เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าจากเพื่อนๆNoi Beleza
ประสบการณ์..การส่องกล้องลำไส้ใหญ่
  • ประสบการณ์..การส่องกล้องลำไส้ใหญ่

    เมื่อเราอายุประมาณ 50 ปี ขึ้นไป
    คุณหมอจะแนะนำให้มีการส่องกล้อง
    กระเพาะอาหาร และ ลำไส้ใหญ่
    เราทานอาหารทุกวันๆละหลายๆมื้อ
    กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่
    ทำงานไม่เคยหยุด ล้าเต็มที
    อาหารที่เราทาน ถ้าของดี มีคุณภาพ
    ก็จะช่วยยืดอายุการทำงานของเค้าจ้า
    .
    .

    วิธีการเตรียมตัว
    3 วันก่อนส่องกล้อง
    ให้งดทานอาหารพืช ผัก ธัญญพืชต่างๆ
    ลดอาหารกากใย เพื่อเคลียร์ลำไส้
    ทานแต่ข้าวขาว ขนมปังขาว
    ไก่ ไข่ หมูสับ ปลา
    ข้าวต้ม โจ๊ก อาหารอ่อนๆ ซุปใส

    วันส่องกล้อง
    งดอาหารตั้งแต่ 6 โมงเช้า

    7 โมงเช้า
    ผสมน้ำ 1 ลิตรกับยาที่ทางโรงพยาบาลให้มา
    ทานให้หมดภายใน 20 นาที
    เราก็แบ่งใส่ถ้วยครั้งละ 250 cc
    ทานทุก 5 นาที

    ต่อมา 8 โมงเช้า
    ทำอีกรอบหนึ่ง
    ผสมน้ำ 1 ลิตรกับยาที่ทางโรงพยาบาลให้มา
    ทานให้หมดภายใน 20 นาที
    เราก็แบ่งใส่ถ้วยครั้งละ 250 cc
    ทานทุก 5 นาที

    ทานรอบหลังนี้ก็จะสยองเล็กน้อย
    ค่อยๆทาน มิฉะนั้นจะอ๊วกเอาจ้า

    ให้เดินไปมา
    หลังจากนั้น จะเข้าห้องน้ำ 8-10 รอบ
    เพื่อเคลียร์ลำไส้ให้สะอาด หมดจด
    .
    .

    ช่วงนี้จนถึงก่อน 11.00 โมง
    ทานเกลือแร่ น้ำแอ๊ปเปิ้ล น้ำหวาน
    น้ำเปล่า สีใสๆได้ เพื่อเพิ่มพลัง
    จากการเสียพลังงานไปก่อนหน้านี้

    วันส่องกล้อง งด ชา กาแฟ ยาเบาหวาน
    ยาละลายลิ่มเลือด
    ให้ทานยาลดความดัน ยาหัวใจได้ตามปกติ

    11.00 น ให้งดอาหาร น้ำทุกชนิด
    จนกว่าส่องกล้องเสร็จ
    .
    .

    เรานัดคุณหมอที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
    คลีนิคนอกเวลา
    คุณหมอนัดบ่าย 3 โมง
    ให้มารายงานตัว 14.30 น

    เรามาถึงสถาบัน 13.30 น
    แวะแผนกแรก รายงานตัว
    แวะแผนกเคลมเรื่องประกันสุขภาพ
    มารอที่แผนกส่องกล้อง 14.00 น
    .
    .

    แต่ด้วยคุณหมอมีงานตรวจคนไข้
    ในเวลาจำนวนมาก
    ล่วงเลยมาถึง บ่าย 4 โมงกว่า
    คุณหมอพร้อมตรวจคลีนิคนอกเวลา
    เกือบ 17.00 น
    คนไข้ทั้งหมด 13 คน

    เราได้คิวที่ 3

    คนไข้อายุ 70 ปีขึ้นไป จำนวน 6 คน

    คนไข้อายุต่ำกว่า 70 ปี จำนวน 7 คน

    พยาบาล แจ้งว่าตามกฎ
    เราส่องกล้องคนสูงวัย อายุ 70ปี ก่อน

    แต่หากคนไข้ไม่สบายใจ
    จะให้สลับกันบ้างก็ได้
    ไม่มีใครโวยวายอะไร
    บ่นนิดนึง .. ว่ารอนานแค่นั้น
    .
    .

    เราได้ส่องเป็นคนที่ 9
    เราก็เข้าใจว่าวันหนึ่ง
    ถ้าเราอายุ 70 ปี เราก็คงเหนื่อยกว่านี้
    ไม่ได้ทานข้าวแต่เช้า
    เราก็ยอมรับกฏข้อนี้

    เราได้ส่องตอน 1 ทุ่ม
    คุณหมอและทีมวิสัญญีแพทย์
    ทำงานไวมาก ใส่ท่อออกซิเจน
    ให้ยาสลบ บอกว่าถ้าง่วง ให้หลับได้นะ
    เราก็พยักหน้า..

    เราหลับไป..
    ตื่นมาอีกที..
    เราอยู่บนเตียง ห้องพักคนไข้แล้ว
    เราได้สติ มองคนไปมา
    คนไข้คิวที่ 10 ส่องแล้วอยู่ข้างๆ

    มองนาฬิกา เวลา 19.30 น
    ภายในครึ่งชม ส่องคนไข้ได้ 2 คน
    ยังเหลือคนไข้อีก 3 คน

    พยาบาล 2 คนที่ดูแลพวกเรา
    ต่างก็ให้กำลังใจกัน
    เพราะใกล้เสร็จภารกิจสำหรับวันนี้แล้ว
    เราขอบคุณ และให้กำลังใจพยาบาลเช่นกัน

    เค้าพยุงให้เราลุกขึ้น
    และจะเดิน..พาส่งไปห้องน้ำ
    เราขอบคุณ และบอกว่าไม่เป็นไร
    พี่เดินไหว..
    เราดีใจที่ฟื้นตัวไว และเดินไหว 555

    เจอน้องท่านหนึ่ง ไอ แสบคอมาก
    เราโชคดีว่า ไม่มีอาการอะไร
    จำได้ว่าตอนฟื้นขึ้นมา
    พยาบาลบอกให้กลืนน้ำลายลงไปให้หมด
    จะได้ไม่มีอะไรค้างที่คอ
    .
    .

    หลังจากนั้น คนไข้ก็รอพบคุณหมอ
    เพื่อแจ้งผลส่อง และการติดตามอาการ

    คุณหมอในวัย 60 ปี
    ทำงานตรวจคนไข้ทั้งในเวลา
    และนอกเวลามาตลอดทั้งวัน
    ดูกระฉับกระเฉง ไม่มีแววเหนื่อยเลย
    ก็แจ้งผล และให้เรามาตรวจทุก 2 ปี

    เราบอกคุณหมอ ถี่ไปนะคะ
    ขอเป็น 5 ปี ก็แล้วกัน
    คุณหมอบอก .. คนไข้ก็จะเป็นอย่างนี้
    เมื่อเกิดอะไรขึ้น
    ก็จะบอก รู้งี้.. จะมาตรวจแล้ว

    เราเข้าใจคุณหมอ
    ณ สถาบันมะเร็งแห่งนี้
    ท่านคงเจอเคสมาเยอะ
    จึงเตือนให้เราไม่ประมาท

    คุณหมอแนะนำให้มาตรวจสุขภาพประจำปี
    ให้มีการตรวจอุจจาระ หากมีอะไรผิดปกติ
    มีเลือดออกมา
    ต้องรีบมาส่องกล้องกันนะ

    แล้วคุณหมอก็เขียนใบนัด
    อีก 3 ปีเจอกันนะ

    เราก็ถาม คุณหมอ..
    อีก 3 ปี ยังมาตรวจกับคุณหมออยู่ไหมคะ
    (ปีนี้ คุณหมอ ท่านอายุ 60 ปี แล้ว)
    คุณหมอบอก.. ยังมีคุณหมอ
    ท่านอื่น อีกเยอะแยะ
    แล้วท่านก็หัวเราะสดใส

    ก่อนจากกัน..
    เราอวยพรให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรง

    คุณหมอ ที่เป็นหมอที่สุดยอดมาก
    ในความรู้สึกของเรา

    เมื่อหลายปีก่อน
    คุณหมอเล่าให้ฟังว่า
    คนไข้สูงวัยที่มาตรวจ
    มาจากต่างจังหวัดแต่เช้า
    กว่าจะได้ตรวจก็บ่ายแล้ว
    บางรายไม่มีค่ารถกลับบ้าน
    คุณหมอก็ช่วยสนับสนุนกันไป

    พวกเราที่มาตรวจคลีนิคนอกเวลา
    ก็เป็นการสนับสนุนปัจจัยอีกทางหนึ่ง

    การตรวจสุขภาพประจำปี คลีนิคพรีเมี่ยม
    ก็นำเงินบางส่วนเข้ากองทุนสถาบันเช่นกัน
    .
    .

    ปล. การมาส่องกล้อง
    ต้องมีญาติมาด้วย 1 ท่าน
    เพื่อเซ็นต์รับรองการวางยาสลบ
    และพาคนไข้กลับบ้านด้วยค่ะ

    ขอบครอบครัว มาด้วยกัน
    เตรียมขนมแซนวิช ชามะนาวให้
    หลังส่องกล้อง.. สุดยอดจริงๆ

    บันทึกความทรงจำ
    15 กพ 2566

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in