวณทางออกของลานประลอง
บุตรแห่งลอเฟย์ลอบเปลี่ยนร่างเป็นแกรนด์มาสเตอร์ และไล่ทุกคนออกไปจากห้องนั้นอย่างเกรี้ยวกราด
ทันทีที่ผู้คุมและเจ้าหน้าที่พยาบาลคนสุดท้ายก้าวพ้นประตูออกไป โลกิก็เสกโซ่เหล็กขึ้นมาพันยึดที่จับประตูบานคู่ทั้งสองบานให้ยึดติดกันไว้จากด้านในเพื่อไม่ให้ใครสามารถเข้ามารบกวนได้อีก
เขากลับคืนร่างเดิม และตรงเข้าไปพยุงร่างของเชษฐาขึ้นไปนอนบนพื้นยกสูง และใช้มันแทนเตียง
โลกิจัดการถอดเสื้อเกราะซึ่งบุบจนทิ่มกดเข้าไปในกล้ามเนื้ออกของอีกฝ่ายออกอย่างทุลักทุเล ปากก็พร่ำบ่นพึมพำไม่หยุด
“เจ้าพี่โง่... ท่านมันดีแต่อึดถึก จำได้ไหม… มันเป็นข้อดีข้อเดียวของท่านเลยนะ... ไม่เอาน่ะ อย่าทำให้น้องผิดหวัง... หายใจเข้าไปลึกๆเดี๋ยวนี้!”
โลกิวางสองมือทาบลงบนแผ่นอกธอร์ และเริ่มร่ายเวทย์รักษา ขณะเดียวกันเจ้าของร่างกายอันบอบช้ำบนพื้นยกสูงก็เริ่มกระอักลิ่มเลือดสดๆออกมาทั้งที่เปลือกตายังคงปิดสนิทและไม่รู้สึกตัว
ภาพตรงหน้าโลกิเริ่มพร่ามัวจนเห็นใบหน้าของอีกคนไม่ชัด หยดน้ำใสร่วงเผาะลงบนแผ่นอกเทพเจ้าแห่งสายฟ้าหยดแล้วหยดเล่าราวกับเม็ดฝน... ทิ้งสัมผัสอุ่นๆของมันไว้บนผิวกายก่อนจะเลือนหายไปราวไม่เคยเกิดขึ้นจริง
บุตรแห่งลอเฟย์โน้มหน้าลงดูดกลืนริมฝีปากเค็มปร่าและคลุ้งคาวด้วยกลิ่นสนิมของผู้เป็นเชษฐา แม้สัมผัสจะแผ่วเบา กระนั้นก็เต็มไปด้วยความโหยหาและหวงแหน
นิ้วมือเรียวสวยลูบไปตามแนวผมสั้นซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสีทองยาวสลวยละบ่าของเจ้าชายแห่งแอสการ์ด
‘ช่วยรวบผมให้ข้าที โลกิ... วันนี้อากาศร้อนชะมัด’
เสียงสดใสคล้ายมีรอยยิ้มกว้างเคล้ามากับน้ำเสียงดังแว่วมาจากที่ไกลๆ ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจอย่างระอาเจือความหงุดหงิดของคนไม่ถูกกับความร้อน ถึงกระนั้นก็ยังตอบรับโดยดี
‘หันหลังมาสิท่านพี่ ข้าทำให้... ผมของท่านสวยจัง...’
‘เจ้าชอบมัน?’
น้ำเสียงคนถามคล้ายจะเก้อเขิน
‘ข้ายังไม่ได้พูดสักหน่อย...ว่าข้าชอบมัน...’
‘เจ้าเพิ่งพูดต่างหาก...’
เสียงเด็กน้อยพูดคุยกันแผ่วเบา ดังขึ้นในห้วงคำนึงถึง คล้ายเสียงกระซิบกระซาบจากอดีตเมื่อนานแสนนานมาแล้ว
==TBC.==
Note : จริงๆแล้วการตัดผมของนักสู้ที่เข้าร่วม น่าจะเป็นกระบวนการปกติของซาคาร์นะคะ แต่ทางนี้ตอนดูก็แอบจิ้นไปแล้วนิดนึงก็เลยเอามาใส่ให้ร่วมด้วยช่วยกันกาวค่ะ 5555 และจริงๆเราชอบธอร์ผมสั้นมากกว่าผมยาวนิดหน่อยนะ รู้สึกว่าหล่อไปอีกแบบ เลยให้โลกิเองก็แอบใจเต้นนะตอนเห็นพี่ชายตัดผม แม้จะปนๆไปกับความรู้สึกผิดก็เถอะ แยกมาโน๊ตไว้ตรงนี้เพราะกลัวสปอยล์ค่ะ ไว้อ่านแล้วชอบไม่ชอบแวะมาเม้าท์กันมั่งน้า
ตอนน้องน่ารัก อิพี่สลบตลอด ไม่รู้เรื่องรู้ราวกะเขาบ้างเลย 55555
รอตอนต่อไปนะคะ <3