เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
otherssean and his nightmares
(DolPat) ; Nice to meet you
  • Title: nice to meet you | เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมชายคาดีล่ะ?

    Author:  Sean

    Pairing: Dolph Lundgren x Patrick Wilson | #NerOrm #DolPat

    Fandom: Aquaman (2018)


    ติชม คอมเมนท์และเป็นกำลังใจได้ที่ #seanfic ฮะ





     


     

              ดอล์ฟนั่งอยู่ตรงนั้น, บนเก้าอี้ไม้ที่สามารถปรับเอนหลังได้ ชดเชยวันหยุดให้คุ้มค่ากับวันทำงานที่ค่อนข้างจะแสนสาหัสสำหรับคนที่อายุเหยียบเลขหกแล้วอย่างเขา – ใช่.. เขาคือ ดอล์ฟ ลันด์เกรนนักแสดงในตำนานที่ใครๆก็รู้จัก แถมยังพ่วงด้วยดีกรีเจ้าของสายดำในศิลปะการต่อสู้อีกเสียด้วย

     

     

              บทละครที่เขาเพิ่งได้รับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ถูกวางทิ้งไว้บนแผ่นหน้าอกของตัวเอง และแว่นสายตาที่แบ่งเลนส์สั้น-ยาวยังคงถูกสวมอยู่เช่นเคย .. ดอล์ฟหลับไปสักพักแล้วบนเก้าอี้ตัวนั้น, กับแดดอุ่นตอนสาย คงไม่ค่อยเข้ากันเสียเท่าไหร่ ถ้าหากเขาจะตั้งใจทำการบ้านที่ได้รับมอบหมายมาจากผู้กำกับเจมส์ วาน

     

    เพราะแบบนั้นเขาจึงถือโอกาสดีๆตรงนี้ด้วยการพักสายตาเสียสักหน่อย แต่แล้ว ..

     

     

     

    ก๊อก!ก๊อก!’

     

    ดอล์ฟคิดเข้าข้างตัวเองว่าเสียงที่ได้ยินนั้นคงเป็นเพราะตนหูแว่วไป จะมีสักกี่คนกันเล่าที่ยอมเสียโอกาสนอนตากแดดอุ่นๆในตอนเช้าแบบนี้ไปได้ .. ไม่ล่ะ อย่างน้อยหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่เขา

     

     

     

    ก๊อก!ก๊อก!’

     

    เป็นอีกครั้งในระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึงห้านาทีเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง และมันก็เริ่มรบกวนฝันกลางวันของชายวัยแซยิดเสียเต็มประดา – ดอล์ฟขมวดคิ้วแน่นนึกหงุดหงิดในหัวใจ แต่เขาก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นเสียที ..

     

    ปล่อยไว้แบบนั้นนั่นแหละเดี๋ยวก็คงเงียบไปเอง ถ้าเขาไม่เริ่มด้วยการเปิดประตูให้ ไม่ว่าใครก็ตามก็คงไม่รู้ว่าวันนี้เขาเลือกที่จะใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการพักผ่อนแบบไร้จุดหมายอย่างแน่นอน

     

     

     

    นั่นแหละ! ใช่ .. เสียงนั้นเงียบไปแล้ว – รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นบนมุมปากข้างซ้าย ดอล์ฟขยับตัวเอนเก้าอี้ไปทางด้านหลังมากกว่าเดิม พร้อมกับยืดขาขึ้นพาดบนราวของรั้วเล็กๆที่กั้นอยู่ริมระเบียง สองมือยกขึ้นใช้หนุนอยู่หลังศีรษะ เงยหน้าขึ้นสู้แดดราวกับว่ายิ่งแสงสว่างมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสามารถสังเคราะห์แสงได้มากขึ้นเท่านั้น

     

    แต่ความจริงแล้วดอล์ฟเป็นมนุษย์ ..

     

     


     

    ...

     

    เขารู้สึกได้ถึงความมืดขนาดเล็กกำลังบดบังแสงแดดบนท้องฟ้า ที่เขาปล่อยให้ส่องลงมากระทบกับเปลือกตา และจนเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง ความรู้สึกจึงบังคับให้เขาต้องจำใจปล่อยความฝันล่องลอยขึ้นสู่ห้วงวิมาน, สุดท้ายนัยน์ตาสีน้ำฟ้าก็ยอมพบกับภาพความเป็นจริงตรงหน้าเสียที

     



    .. และมันคงจะเป็นความผิดหวังอยู่ไม่น้อย ที่เขาไม่ยอมลืมตาตื่นตั้งแต่แรก ..

     

     

     


    ภาพของชายหนุ่มตัวสูงกำลังวางฝ่ามือข้างหนึ่งอยู่เหนือใบหน้าของดอล์ฟ - สร้างความสงสัยว่าทำไมเจ้าหนุ่มคนนี้ถึงใช้ฝ่ามือของตัวเองบังแดดให้กับคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะลืมตาขึ้นมามองเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้สึกตัวว่ากำลังมีคนจ้องมองอยู่

    ดอล์ฟเลื่อนสายตาลงมองที่มือข้างหนึ่งของหนุ่มเจ้า พบว่าเขากำลังหิ้วถาดกระดาษที่ช่องว่างทั้งสองนั้นเติมด้วยถ้วยกาแฟร้อน

     

     


    ผมเคาะประตูเมื่อกี้แต่คุณไม่เปิด.. เขายิ้มแหย มองดูท่าทีของอีกฝ่าย ก่อนจะดึงมือกลับมาเกาท้ายทอยของตัวเอง ขอโทษนะครับถ้าผมปลุกให้คุณตื่น

     

     

    ดอล์ฟขยับตัวลุกขึ้นยืนถอดแว่นสายตาที่สวมอยู่ และวางมันลงบนโต๊ะเล็กที่อยู่ข้างกัน เช่นเดียวกับบทละครที่วางทิ้งไว้บนหน้าอกเมื่อตอนเผลอหลับ ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องตื่นอยู่แล้ว” เขาหยีตาเล็กน้อย และใช้นิ้วโป้งชี้ขึ้นบนฟ้า แดดมันแยงตา

     

     

    เจ้าหนุ่มก้มมองฝ่ามือของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังชั่งใจว่าจะทำในสิ่งที่ควรทำดีไหม หรือจะเก็บมันไว้ใช้ในโอกาสหน้าดี แต่สุดท้ายเขาก็ยื่นมือไปข้างหน้า ข้ามรั้วปูนเล็กๆที่คั่นกลางระหว่างสองระเบียงห้อง

     

    ถ้าอย่างนั้น ไหนๆคุณก็ตื่นแล้ว..เขามองใบหน้าของคนที่ดูเหมือนว่าจะอายุมากกว่า รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่เช่นเคย ผมแพทริกนะ - แพทริกวิลสัน

     

    ผมเพิ่งย้ายมาเมื่อวันก่อน เลยอยากทำความรู้จักกับเพื่อนข้างห้อง...

     

     


    ดอล์ฟมองใบหน้าของแพทริกอยู่นาน - นานถึงขนาดที่เจ้าตัวก็สามารถรู้สึกได้ เพราะแบบนั้นเขาจึงเงียบเสียงลง, แม้จะยังคงความสดใส แต่แพทริกก็คอยสังเกตสีหน้าของคู่สนทนาอยู่เสมอ

     

    ดอล์ฟ ..ดอล์ฟ ลันด์เกรน ชะงักเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวว่าตนกำลังมองอีกฝ่ายนานผิดปกติ จนเขารู้สึกตัว – ดอล์ฟจึงยื่นมือข้างหนึ่งไปข้างหน้าและจับมือของแพทริก เพื่อทำลายช่องว่างที่กำลังก่อตัวขึ้นกลางอากาศ

     

     ขอโทษที เธอว่ายังไงนะพอดีฉันไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ .. เพราะว่ามันเหมือนฝันทั้งที่ดอล์ฟยังลืมตาตื่นอยู่ อดไม่ได้จริงๆที่จะปล่อยให้ตัวเองจ้องมองใบหน้านั้นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และตั้งใจฟังน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่น่าหลงใหลอยู่อย่างนั้น

     

    ใช่ .. เหมือนฝันแต่มันจริง

     


     

    อ๋อ..” แพทริกเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ศีรษะเอียงไปข้างหนึ่งนิดหน่อย – ถึงแม้เขาจะไม่เก่งเรื่องอ่านใจของคนสักเท่าไหร่นักแต่ก็พอดูออกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายความแบบที่กำลังพูดอยู่แน่ๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่สายตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาอยู่ ผมแค่อยากแวะมาทักทายคุณน่ะครับ

     

    ผมอยู่ห้องข้างๆคุณ.. เป็นแพทริกที่ปล่อยมือออกจากดอล์ฟก่อน เขาเอี้ยวตัวและชี้นิ้วไปยังด้านหลังของตัวเอง ..ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณลันด์เกรน

     

    แล้วก็.. เขายื่นมืออีกข้างที่หิ้วถาดกระดาษใส่แก้วกาแฟไปข้างหน้า ก่อนจะยกยิ้มอีกครั้ง ..ของฝากเล็กๆน้อยๆจากผมครับ – หวังว่าคุณจะโอเคกับมันนะ

     

     

    ดอล์ฟหยิบแก้วกาแฟที่อีกฝ่ายยื่นให้ขึ้นมาถืออยู่ในมือ หมุนมันไปมาเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะเริ่มพูดต่อ ฉันโอเคอยู่แล้ว แต่เธอจะโอเคกับมันหรือเปล่าล่ะ”

     

     

    ทำไมเหรอครับ

     

     

    ถ้าให้ฉันแนะนำ.. ยังมีอีกร้านหนึ่งที่ไม่ไกลจากที่นี่ ใช้เวลาเดินเท้าสักประมาณห้านาทีก็ถึง” ยกกาแฟในมือขึ้นจิบเบาๆ ..นี่คงซื้อจากข้างล่างใช่ไหมล่ะ

     

     

    แพทริกพยักหน้า, เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังพูดหรือหมายถึงอะไรอยู่กันแน่ สีหน้าของเขาแสดงออกชัดเจนว่ากำลังกังวลอยู่ จนดอล์ฟต้องรีบพูดประโยคถัดไป

     

     

    เฮ้..ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย ฉันไม่ได้บอกว่ากาแฟนี่แย่หรอกนะ..คนที่แก่กว่าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกกาแฟในมือขึ้นดื่มอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เขายกมันนานกว่าเดิม เพื่อพิสูจน์ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจจริงๆ “ก็.. อร่อยดี”


    “..แต่ฉันแค่จะบอกว่ายังมีอีกร้านที่อร่อยกว่านี้ อยู่ตรงนู้น..

     

    ดอล์ฟกระแอมคอเล็กน้อยชี้นิ้วไปยังด้านหลังของแพทริก บนถนนอีกฝั่งทางหนึ่งที่อยู่เยื้องกับห้องพักของเขาทั้งคู่ยังมีร้านกาแฟเล็กๆตั้งอยู่อย่างที่ดอล์ฟบอกจริงๆ


    และขณะที่แพทริกกำลังหันไปตามที่ดอล์ฟบอก - คนตัวโตกว่าก็รีบฉวยโอกาสตรงนั้นพองแก้มให้ลมเข้าปาก

     

     

    อ๋อ.. ไม่ยักจะรู้ว่ามีร้านกาแฟอยู่ตรงนั้นด้วย ตั้งแต่ผมย้ายมา ก็ยัง...แพทริกหันกลับมาอีกครั้ง เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนที่ความตกใจนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะที่ตัวเขาเองก็ห้ามไม่ได้

     

    ผมเชื่อแล้วว่ากาแฟมันไม่ได้แย่ แต่ทำไมต้องฝืนตัวเองขนาดนี้ด้วย..” แพทริกถือวิสาสะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆดอล์ฟก่อนจะเปิดขวดและยื่นให้ ดื่มน้ำก่อนนะครับ.. ขอโทษที ผมลืมบอกไปว่ากาแฟมันยังร้อนอยู่

     

     

    ดอล์ฟรับน้ำดื่มของตนจากอีกฝ่าย, เขายกมันขึ้นดื่มทันที แต่ถึงแม้ความเย็นของน้ำจะช่วยเพลาความร้อนของกาแฟลงอยู่บ้าง แต่บนใบหน้าของดอล์ฟนั้นก็ยังคงเจือไปด้วยสีฝาดเลือดอยู่ไม่น้อย – ดอล์ฟปิดขวดน้ำ และยกขึ้นแนบบนแก้มของตัวเองเบาๆ

     

     

    ร้อนแย่เลย..” แพทริกยกมือช่วยพัดบริเวณใบหน้าของอีกฝ่าย - ไม่รู้ว่าตั้งใจช่วย ตั้งใจแกล้ง หรือตั้งใจซ้ำเติมกันแน่ เพราะบนใบหน้านั้นยังคงด้วยรอยยิ้มจากการหัวเราะไว้อยู่ ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกก่อน ผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะเล่นยกทีเดียวแบบนั้น

     

     

    พอเถอะน่า..ดอล์ฟจับข้อมือของแพทริกเบาๆ หวังว่าให้หยุดการกระทำนั้น, สีหน้าดูประหม่าจนแทบไม่กล้าสบสายตาของเจ้าหนุ่มที่อายุน้อยกว่า แต่แล้วแพทริกก็กู้สถานการณ์คืนมาได้ แม้มันจะยังลอยฟุ้งไปด้วยความประหม่าอยู่

     

     

    งั้น.. ไว้คราวหน้า คุณลันด์เกรนพาผมไปร้านกาแฟร้านนั้นได้ไหมครับ เขายิ้ม

     

     

    ได้ถ้าเธอต้องการ

     

     

    ขอบคุณครับแต่ว่านะ...แพทริกหมุนกำแบฝ่ามือตัวเองไปมา พร้อมกับสายตาที่มองสลับกันระหว่างข้อมือของตัวเองและใบหน้าของอีกฝ่าย

     

     

    ดอล์ฟหรี่ตาลง พร้อมกับเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เขากางฝ่ามือของตัวเองออก ปล่อยให้ข้อมือที่เล็กกว่าตกลงกลางอากาศตามแรงโน้มถ่วงของโลก – เสมองไปทางอื่น เลี่ยงที่จะไม่สบกับนัยน์ตาสีฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยความทะเล้นตรงนั้น

     

    .. เจ้าเด็กคนนี้คงแสบไม่น้อย..

    นั่นคือข้อแรกที่ดอล์ฟได้เรียนรู้จากเพื่อนข้างห้องคนใหม่ของเขา

     

     

    แต่คงถึงเวลาล่ำลาแล้วสินะ ในเมื่อบทสนทนาดูเหมือนจะถึงทางตันเสียแล้ว .. ดอล์ฟยกมือขึ้นลูบคางของตัวเองเบาๆ และรวมไปถึงริมฝีปากล่างหนาๆนั้นด้วย

     

     


     งั้นฉันคงต้องขอตัวไปอ่านบทต่อดีกว่า ดอล์ฟวางปลายนิ้วลงบนกองกระดาษที่เข้าเล่มเรียบร้อยแล้วซึ่งวางอยู่บนโต๊ะตัวเล็ก แตะมันอยู่สองสามทีเพื่อบอกกับคนตรงหน้ากลายๆว่านี่คือสิ่งที่เขากำลังหมายถึง  

     



    แน่นอน .. แพทริกมองตามนิ้วมือของดอล์ฟ

     

     

     

    อควาแมน – คิงเนเรียสรับบทโดย ดอล์ฟ ลันด์เกรน

     



    และก็แน่นอนอีกเช่นกันว่าแพทริกได้อ่านคำโปรยที่เขียนอยู่บนหน้ากระดาษเรียบร้อยแล้ว

     

     

     

    อ่า.. ยังไงก็สวัสดีนะเพื่อนร่วมงาน ไม่สิ.. ตอนนี้คงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานอย่างเดียวดอล์ฟหยิบบทละครขึ้นมาม้วนเข้าหากันจนเป็นทรงกระบอก ฉันต้องเรียกว่าอะไรนะ .. ‘เพื่อนร่วมชายคา อย่างนั้นไหม”

     

     

    “เอ่อ.. หมายถึง?”

     

     

    ทำหน้าแบบนั้นแสดงว่าผู้กำกับเขายังไม่ได้บอกสินะ

     

    เห็นว่าเธอกับเจมส์วานสนิทกัน .. งั้นฉันก็ฝากขอบคุณเขาด้วยนะที่หาที่พักดีๆใกล้กองถ่ายแบบนี้ให้ – จะให้ฉันรับฝากเนื้อฝากตัวเธอก็ได้นะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะว่าฉันเองก็เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่แล้ว คงต้องฝากเนื้อฝากตัวกับเธอด้วยเช่นกันล่ะ

     

    ดอล์ฟใช้ม้วนกระดาษแตะปลายคิ้วของตัวเอง พร้อมกับยกยิ้มให้กับอีกฝ่าย

     

    ไว้เจอกันที่กองถ่ายนะคิงออร์ม

     

     

     

    และนี่ก็คือข้อแรกที่แพทริกได้เรียนรู้จากเพื่อนข้างห้องคนใหม่

    .. ดอล์ฟลันด์เกรนไม่ใช่คนธรรมดา ..

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in