เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
otherssean and his nightmares
(เด็กดีของพี่โอลี่) ; you're always a part of me, I'm always part of you
  • Title : you're always a part of me, I'm always part of you 

    Author :  Sean

    Pairing : Oliver Masucci x Louis Hofmann | #เด็กดีของพี่โอลี่

    Rating : No Rate











              เช้าวันเสาร์..  เป็นเช้าที่ผมไม่ค่อยปรารถนาจะตื่นเช้าสักเท่าไหร่  แต่หากว่าเช้าวันเสาร์นั้นมีคุณอยู่ด้วยกัน  ผมก็อยากจะใช้ทุกวินาทีที่ลืมตาเพื่ออยู่กับคุณให้นานที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

    I

     

     

     

    กลิ่นหอมของกาแฟบดเข้ากันได้ดีกับน้ำที่อยู่ในอุณหภูมิของจุดเดือด  และยิ่งเข้ากันได้ดีกว่าสิ่งอื่นใด.. เมื่อริมฝีปากของเขาค่อยๆสัมผัสกับปากของถ้วยกาแฟเซรามิกสีแดงใบนั้น  เฝ้ามองแผ่นเปลือกตาคู่นั้นที่ปิดลงช้าๆ เมื่อได้ลิ้มรสกาแฟในยามเช้าไปพร้อมๆกับไอแดดที่กระทบกับผิวกายของเขา

     

    เขาค่อยๆคลี่ยิ้ม, ยิ้มที่ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นเพราะพึงพอใจแล้วกับชีวิตในเช้าวันหยุดของตัวเองหรือเป็นเพราะ...

     

    ตื่นแล้วหรือ..ขี้เซา”  เขาเอ่ยถาม – สายลมอ่อนๆที่พัดผ่านทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวเก่งของเขาปลิวไสวไปตามแรงลม แต่ก็ถูกกระดุมสามเม็ดล่างที่ถูกติดเอาไว้หยุดยื้อไม่ให้แผ่นอกแกร่งได้เปลือยเปล่า

     

    คุณตื่นเช้าจัง...”  เสียงงัวเงียจากคนที่ยังคงนอนขุดคู้อยู่บนเตียงตอบไม่ตรงคำถาม, หลังมือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาขยี้ดวงตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสว่างรอบกาย

     

    ดูทำเข้า..เจ้าขี้เซาขยี้ตาแรงจนคนที่ตื่นก่อนต้องปราม  อย่าขยี้ตาแรงขนาดนั้นสิหลุยส์..”  ไม่ทะนุถนอมเอาเสียเลย..ทั้งๆที่ดวงตาคู่นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่โอลิเวอร์หวงมากกว่าสิ่งอื่นใดบนร่างกายของเจ้าเด็กคนนี้

    และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างโอลิเวอร์กำลังบอกด้วย

     

    หลุยส์..”  เสียงที่ไม่น่าจะเชื่อว่าจะออกมาจากปากคนอย่างโอลิเวอร์ถูกเอ่ยออกมา  พอได้แล้ว..ไปล้างหน้าแปรงฟันแทนดีกว่านะ

     

    ถึงกับหลุดหัวเราะเพราะเสียงงอแงจากลำคอของอีกฝ่าย ฟังแล้วดูคล้ายๆกับคำว่า  งือ...’  อยู่เบาๆ – เด็กหนุ่มยอมลุกออกจากเตียงนุ่มและกองผ้าห่มผืนหนาสีขาวสะอาดตา เขาเดินเข้าไปหาอีกคนที่ยืนพิงอยู่กับกรอบประตูที่เชื่อมอยู่กับระเบียงห้อง

     

    คุณพูดอะไรนะครับเมื่อกี้นี้

     

    ฉันบอกว่าให้ไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว

     

    ไม่ใช่..หลุยส์ส่ายหัว เสียงเมื่อกี้..

     

    เสียงอะไร”  โอลิเวอร์ขมวดคิ้วงงมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่หยิบแก้วกาแฟจากมือของเขาไปดื่มโดยพลการ

     

    ก็..”  ปลายคางเชิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังครุ่นคิดหาคำตอบ – คิ้วสีน้ำตาลอ่อนร่นเข้าหากันริมฝีปากรูปกระจับทำท่าเบะเล็กน้อย ทำเหมือนจะร้องไห้ ก่อนที่จะส่งเสียง  งือ...”  ออกมาเบาๆทำในแบบเดียวกับที่คนตรงหน้าทำเมื่อสักครู่นี้

     

    “…”

     

    เนี่ย..คุณทำแบบนี้เลยเมื่อกี้

     

    ไม่จริงหรอก..ฉันทำที่ไหนกัน”  คนที่แก่กว่าปฏิเสธเสียงแข็ง  เธอเพิ่งตื่น..คงเบลอๆอยู่”  แถมยังโบ้ยความผิดเสียอีก

     

    ผมตื่นแล้วนะแล้วเมื่อกี้ผมก็ได้ยินจริงๆด้วย

     

    แก้มนิ่มถูกโอลิเวอร์จับยืดไปมาเพื่อตัดบท  “เถียงเก่งเสียจริงๆ”

     

    โอ๊ย..โอลิเวอร์! ผมเจ็บนะ!”  ดวงตาที่ฟ้าอ่อนจ้องเขม็งไปยังคนตัวสูงจะเอาคืนก็ไม่ได้เพราะมือข้างหนึ่งนั้นยังคงถือถ้วยกาแฟที่ฉกมาดื่มก่อนหน้านี้อยู่

     

    รีบไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว..เดี๋ยวฉันจะทำอาหารเช้าไว้รอ”  มอบจุมพิตบนเรือนผมยุ่งๆของคนที่เพิ่งตื่นนอนเสร็จก็คว้าเอาถ้วยกาแฟในมือคู่นั้นกลับมา  ก่อนจะชิ่งเดินหนีกลับเข้าไปห้องครัว โดยปล่อยให้คนตัวเล็กก่นด่าอยู่เบื้องหลัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    II

     

     

              ผมชอบ..ชอบเวลาที่มีเขา

    เหมือนต้นไม้ในกระถางเก่าๆ– ใครจะไปรู้ว้าต้นไม้ที่ยืนต้นใกล้ตายจะมีคนเอาน้ำมารดมันในช่วงเวลาบั้นปลายของชีวิตแบบนี้.. เปลี่ยนต้นไม้ที่ไม่มีใครเหลียวแลได้กลับมาสดใสเหมือนก่อนอีกครั้ง

     

    จากคนที่ไม่มีใคร, กลับกลายเป็นหลุยส์ที่ได้ทำให้ผมได้รู้จักคำว่า  ‘รัก’  อีกครั้ง

    ในช่วงเวลาที่เหนื่อยล้า, มีแค่เจ้าเด็กคนนี้ที่ทำให้ผมยิ้มได้

     

    ต้นไม้ต้นนี้เลยรักที่จะยืนต้นต่อให้เด็กชายที่ชอบสวมหมวกไอวี่ได้รดน้ำไปในทุกๆวัน

     

     

    การได้ตื่นลืมตาขึ้นมาในทุกเช้า, เป็นเหมือนสารจากพระเจ้าว่าเรายังมีชีวิตต่อ

    แต่การที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีเขาอยู่ในอ้อมกอดเหมือนกับตอนที่หลับตา มันเลยกลายเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผมถึงยังตื่นมาในทุกๆวัน

     

    ผมชอบ..ชอบที่จะได้มองเห็นเขานอนหลับในอ้อมกอดของผม

    อย่างน้อยช่วงเวลานี้ก็ยังมีเขาอยู่ข้างกายและผมยังสามารถดูแลเขา..

     

     

     

    เขาเป็นความธรรมดาของชีวิตผม, เป็นสิ่งที่ผมขาดไม่ได้

    และผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่งผมไม่มีเขาขึ้นมามันจะเป็นยังไง

    มันคงแย่- เหมือนครึ่งหนึ่งของโลกใบนี้ได้หายไป

    หายไปพร้อมกับเขา

     

    และผมคงอยู่ไม่ได้

     

    นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่า  ทำไมผมถึงรักเขาขนาดนี้..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    III

     

     

     

    ในหนึ่งวัน, เราคุยกันไม่กี่ประโยค

     

    ในหนึ่งประโยค, มักเป็นประโยคทั่วๆไป อย่างเช่น วันนี้ดูหนังเรื่องอะไรดี  ตอนเย็นกินอะไรดี – เป็นประโยคธรรมดาๆแต่ก็ไม่เคยทำให้เบื่อเลย แค่มีเขาอยู่ตรงนี้พูดประโยคธรรมดาแบบนี้ ไปในทุกๆวัน .. แค่นี้ก็ดีมากพอแล้ว

     

     

     

     

     

    เบาะหนังสีครีมยุบไปตามน้ำหนักของคนที่มาใหม่ พร้อมกับซองขนมในมือและรอยยิ้มบนใบหน้า, แขนท่อนใหญ่ถูกจัดแจงให้เป็นหมอนหนุนใบนุ่มและลำตัวหนาๆขนาดหนึ่งคนโอบเป็นหมอนข้างที่หายใจได้ ซึ่งมีชื่อว่า โอลิเวอร์ มาซุชชีและทั้งหมดนี้เป็นของหลุยส์ฮอฟแมนน์คนเดียว

     

    ลืมโกนหนวดหรือเปล่า”  โอลิเวอร์ถาม, มือข้างที่ว่างไล้ไปตามตอหนวดเล็กๆที่ขึ้นบนใบหน้าสวยของคนตรงหน้าไม่ลืมที่จะมอบจูบเหมือนกับทุกครั้ง

     

    เจ้าเด็กส่ายหัวแล้วอมยิ้มแบบมีนัยยะแอบแฝง  เปล่า.. รอโกนพร้อมคุณเย็นนี้

     

    มั่นใจ?”  คนที่แก่กว่าเลิกคิ้วเป็นคำถาม

     

    ไม่ได้เหรอครับ?”

     

    ได้..”  โอลิเวอร์พยักหน้าแล้วยิ้มบ้าง  ก็ดีเราไม่ได้อาบน้ำด้วยกันนานแล้ว

     

    เจ้าเด็กเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยตอบ  แค่โกนหนวดนะ ไม่อาบด้วย

     

    ไม่ได้ถ้าอยากให้ฉันโกนหนวดให้ ก็ต้องอาบน้ำด้วยกัน”  ไม่ถือว่าเป็นข้อเสนอแต่เป็นข้อบังคับที่จะเลือกหรือไม่เลือกทำก็ได้ เขาไม่มีปัญหาอะไรแต่ถ้าเลือกก็ดี... กำไรเหนาะๆ

     

    เอาอย่างนั้นก็ได้” หลุยส์พยักหน้า, ดูไม่ปฏิเสธเหมือนอย่างเคย ไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นเพราะวันจันทร์จะต้องจากกัน หรือเป็นเพราะอยากใช้เวลาที่มีกับโอลิเวอร์ให้มากที่สุด

    แต่เรื่องนั้นดูเหมือนว่าคนที่ถูกพูดถึงจะดูออก

     

    เป็นอะไร..”  เขาลูบแก้มนิ่มของคนตรงหน้า, ความห่วงใยแม้ไม่ได้กล่าวออกมาแต่ก็สามารถสัมผัสได้ผ่านทางสายตาคู่นั้น

     

    คิดถึงคุณ

     

    ..อยู่ตรงนี้แล้ว”  โอลิเวอร์ยิ้มหยิบถุงขนมออกจากมือคู่นั้นและดึงเจ้าลูกหมาขี้งอแงเข้ามากอดไว้  ใกล้กันขนาดนี้ยังคิดถึงอยู่หรือ

     

    ไม่อยากบอก..แต่ถ้าไม่บอกคุณก็คงไม่รู้  แค่หลับตาผมก็คิดถึงคุณแล้ว

     

    ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”  ถ้อยคำถูกเอ่ยด้วยเสียงต่ำจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ  คิดถึงเธอทุกวินาทีที่ไกลกัน

     

    รักคุณ.. ผมรักคุณ..”  อ้อมแขนกระชับแน่น, ใบหน้าแนบลงบนอก – เสียงแผ่วเบาเหมือนกำลังบอกคำว่ารักเหล่านั้นผ่านหัวใจของเจ้าของอ้อมกอดอุ่น  อยากใช้ทุกวินาทีกับคุณ

     

    เด็กน้อย..”  ฝ่ามืออุ่นลูบศีรษะ, เขากดจูบลงบนเรือนผมนั้นเหมือนทุกครั้งที่ตื่นนอนในทุกๆเช้า  มีถ้อยคำเป็นล้านที่ฉันอยากปลอบให้เธอสบายใจ..แต่ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ตรงนี้กับเธอ

    มีหัวใจของเราที่อยู่ใกล้กันมีลมหายใจ มีความรู้สึก มีสัมผัสที่เราส่งถึงกัน.. ถึงตรงนี้เธอก็คงรับรู้ว่าฉันรักเธอมากเช่นกัน

     

    อยู่กับผมนะ..อย่าไปไหนนะ

     

    ไม่ไป..สัญญา

     

    เขาจุมพิตบนริมฝีปากนั้น, เพื่อยืนยันคำสัญญาที่ให้ไป ฝ่ามือประคอง- ทะนุถนอมใบหน้านั้นเป็นอย่างดีริมฝีปากที่แนบชิดเปิดออกเล็กน้อย เชื้อเชิญให้คนตรงหน้าได้เข้าไปลิ้มลองรสชาติอันหอมหวานประจำตัว เช่นกันกับมือเล็กที่ซุกซน, โอลิเวอร์รู้สึกได้ดีเมื่อมือคู่นั้นสัมผัสผิวกายใต้ร่มผ้า ลูบผ่านกล้ามเนื้อแน่นบนร่างกำยำ

              โอลิเวอร์เอนตัวนอนลงบนโซฟา เมื่อรู้ว่าตัวเองคงไม่อาจต้านทานแรงรุกล้ำของเด็กหนุ่มตรงหน้าได้..หรือไม่บางทีเขาอาจจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

     

    ยังเช้าอยู่เลย..”  ริมฝีปากขยับยิ้ม, รวบกอดเอวบางนั้นไว้หลวมๆ

     

    ไม่ได้เหรอครับ

     

    ได้..”  โอลิเวอร์ตอบ  ตามใจเธอ

     

    เจ้าหนุ่มยิ้มพอใจเมื่อได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นทางการของคนที่เขาใช้นอนหนุนอยู่  เขารู้ว่ายังไงโอลิเวอร์ก็ต้องตามใจอยู่แล้ว  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงรู้สึกเหนื่อยและอยากให้อีกคนได้พักบ้าง  ถึงแม้อยากจะสนุกด้วยกันต่อ..แต่เมื่อคืนก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

    ศีรษะเล็กเอนซบลงบนเนินอกกว้าง  สายตาทอดมองไปยังโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ก่อนหน้า  ก่อนจะหันกลับมาวางคางไว้บนอกดังเดิม

     

    มองใบหน้าของคนตรงหน้า, โอลิเวอร์ก็รู้แทบทันทีว่าคงเจ้าเด็กคงไม่อยากแล้ว  “แค่จูบก็ได้..ถ้ากลัวฉันเหนื่อย”

    ปลายนิ้วม้วนเส้นผมสีบลอนด์เล่นอย่างเอ็นดูก่อนจะก้มจุมพิตลงบนเรือนผม ขยับกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาไม่ได้พูดอะไรต่อและเด็กหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

     

    ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงันยังคงมีเสียงของโทรทัศน์ที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเพื่อทำลายบรรยากาศที่ว่านั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    IV

     

     

     

    ในที่สุดบรรยากาศที่เงียบงันแบบนี้ก็กลับมาดั่งเดิม

    มีเขาและผมที่อยู่ด้วยกัน,

    มีความเงียบท่ามกลางคำบอกรักที่เราเอ่ยผ่านทางสายตา และเขาได้รับรู้ข้อความนั้นเช่นเดียวกับผม

     

     

     

    ผมชอบที่จะกอดและมองดูเขาหลับตอนกำลังดูรายการโทรทัศน์ที่น่าเบื่อด้วยกัน (ถึงแม้ตอนหลังผมจะแอบหยิบรีโมตขึ้นมาเปลี่ยนไปช่องบอลก็ตาม)

    เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผม, ลมหายใจอุ่นของเขาที่เข้าออกช้าๆอย่างสม่ำเสมอ

     

    น่าเอ็นดูเสียยิ่งกว่าอะไรบนโลกใบนี้...

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in