สมัยเด็ก ผมเป็นพวกอยู่ไม่ติดบ้าน พอพ่อแม่หรือคุณย่าเผลอทีไรเป็นต้องแอบออกไปเดินลาดตระเวน วิ่งเล่นในซอยถัดไปนู้น สำรวจในซอยนี้ ที่หากไม่สังเกตแบบลงรายละเอียด แบบวัดระดับอุณหภูมิ ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน หรือขยะหน้าบ้านคุณนิเชาว์พูนจนล้นออกมามากกว่าเมื่อวาน ทุกอย่างก็ไม่เห็นต่างอะไรจากเมื่อวานหรือวานซืนที่แอบออกมา
กิจกรรมเด็กประถมอย่างผมไม่มีอะไรมาก ออกมาจากบ้านเพื่อแค่เดินเล่น ทอดน่อง ปล่อยสายตามองสายลมพาใบไม้กระดิก โยนก้อนหินก้อนแบนให้มันเด้งกระเด็นกระดอนเหนือน้ำ ก่อนพวกมันจะจมลงไป ทำซ้ำอยู่อย่างนั้นไม่รู้เบื่อ บางวันที่มีเงินติดตัว ก็จะเดินไปซื้อขนมจนหมดงบ แล้วก็กลับไปหย่อนขานั่งอยู่ที่เดิม
จนพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ เป็นสัญญาณบอกเวลาว่า นี่คือเวลาที่ผมจะต้องเข้าบ้าน เป็นเวลาที่ต้องเร่งรีบลุกลี้ลุกลน เป็นเวลาที่จะช้าไม่ได้
เพราะคุณย่าได้ยื่นคำขาดเอาไว้ว่า จงเข้าบ้านก่อนฟ้ามืด มิฉะนั้นน่องจะลายจากก้านมะยม หรืออะไรสักอย่างที่แกพอจะหาคว้ามาฟาดผมได้ในตอนนั้น
เพื่อสั่งสอนที่ผมไม่เข้าบ้าน
ไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเข้าบ้านตามเวลาเท่านั้น แต่ภายในบ้านก็ยังมีกำหนดการอันรุงรังที่คอยกำหนดชีวิตของผมอยู่ด้วย...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in