เราคงตั้งคำถามกันว่าถ้าโลกนี้มีหนังอย่าง saw แล้วเราจะมี escape room กันไปทำไม ภายใต้ concept คนจำนวนหนึ่งถูกเลือกมาเล่นเกมให้มีชีวิตรอดในกฎที่ว่า "ไม่มีกฎ" ทำให้คนบางคนรู้สึกว่าพล็อตแบบนี้มันช้ำมามากแล้ว (ยังไม่นับหนังแบบ nine dead, fermat's room ,etc.) แต่ผิดถนัดเมื่อ escape room ทำออกมาได้บันเทิงกว่าที่คาดไว้

คน 6 คนถูกเชิญมาเล่น escape room โดยมีรางวัลล่อลวงใจให้ผู้ชนะจำนวนเงินกว่า $10,000 แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะ "รอดชีวิต" ออกไปรับรางวัล.

concept ง่าย ๆ ที่ลดความหฤโหดแบบ saw และความทุนต่ำโดยงัดทุนสร้างจำนวนมากมารังสรรค์ให้ห้อง escape room แต่ละห้องอยู่เหนือจินตนาการไปอีก อย่างห้องแรกที่เป็นห้องที่เป็นห้องเพลิง เป็นต้น.

จริง ๆ หนังไม่ค่อยมีอะไรให้พูดมาก เพราะอย่างที่พูดไปว่าหนังตอบโจทย์ด้านความบันเทิงในชนิดที่ไม่เบือนหน้าหนีหรือเสียดายเงินแน่นอน เพียงแต่ว่าหนังขาดความฉลาดในการนำเสนอที่เสนอแบบตรงไปตรงมา (จบก็ออกจะ cliche ด้วยซ้ำ)รวมถึงการสร้างเสน่ห์ให้ตัวละคร ใช่อยู่ที่ว่าตัวละครไม่จำเป็นที่จะต้องมีเสน่ห์โดดเด่นขนาดนั้นเพราะอาจทำให้ความสมจริงหรือการนำภาวะตกอยู่ที่นั่งลำบากของตัวละครสู่คนดูลดลงตามไปด้วย ทั้งที่หนังมีการใช้วิธี flashback (ซึ่งออกจะออกมาอย่างทะเล่อทะล่าก็ว่าได้) และเล่าปูมตัวละครในที่สุด ก็ไม่สามารถทำให้น้ำหนักการกระทำ/ตัดสินใจของตัวละครออกมา sensible อย่างที่ควรจะเป็นอยู่ดี.

ที่น่าเสียดายคือปริศนาในห้องถูกทำออกมาได้ถูกแก้ไขโดยง่ายเกินไป (คือมันยากแหละ แต่ตัวละครไขปริศนาออกมาได้ดูรวดเร็วเกินไป) ทำให้ขาดอรรถรสในการเอาใจช่วยตัวละคร.

escape room ยังคงสอบผ่านการเป็นหนังที่ตอบสนองความบันเทิง เพียงแต่ว่ายังคงคาดหวังว่าภาคสอง (ซึ่งเชื่อว่ามี) จะสร้างปริศนาให้สนุกลุ้นมากกว่านี้.

ติดตามต่อได้ที่เพจ คนวิจารณ์หนังฝรั่ง

www.facebook.com/fcritics