เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Into the roomDHaeArin
มายไดอารี่ ตอน อยากเป็นนักเรียนนอก
  • ก่อนอื่น ขอเกริ่นก่อนว่าเรากำลังเรียนอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้เราเรียนจบ และทำงานที่ไทยอยู่พักหนึ่ง จนประมาณช่วงเดือนม.ค. ปี 2015 เป็นบ่ายที่เรากำลังนั่งเบื่อๆ อยู่ที่โต๊ะทำงาน ในหัวก็คิดไปว่าถ้าเราได้ลองเปลี่ยนงาน หรือลองออกไปเรียนรู้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆ แล้วระหว่างนั้นเราก็มีเงินพอได้กิน พอได้เที่ยวก็คงดี แล้ววูบหนึ่งเราก็คิดไปถึงเพื่อนรุ่นพี่ ที่เคยทำงานที่เดียวกับเรา พี่แกลาออกไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย นานๆ พี่แกจะกลับมาที แต่พอได้นั่งคุยกันกะพี่เค้า เราก็ได้รู้ว่าชีวิตพี่แกดูดี๊ดี... หรือว่าเราจะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียดีมั้ยนะ?



    6 เดือนให้หลัง ในเดือนกรกฎาคม ปี 2015... เราก็ได้จัดการแพ็คกระเป๋าอัปเปหิตัวเองมายืนมึนๆ รอพี่คนนั้นมารับที่สนามบินใจกลางเมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อย... ใช่แล้ว เราเริ่มต้นชีวิตในต่างประเทศครั้งแรกที่เมืองซิดนี่ย์ (ส่วนเรื่องที่ว่าเราย้ายไปอยู่เมลเบิร์นได้ยังไงนี่ค่อยเล่ากันอีกที) เราตั้งใจว่าจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่ทั้งหมด ก็เลยลงเรียนภาษาไว้หลายเดือน กะว่าต้องไม่เสียเที่ยวที่ถ่อมาเรียนถึงต่างประเทศ ถ้าทำถึงขนาดนี้ละภาษายังไม่ได้นี่ถือว่าเอ็งกากมาก



    ตอนแรกที่เรามาอยู่ เรามาอยู่กับพี่ที่รู้จักกันตอนที่ทำงานที่ไทย พี่เค้าก็ต้อนรับขับสู้อย่างดี พาเราไปดูสถานที่สำคัญต่างๆ พาไปเปิดบัญชีธนาคารเอาเงินเข้าไปฝาก พาไปเปิดซิมโทรศัพท์ใหม่ พาไปซื้อบัตรที่ใช้สำหรับขึ้นรถไฟ รถบัสต่างๆ สอนวิธีการเติมเงินในบัตร รวมถึงวิธีการดูสายรถบัส สายรถไฟ ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับการตรวจสอบเส้นทาง และสายของรถบัส รถไฟต่างๆ ซึ่งแรกๆ ยอมรับเลยว่าโคตรงง แต่ใช้ไปสักพักก็ชิน แล้วก็รู้สึกว่าแอพนั้นใช้งานง่ายมากด้วย นอกจากนั้นพี่เขายังช่วยหาโรงเรียนที่เราจะไปเรียนให้ว่ามันอยู่ตรงไหน เราจะได้ไปถูกไม่หลง (ซึ่งเอาจริงๆ ถนนหนทางในซิดนี่ย์นั้นเดินง่ายมากเพราะมันจะเป็นบล๊อคๆ หาง่ายไม่งงเท่าไหร่) พาเราไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าที่นั่น พาเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นต่างๆ บอกรายละเอียดของร้านค้าแต่ละร้าน ว่าร้านไหนถูก ร้านไหนแพง ขนมอะไรอร่อย ขนมอะไรอี๋อย่าไปกิน และเนื่องจากเรามาอยู่ในช่วงที่จะเข้าสู้ฤดูหนาวพอดี พี่เขาก็เลยพาเราไปซื้ออุปกรณ์กันหนาวต่างๆ ด้วย



    เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ของคนที่นี่ค่อนข้างสูง เด็กนักเรียนอย่างเราที่เอาเงินติดกระเป๋ามาน้อยนิด เราก็เลยใช้เวลาว่างๆ เนื่องจากยังไม่เปิดเรียน ไปลองหางานทำดู อาชีพของเด็กนักเรียนที่นี่ก็มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น เสิร์ฟอาหาร หรือไม่ก็พวกงานความสะอาดบ้าน หรือออฟฟิศต่างๆ เป็นต้น ส่วนตัวเราว่าเป็นเด็กเสิร์ฟน่าจะดีสุด เพราะมันไม่ต้องลงทุนอะไร ใช้แต่ภาษากับ การให้บริการลูกค้าที่ดีก็พอแล้ว ดีเพราะได้เงิน แถมได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย เรากับพี่เขาก็พยายามช่วยกันหางาน ซึ่งวิธีการหางานของที่นี่ก็มีอยู่ 2-3 ทางคือ



    1 หาผ่านทางเว็บไซต์: เว็บไซต์ที่สังคมคนไทยไปรวมกันส่วนใหญ่ก็จะมี Topic หลักๆ อยู่ 3 เรื่องด้วยกันคือ หาพนักงาน-รับสมัครพนักงาน, หาห้อง/บ้าน-หาคนมาเช่าห้อง/บ้าน และโพสขายของซื้อของไทยๆ อย่างพวกปลาร้า ห่อหมก แหนมเนือง กระถิน ชะอมไรงี้ (ส่วนใหญ่เป็นอาหารจำพวกหากินยากๆ อะไรทำนองนั้น) วิธีการหางานก็คือเข้าไปส่องในเว็บว่าวันนี้มีใครเข้ามาโพสรับสมัครพนักงานอะไรบ้าง แล้วเราก็ส่งแมสเสจไปหาเขา บอกชื่อ ที่อยู่ ชนิดของวีซ่า ระยะเวลาในการอยู่ ตำแหน่งที่ต้องการสมัคร เช่น ชื่อกระแต อยู่แถวๆ Central station วีซ่านักเรียน อยู่ได้อีกกี่ปีกี่เดือนก็ว่ากันไป ต้องการสมัครตำแหน่งเสิร์ฟ เป็นต้น บางคนก็อาจจะใส่ประสบการณ์ เช่นว่า เคยทำเสิร์ฟร้านไทย มา 4 เดือน ภาษาดี แบบนี้ก็จะเพิ่มความน่าสนใจให้เจ้าของร้านเรียกเข้าไป Train งานได้


    2 เดินยื่น Resume ตามร้านต่างๆ ที่ต้องการไปสมัคร: อันนี้ก็ใช้ความถึกส่วนตัวล้วนๆ โดยการเดินหาร้านอาหารที่ท่านชอบแล้วเข้าไปยืนเรซูเม่ได้เลยง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน



    ไม่รู้ว่าเดชะบุญหรือคุณพระช่วย เพราะว่าเราหางาน (อย่างกระวนกระวายเพราะกลัวไม่มีจะกิน ฮือๆ) มาได้ประมาณ 3-4 วัน เราก็ได้รับการตอบรับจากพี่เจ้าของร้านท่านหนึ่งให้เข้าไป Train งานที่ร้าน จังหวะนั้นรู้สึกโชคดีมากที่ได้งาน ได้แบบที่ตัวเองยังไม่รู้เลยว่างานเสิร์ฟเป็นยังไง ได้แบบทั้งที่โรงเรียนก็ยังไม่เคยไป ภาษานี่ก็อยู่ในระดับกากมาจากไทย ศัพท์เกี่ยวกับอาหารกรูก็ไม่รู้เรื่องเลยซักอย่าง แต่เอาวะ งานมันมาแล้วเราก็ต้องลองซักตั้ง 



    หลังจากตรวจสอบเส้นทางแล้ว ก็พบว่าร้านพี่เค้าโคตรจะไกลจากที่ที่เราอยู่ แต่พี่เจ้าของร้านบอกว่ามีพนักงานที่ร้านของเขาพักอยู่แถวเดียวกับเราเหมือนกัน ตอนขากลับพี่เขาจะเป็นคนขับรถเข้าเมืองมาส่งพนักงานเอง ซึ่งจะเป็นการประหยัดค่ารถของเราไปอีก เราเลยคิดว่าน่าจะโอเค พี่เจ้าของร้านจึงนัดเราเข้าไป Train งานในวันรุ่งขึ้น...



    ต่อ.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
findingtheocean (@Mayluxe)
อยากไปบ้างง ต้องมีตังเยอะแค่ไหนถึงไปได้
DHaeArin (@dhaearin)
@Mayluxe แล้วแต่ว่าไปที่ไหน เรียนอะไร แล้วก็ไปอยู่นานแค่ไหนอ่าค่ะ ^^